คนขี้โกหกสุด ๆ ทุกเรื่องในชีวิตมันมีจริง ๆ นะเออ ไม่เว้นแม้แต่ที่ทำงาน PART 5
PART 1 : https://board.postjung.com/911516.html
PART 2 : https://board.postjung.com/911546.html
PART 3 : https://board.postjung.com/911613.html
PART 4 : https://board.postjung.com/911848.html
เรื่องเจ็บป่วยของนายวีซาลงไปเยอะแล้ว ไม่ได้อัพเดทอาการให้ใครๆ รู้
แต่ญาติพี่น้องนี่ล้มป่วย ล้มตายกันเหลือเกิน ลางานไปงานศพบ่อย ลาไปนานๆ โผล่มาก็เรียกร้องความสนใจด้วยการเล่าเรื่องเห็นผี เห็นวิญญาณ ให้เพื่อนๆ ฟัง เพื่อเบี่ยงความสนใจเรื่องที่ลางานหายไปทำตัวสบาย ด้วยการมาสนใจเรื่องผีแทน
และแล้วเสาหลักของครอบครัวนายวีก็มีอันต้องเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ อาการสาหัส นายวีต้องลางานไปดูแลพ่ออยู่เรื่อยๆ
จนถึงวันที่พ่อนายวีสิ้นใจ ฮีก็มาบอกคนในแผนกด้วยอาการเศร้าๆ
ครอบครัวนายวีตั้งศพพ่อที่นครศรีธรรมราช พี่หัวหน้า 2 คนจะไปร่วมงานศพในวันหยุดสุดสัปดาห์ และอาจจะอยู่ต่อจนวันเผา
ฝ่ายบุคคลก็เรี่ยไรเงินช่วยเหลือทั้งบริษัท ได้มา 2 พันกว่าบาท (คนรักเยอะเหลือเกิน)
ส่วนผม แอบไม่เชื่อบ้างนะว่าพ่อฮีตาย แต่ไม่กล้าพูด
ใจหนึ่งก็คิดว่าคงไม่เอาเรื่องแบบนี้มาเล่นหรอก
แต่อีกใจหนึ่งก็ ....มันประจวบเหมาะเกินไปป่าววะ รวมหลายเรื่องที่นายนี่สร้างมา เคสนี้มีเปอร์เซ็นต์แหลเยอะพอสมควร
และแล้ว พอถึงวันจันทร์ ผมแปลกใจที่หัวหน้านายวีมาทำงานไว ก็สงสัยว่า ไม่ไปงานเผาศพพ่อนายวีหรอ ไหนนัดกับพี่อีกคนว่าไปชัวร์
หรือว่ากลับมาแล้ว แต่ก็มาไวเกิน วางแผนกลับเมื่อวาน ก็ไม่คิดว่าจะมาทำงานเลย
ได้ความว่า นายวีโทรมาบอกพวกเขาก่อนจะเดินทางกัน ว่าตำรวจยังไม่ให้ทำพิธี ขอให้รอชันสูตรศพก่อน เพราะสงสัยว่าเป็นคดีฆาตกรรม เพราะก่อนหน้ามีเรื่องกับคนในพื้นที่
ตอนนั้นคนอื่นยังเชื่ออยู่ แต่ผมงี้ยิ้มมุมปากละ
ว่าจะไม่คิดอะไรอกุศลแล้ว เจอยังงี้อดไม่ได้จริงๆ
..........................................................................................................................................................................................
นายวีหายไปอาทิตย์กว่าๆ กลับมายกมือไหว้ขอบคุณพวกหัวหน้าที่ใส่ซองช่วยงานศพ
แต่พวกเพื่อนๆ ในแผนก นายวีไม่เห็นไปขอบคุณใครเลย
เหตุการณ์นี้ผมนึกย้อนไปว่า นายวีทำดีกับคนระดับหัวหน้าหรือคนที่สามารถเป็นบันไดให้ใช้สิทธิพิเศษใน บริษัทได้ เช่น แผนกบุคคล แผนกไอที
สรุปไม่มีใครได้เห็นศพพ่อนายวี ไม่มีรูปถ่ายงานศพ ไม่มีหลักฐานใดๆ ทั้งสิ้น มีเพียงลมปากพูดให้คนเชื่อ และใช้ชีวิตทำงานตามปกติ
เรื่องนึงที่ผมสังเกตได้ก็คือ นายวีจะไม่พลาดงานเลี้ยงสังสรรค์ต่างๆ เลยซักงานเดียว ฮี attend ครบ 100%
คือจะออกตัวสร้างกระแสว่า “ไม่ว่าง ....ไม่ไป” คงเพราะเรียกร้องความสนใจหรือให้คนง้อหรือยังไง
แต่สุดท้ายก็จะโผล่ไปงานนั้นงานนี้ทุกครั้ง ไม่เคยพลาด ไม่เคยติดนัดไหน
ถ้าทำงานได้ซักครึ่งนึงของเรื่องนี้ คงจะดีไม่น้อย หัวหน้าและน้องๆ ไม่ต้องเหนื่อย
งานหนึ่ง คืองานเลี้ยงส่งเพื่อนในแผนก พวกเรานัดเลี้ยงกันที่ร้านคาราโอเกะแถวดอนเมือง ฮีออกตัวว่าไม่ไป แล้วก็มีแววไม่ไปจริงๆ เพราะลางานอยู่
หัวหน้าฮีบอกว่า นายวีติดงานเผาศพพ่อที่นครศรีธรรมราช (ฮีบอกเรื่องนี้กับหัวหน้าแค่คนเดียว ทั้งๆ ที่มันเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องที่เพื่อนๆ –ยกเว้นผม - เป็นห่วงมาตลอดว่าคดีจะลงเอยยังไง)
พอรวมตัวกันในร้านอาหารซักพักนึง อยู่ดีๆ ฮีเดินเข้ามาในร้านเฉย แต่ไม่มีใครถามอะไรเลยว่าทำไมถึงมาได้ อะไรยังไง
ผมเองก็เอือมมากๆ แอบสะใจเล็กน้อยที่ไม่มีใครถามอะไรตานี่เลย
นิสัยนายวีอีกอย่างหนึ่ง คือ ขี้โม้ในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ และบอกกับแต่ละคนไม่เหมือนกัน
อย่างเพื่อนที่ลาออกไป เขาเป็นระดับหัวหน้า ทำงานลงรายละเอียดลึก จบสายตรง
นายวีเอามาโม้ว่า ผู้จัดการอยากให้นายวีไปทำตำแหน่งนี้แทน น้องที่ได้ยินมาจากปากถึงกับยี้ เพราะเป็นไปไม่ได้
งานที่ผ่านมา นายวีทำได้แค่งานธุรการ ไม่ได้ลงรายละเอียด ความรับผิดชอบ ความไว้ใจได้ยังน้อย
และในสายตาผู้จัดการ เขายังมาทำงานแบบลอยชายไปมาอยู่ ท่าดีทีเหลว ทำงานไม่ค่อยสำเร็จ ติดปัญหาและข้ออ้างเยอะ จะให้มารับตำแหน่งหัวหน้า หรือแม้แต่ถูกทาบทามก็เถอะ มันยิ่งกว่าเป็นไปไม่ได้ ทั้งๆ ที่มีตัวเลือกดีๆ อยู่แล้ว หรือหาเอาใหม่ยังจะโอเคกว่า
เวลาผ่านไป นายวียังคงป่วยอยู่นะครับ มีตรวจเจอเนื้อร้ายเพิ่มตรงนั้นตรงนี้ งานก็ส่งมอบให้น้องคนอื่นทำ เข้างานไม่กี่ ชม. ก็ออกไป อ้างว่าจะไปตรวจงานข้างนอก
แต่พอน้องโทรไปที่ไซต์งาน ทางนั้นบอกว่าไม่ได้ไป เป็นอย่างงี้บ่อยมาก แต่พวกเราอุบเงียบไว้แบบรู้กัน ไม่ได้ฟ้องใคร
เพราะคนๆ นี้ถ้าจับไม่ได้จังๆ แล้วเอาไปฟ้อง จะโวยวาย ใช้เสียง ทำแรงเข้าข่มแน่ๆ แบบที่ผมเคยโดนว่า-เมื่อคราวก่อน
อีกมุกหนึ่งที่นายวีใช้บ่อยๆ คือ สแกนนิ้วไม่ติด แล้วให้หัวหน้าเซ็นรับรอง เอาไปยื่นฝ่ายบุคคล
ทั้งๆ ที่ตัวเองมาสายเอง แต่ไม่ยอมสแกนนิ้ว เพราะถ้าสแกนระบบมันจะบันทึกว่ามาสาย
แล้วถ้าวันไหนหัวหน้าออกไปตรวจงานไม่เข้าออฟฟิศ นายวีก็จะใช้มุกนี้ คือไม่มาทำงานเลย หรืออาจจะมาสาย หรืออาจจะเข้างานแค่ 2-3 ชม. แล้วทำทีไปตรวจงานข้างนอก แล้วค่อยให้หัวหน้าเซ็นใบสแกนนิ้วไม่ติด ส่งบุคคล
เรื่องมีของมาอวด ไม่ได้มีแค่รถยนต์ คอนโดหรู คฤหาสน์อีกต่อไปครับ เรื่องเอาตามอย่างคนอื่นก็มีอีกเยอะ เช่น น้องในแผนกซื้อกีตาร์มาแล้วหัดเล่น ก็มาเล่าให้ฟัง
นายวีก็คงไม่อยากน้อยหน้ามั้ง ทำเป็นปริ้นท์คอร์ดกีตาร์ออกเครื่องปริ้นท์ แล้วไม่ยอมไปเอา (ประมาณว่าให้มีคนเห็น แล้วรับรู้ว่าช่วงนี้เล่นกีตาร์อยู่)
ทีนี้ น้องคนเดิมออกรถใหม่ นายวีก็เอารถใหม่คันหรูป้ายแดงขึ้นโชว์หน้าไลน์ ทำเป็นเหมือนเพิ่งซื้อมา เหมือนกัน (ซึ่งก็ไม่พ้น google image ฮีโร่ของพวกเรา)
เท่าที่ได้ยิน ก็พูดว่าซื้อมาหลายคันแล้วนะ โกหกจนลืมไปบ้างก็หลายคัน แต่เขาอวดว่าเงินเยอะ เป็นร้อยล้าน เคยเอาเงินฝากธนาคาร เค้าบอกไม่ให้ฝาก เพราะบัญชีเต็ม!!! (มันมีด้วยหรอวะ)