วัดภัทรินาถ Badrinath Temple
ตามรอยต้นน้ำคงคา สู่เชิงผาหิมพานต์ หุบเขาแห่งดอกไม้
**วัดภัทรินาถ Badrinath Temple** เมืองภัทรินาถจากเอาลี่ Auli เมื่อขึ้นเหนือไปอีก 54 กิโลเมตรก็จะถึงวัดภัทรินาถวัดนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเมือง ตำนานว่าท่านสังฆราจารย์ Shankaracharya ได้พบองค์ ภัทรินารายันซึ่งเป็นเทวรูปหินสีดำในแม่น้ำอลัคนันดา ซึ่งเทวรูปได้ถูกนำไปตั้งบูชาในถ้ำที่อยู่ใกล้กับบ่อน้ำพุร้อนเทพคุณ ในศตวรรษที่ 16 และกษัตริย์แห่งนครการ์วาล ได้ย้ายองค์มูรตินี ไปยังวัดจนถึงปัจจุบันนี้
เมืองภัทรินาถ Badrinath เมืองศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่สถิตย์ของพระวิษณุ หนึ่งในสี่ทิศของอินเดีย (ได้แก่ ภัทรินาถ ทิศเหนือ, ปูริ ทิศตะวันออก, ราเมศวราม ทิศใต้ และทวารกา ทิศตะวันตก) ซึ่งได้รับการกำหนดใน ศตวรรษที่ 8 โดยท่านอติ สังฆราจารย์ Adi Shankaracharya ซึ่งเป็นปรัชญาเมธีคนสำคัญของฮินดู)
เมืองนี้อยู่ในเขาการ์วัล สูง11,204 ฟุต หรือ 3,415 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ท่ามกลางเทือกเขานาร์ Nar และนารายณะ Narayana โดยมียอดเขานิลกัณฐ์ Neelkantha Peak ที่สูง 6,560 เมตรจากระดับ น้ำทะเล
วัดภัทรินาถนี้ได้รับการซ่อมแซมใหญ่หลายครั้งเนื่องจากความเก่าแก่ของโครงสร้างอาคารและบ่อยครั้งถูกก้อนน้ำแข็งจากยอดเขากลิ้งลงมาทับทำลาย ต่อมาวัดได้รับการต่อเติมและขยายออกตามคำสั่งของ กษัตริย์แห่งนครการ์วาลในศตวรรษที่ 17 และต่อมาเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเทือกเขาหิมาลัย ทำให้วัดพังทลายไปด้วย ซึ่งกษัตริย์แห่งชัยปุระได้ออกโรงบูรณปฏิสังขรณ์จนแล้วเสร็จในที่สุดตัวอาคารของวัดสูง ประมาณ 50 ฟุตหรือ 15 เมตร โดยมีหลังคาเล็ก ๆ ปิดด้วยทองคำคลุมอยู่บนยอดสุดของอาคาร ด้านหน้าอาคารสร้างจากหินเป็นรูปโค้ง ทางเข้าหลักสู่วัดเป็นบันไดกว้าง ซึ่งการก่อสร้างตัวอาคารและภาพวาดด้าน หน้าอาคารคล้ายวัดในพุทธศาสนา (วิหาร)
ภายในวัดมีการสร้างเป็นโถงขนาดใหญ่ ซึ่งมีเสาหินขนาดใหญ่ค้ำตัวอาคารอยู่ และบริเวณภายในห้องพิธีกรรมหลัก ผนังและเสาหินมีการแกะสลักอย่างปราณีตงดงาม
สะพานภีมะปุย Bheem Pui Bridge ก้อนหินขนาดมหึมาที่เกิดขึ้นเป็นสะพาน ข้ามแม่น้ำสรัสวดี