การล้างชาติโดยนาซี
"การเลือกสรร" ใน ค่ายกักกันเอาชวิตช์ ช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 1944; ผู้ที่ถูกส่งไปอยู่ทางขวา หมายถึง ผู้ที่จะถูกนำไปใช้แรงงานทาส ส่วนผู้ที่ถูกส่งไปทางซ้าย คือ ผู้ที่จะถูกนำไปประหารในห้องรมแก๊ส จากภาพ เป็นชาวยิวฮังกาเรี่ยนซึ่งพึ่งมาถึงค่าย ภาพนี้ถ่ายโดยเออร์เนสต์ ฮอฟแมนหรือเบอร์นาร์ด วอลเตอร์
การล้างชาติโดยนาซี (อังกฤษ: Holocaust) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า haShoah (ภาษาฮีบรู: השואה), Churben (ภาษายิดดิช: חורבן) เป็นชื่อเรียกโดยทั่วไปที่ใช้อธิบายถึงการพันธุฆาตประชากรชาวยิวที่อาศัยอยู่ในยุโรปอย่างน้อยจำนวน 6 ล้านคนระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งเป็นแผนการทำลายล้างโดยเจตนาของนาซีเยอรมนี ภายใต้การนำของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ โดยใช้ชื่อรหัสว่า "การแก้ปัญหาชาวยิวครั้งสุดท้าย"
นอกจากนี้ก็ยังมีคนกลุ่มอื่นที่ไม่ใช่ยิว ถูกล้างเผ่าพันธุ์เช่นเดียวกัน อันประกอบด้วย ชาวยิปซี ชาวโรมัน ชาวโซเวียต เชลยศึกชาวโซเวียต ชาวโปล ผู้พิการ พวกรักร่วมเพศและคู่แข่งทางการเมืองและศาสนา แต่ผู้รู้ส่วนใหญ่กล่าวถึงการล้างชาติโดยนาซีว่าเป็นการพันธุฆาตชนชาติยิวเพียงอย่างเดียว บางคนถูกนำตัวไปวิจัยหรือทำการทดลองทางการแพทย์หรือการทดลองทางวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ ตามแผนปฏิบัติการที่ 4 โดยจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดจากการล้างชาติโดยนาซีคาดว่าอยู่ระหว่าง 9-11 ล้านคน
ต้นกำเนิดและการใช้คำ
ที่มาและรากศัพท์
คำว่า การล้างชาติ ในภาษาอังกฤษคือ "holocaust" มีรากศัพท์มาจากคำในภาษากรีกว่า holókauston ซึ่งแยกได้เป็นสองคำ คือ (holos) "อย่างสิ้นซาก" และ (kaustos) "เผา" ซึ่งมีความหมายถึงการบูชายัญต่อพระเจ้า ต่อมาในคริสต์ศตวรรษที่ 11 คำดังกล่าวได้ถูกใช้ในภาษาละตินว่า holocaustum ใช้บรรยายถึงการสังหารหมู่ชาวยิวโดยเฉพาะ และเมื่อถึงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 คำว่า holocaust ใช้ในความหมายว่า ความหายนะหรือความล่มจม
ส่วนคำในพระคัมภีร์ไบเบิล คำว่า Shoah (שואה) (หรืออาจจะสะกดว่า Sho'ah และ Shoa) หมายถึง "ความหายนะใหญ่หลวง" เป็นคำในภาษาฮีบรูที่ใช้บรรยายถึงการล้างชาติโดยนาซีในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1940 ชาวยิวได้ใช้คำว่า Shoah ด้วยเหตุผลหลายประการด้วยกันรวมไปถึงใจความของคำว่า "holocaust" ที่มีความหมายไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากเป็นการบรรยายถึงวัฒนธรรมนอกรีดของชาวกรีกโบราณ
คำจำกัดความ
คำว่า holocaust ได้เริ่มปรากฎการใช้ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 18 ในความหมายถึง "การตายของคนกลุ่มใหญ่อย่างรุนแรง" ยกตัวอย่างเช่น นายวินสตัน เชอร์ชิลล์และเหล่านักเขียนในยุคก่อนหน้าสงครามโลกครั้งที่สองได้ใช้คำดังกล่าวในการบรรยายถึงการพันธุฆาตชาวอาร์เมเนียนในช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง แต่หลังจากคริสต์ทศวรรษ 1950 เป็นต้นมา คำดังกล่าวถูกจำกัดวงมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันนี้ คำดังกล่าวเป็นคำวิสามานยนามที่ใช้อธิบายถึงการล้างชาติโดยนาซีเท่านั้น
คำว่า holocaust เป็นการแปลความหมายมาจากคำว่า Shoah ซึ่งเป็นคำในภาษาฮีบรูในความหมายว่า เหตุหายนะใหญ่หลวง ความฉิบหาย มหันตภัยและการทำลายล้าง ซึ่งปรากฎในหนังสือที่มีชื่อว่า Sho'at Yehudei Polin ในกรุงเยรูซาเลม ซึ่งต่อมาได้แปลเป็น การล้างชาติโดยนาซีต่อชาวยิวในโปแลนด์ ส่วนก่อนหน้านั้น คำว่า Shoah เป็นคำที่ใช้บรรยายถึงพรรคนาซีว่าเป็นความหายนะใหญ่หลวง
พจานุกรมภาษาอังกฤษ ฉบับออกซ์ฟอร์ด เห็นพ้องต้องต้องกันว่า คำว่า holocaust หมายความถึง ลักษณะการกระทำของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ที่มีต่อชาวยิวในปี พ.ศ. 2485 ความหมายนี้ยังไม่ได้ถูกยอมรับอ้างอิงจนกระทั่งคริสต์ทศวรรษ 1970 จึงเป็นที่ยอมรับ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคำคำนี้จะแปลโดยสามัญว่าเป็นการฆ่าล้างชาติที่กระทำโดยพรรคนาซี แต่คำว่า holocaust ก็แปลได้หลายทางเช่นกัน
ขบวนการล้างชาติของนาซี
ขบวนการล้างชาติของพรรคนาซี มีสาเหตุมาจากการแบ่งแยกเชื้อชาติระหว่างพวกชนชาติเชื้อสายอารยันและพวกที่ ไม่มีเชื่อสายอารยันโดยมุ่งเป้าหมายหลักไปยังชาวยิวที่อยู่อาศัยในทวีปยุโรป การทำลายล้างชนชาติยิวเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อพรรคนาซีได้ขึ้นนำ ประเทศเยอรมันเมื่อฮิตเลอร์ขึ้นปกครองประเทศโดยชอบธรรมตามกฎหมายในปีค.ศ. 1933 ฮิตเลอร์โยนความผิดและปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในเยอรมันในเวลานั้นว่าเป็นความ ผิดของชาวยิว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจตกต่ำ เหตุการณ์ไฟไหม้ การที่เยอรมันแพ้สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และปัญหาต่างๆอีกร้อยพันประการ
ชาวยิวในเวลานั้นถูกกดขี่ข่มเหงในทุกรูปแบบ พรรคนาซีออกกฎหมายกว่า 400 มาตราเพื่อริดรอนสิทธิชาวยิว เช่นชาวยิวไม่สามารถเป็นเจ้าของที่ดินเพาะปลูกในเยอรมันได้ กิจการร้านค้าของชาวยิวโดนรัฐบาลเยอรมันสั่งปิด นอกจากนี้นาซียังออกกฎหมายสั่งปลดประชากรเชื้อสายที่ไม่ใช่ชาวอารยันออกจาก งาน ในเวลานั้นชาวยิวหลายคนที่อยู่ผิดที่ผิดเวลาโดนทุบตีทำร้ายจนบางครั้งถึง เสียชีวิต ชาวยิวจำนวนหนึ่งอพยพหนีความรุนแรงกลับไปยังปาเลสไตน์
ท้ายที่สุดพรรคนาซีสร้างไล่ต้อนชาวยิวให้ไปอยู่อาศัยในบริเวณกักกัน(The Ghettos) พวกเขาโดนใช้งานหนักในโรงงานที่ถูกสร้างขึ้นข้างๆรั้วของบริเวณกักกันเพื่อ ให้ชาวเยอรมันได้รับผลประโยชน์จากแรงงานชาวยิวโดยไม่เสียเงิน ชาวยิวมากมายในสถานกักกันตายเพราะความหิวโหย เนื่องจากปริมาณอาหารที่รัฐบาลหยิบยื่นให้นั้นมีไม่เพียงพอต่อจำนวนประชากร รวมทั้งโรคระบาดและความหนาวได้คร่าชีวิตประชากรชาวยิวมากมายในบริเวณกักกัน ชาวยิวที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ต้องมารับเคราะห์โดยที่ไม่รู้ว่าพวกนาซีต้องการ อะไรกันแน่ ชาวยิวบางคนฆ่าตัวตายเพราะความหมดหวังในการมีชีวิตอยู่ต่อไปในสถานที่ที่ เปรียบเสมือนนรก
ประสิทธิผล
ในช่วงแรกๆนั้น ชาวยิวยังตายวันนึงน้อยเกินไป จึงได้มีการใช้ก๊าซพิษหลากชนิด ตั้งแต่ไซคลอนบี(เป็นสารไซยาไนต์แบบระเหยได้)ในช่วงแรก ไปจนถึงซารินที่ร้ายแรงกว่ามาก
จำนวนผู้เสียชีวิต
จำนวนที่แน่นอนของผู้ที่เสียชีวิตจากน้ำมือของนาซีอาจจะไม่มีใครล่วงรู้ แต่เชื่อว่ามีจำนวนผู้เคราะห์ร้าย ดังนี้
- 5-6 ล้านคน เป็นชาวยิว รวมทั้งชาวโปแลนด์ที่เป็นยิว 3 ล้านคน
- 1.8-1.9 ล้านคน เป็นชาวคริสเตียนและผู้คนที่ไม่ใช่ชาวยิว แต่ต่อต้านพรรคนาซีและถูกนาซียึดครอง
- 200,000-800,000 คน เป็นชาวโรมาหรือชาวยิปซี
- 200,000-300,000 คน เป็นผู้ที่ไม่มีประโยชน์ในการใช้แรงงาน
- 80,000-200,000 คน เป็นผู้ที่มาจากสมาคมของยุโรปที่ต่อต้านการกระทำของพรรคนาซี
- 100,000 คน เป็นผู้ที่นับถือลัทธิคอมมิวนิสต์
- 10,000-25,000 เป็นพวกรักร่วมเพศ
- 2,500-5,000 เป็นชาวคริสเตียน นิกายพยานของพระยโฮวา (Jehovah's Witnesses)
แผนที่แสดงพื้นที่ที่ชาวยิวถูกจับไปที่ค่ายกักกันของนาซีเมือเดือนธันวาคม พ.ศ. 2484
รูล ฮิลเบิร์ก เจ้าของผลงานหนังสือ The Destruction of the European Jews (การสังหารชาวยุโรปเชื้อสายยิว) คาดว่ามีชาวยิวทั้งหมด 5.1 ล้านคนที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์การล้างชาติของนาซี จากสถิติกล่าวไว้ว่า มากกว่า 8 แสนคน เสียชีวิตจากบริเวณเกท-โทและความขาดแคลน, 1.4 ล้านคนเสียชีวิตเพราะถูกยิงทิ้งกลางแจ้ง และมากกว่า 2.9 ล้านคน เสียชีวิตอยู่ในค่ายกักกันนั้น เอง ฮิลเบิร์กประมาณการว่าน่าจะมีผู้เสียชีวิตในประเทศโปแลนด์เป็นจำนวนมากกว่า 3 ล้านคน ตัวเลขที่ฮิลเบิร์กนำมาพิจารณานี้ได้มาจากบันทึกเท่าที่หาได้ จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
ผู้กระทำผิดและผู้ร่วมมือ
ไฮน์ริช ฮิมเลอร์เป็นคนต้นคิดในการใช้ก๊าซพิษเพื่อฆ่ายิวในค่ายกักกันให้ได้มากที่สุด โจเซฟ เมนเกเล
ใครคือผู้ชี้ทางสู่การฆาตกรรม?
หลายๆคนอาจคิดว่า เป็นอดอล์ฟ ฮิตเลอร์แต่โดยความจริงแล้ว เรื่องนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด เพราะตอนที่ฮิตเลอร์ยังเรียนอยู่ ก็มีขบวนการต่อต้านยิวอยู่แล้ว
เยอรมนี
บัลแกเรีย
ชาวยิวในประเทศบัลแกเรีย หรือแม้แต่พลเรือนและทหารที่อยู่ในเขตการปกครองของประเทศมาซิโดเนียและทางตอนเหนือของประเทศกรีซ ก็ถูกเนรเทศเข้าสู่ประเทศบัลแกเรียของเยอรมนี ประเทศบัลแกเรียก็ไม่ได้ขัดขวางการเนรเทศผู้คนของเยอรมนี ซึ่งชาวยิวที่ถูกเนรเทศเหล่านี้จะถูกนำตัวไปยังค่ายกักกัน
ฟาสซิสท์ อิตาลี
เครดิต- วิกิพีเดีย http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%8B%E0%B8%B5