การไหว้พระจันทร์ : ประวัติ ตำนาน และความเชื่อ ของชาวไทยเชื้อสายจีน
ช่วงนี้ใกล้เข้าสู่เทศกาลไหว้พระจันทร์แล้วที่บ้านจะได้รับขนมไหว้พระจันทร์มาเยอะเลย ด้วยความเป็นลูกครึ่งจีน ผู้เขียนเลยหยิบยกเรื่องการไหว้พระจันทร์ ในมุมมองของประวัติความเป็นมา ตำนานเรื่องเล่า และความเชื่อ พร้อมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของการไหว้พระจันทร์มาอ่านให้อ่านกัน เทศกาลการไหว้พระจันทร์ ของชาวจีน ตรงกับ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 จันทรคติตามปฏิทินจีน ซึ่งจะตรงกับปฏิทินไทยในช่วงเดือนกันยายน- ตุลาคมของทุกปี และในปีนี้จะตรงกับวันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2568
เทศกาลวันไหว้พระจันทร์ ในภาษาจีนเรียกว่า “จงชิว” หมายถึง “กึ่งกลางฤดูใบไม้ร่วง” คนจีนจึงเรียกประเพณีไหว้วันพระจันทร์ในอีกหลายชื่อ มีทั้งเทศกาลพระจันทร์ เทศกาลไหว้พระจันทร์ เทศกาลชมจันทร์ เทศกาลตามจันทร์ เทศกาลเล่นพระจันทร์ และเทศกาลเดือนแปด วันนี้เลยจะมาเล่าประวัติความเป็นมา ตำนาน และความเชื่อเกี่ยวกับการไหว้พระจันทร์ของชาวจีนกัน
ต้นกำเนิดของเทศกาลไหว้พระจันทร์มีที่มาหลายกระแส บ้างก็ว่ามาจากการเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยวซึ่งมีความสำคัญในสังคมจีนโบราณที่เป็นสังคมเกษตรกรรม โดยอาจย้อนรอยไปในสมัยราชวงศ์ชางที่ชาวบ้านบูชาเทพภูเขาที่ช่วยให้การเก็บเกี่ยวลุล่วงไปด้วยดี แต่คำว่า “กลางฤดูไม้ร่วง” นี้ได้ปรากฏเป็นครั้งแรกในตำราโจวหลี่ ที่มีการบันทึกพิธีการต่างๆในสมัยราชวงศ์โจว แต่กระนั้นก็ไม่ได้กล่าวถึง “กลางฤดูไม้ร่วง” ในแง่ที่เป็นเทศกาลแต่อย่างใด
เทศกาลไหว้พระจันทร์เริ่มมาเป็นที่แพร่หลายในสมัยของจักรพรรดิถังสวนจง แห่งราชวงศ์ถังผู้มีศรัทธาในลัทธิเต๋า พระองค์มีดำริให้จัดพิธีเฉลิมฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์อย่างเป็นทางการ หลังจากได้เสด็จเยือนพระราชวังบนดวงจันทร์ด้วยพระองค์เอง และในราชวงศ์ถังนี่เองที่เริ่มมีธรรมเนียมชมจันทร์เกิดขึ้น โดยเริ่มในหมู่ชนชั้นสูงก่อนแล้วจึงแพร่หลายมาสู่ราษฎร นอกจากการเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยวแล้ว วันไหว้พระจันทร์ก็เช่นเดียวกับเทศกาลจีนอื่นๆที่มักมีตำนานอันน่าทึ่งเกี่ยวกับเหล่าเทพเจ้าบนท้องฟ้า โดยที่โด่งดังที่สุดคงหนีไม่พ้นตำนาน “ฉางเอ๋อเหาะเหินสู่ดวงจันทร์” ของคู่รัก ฉางเอ๋อ และ โฮ่วอี้ ที่เล่าขาสตำนานกันว่า
ในครั้งอดีตกาล บนท้องฟ้ามีดวงอาทิตย์อยู่ 10 ดวง ทำให้โลกร้อนระอุ พืชพรรณธัญญาหารไม่เจริญงอกงาม ผู้คนทุกข์ยากแสนสาหัส “โฮ่วอี้” นักยิงธนูฝีมือดี จึงใช้ลูกธนูเพียงดอกเดียวยิงเข้าใส่ดวงอาทิตย์ 9 ดวงจนเหลือเพียงดวงเดียว ทำให้เขากลายเป็นวีรบุรุษและได้รับรางวัลเป็นยาอายุวัฒนะที่ดื่มแล้วทำให้กลายเป็นเซียนและมีชีวิตอมตะจากเจ้าแม่ซีหวังหมู่ แต่โฮ่วอี้กลับไม่ยอมดื่มและขอให้ “ฉางเอ๋อ” ผู้เป็นภรรยาเก็บรักษาไว้ เพราะเขาไม่ต้องการมีชีวิตอมตะหากปราศจากฉางเอ๋ออยู่เคียงข้าง
วันหนึ่งกลางฤดูใบไม้ร่วงขณะที่โฮ่วอี้ออกไปล่าสัตว์ ลูกศิษย์คนหนึ่งนาม “เฝิงเหมิง” (บ้างก็เรียก “เผิงเหมิง” ได้บังคับขู่เข็ญให้ฉางเอ๋อมอบยาอายุวัฒนะให้ ฉางเอ๋อไม่ยินยอมและตัดสินใจดื่มเสียเอง หลังจากดื่มร่างของนางได้ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า ด้วยความอาลัยรักต่อโฮ่วอี้ผู้เป็นสามี ฉางเอ๋อได้เหาะเหินไปสู่ดวงจันทร์ที่อยู่ใกล้กับโลกเพื่อที่มองลงมาแล้วจะยังได้เห็นสามี เมื่อโฮ่วอี้กลับจากล่าสัตว์และทราบเรื่องฉางเอ๋อจึงเสียใจมาก เขาแหงนมองดวงจันทร์พร้อมร้องเรียกภรรยาและได้มองเห็นเงาคล้ายกับฉางเอ๋อปรากฏอยู่บนนั้น และนี่ก็คือเรื่องราวระหว่างฉางเอ๋อกับโฮ่วอี้ ก่อนที่ฉางเอ๋อจะกลายเป็นเทพธิดาแห่งดวงจันทร์ จะเห็นว่าในตำนานนี้โฮ่วอี้มีสถานะเป็น “วีรบุรุษ” ที่ช่วยชาวโลกไว้และถูกทรยศจากลูกศิษย์ที่หวังชิงยาอายุวัฒนะ แต่ก็มีอีกเวอร์ชั่นหนึ่งที่โฮ่วอี้ได้กลายมาเป็น “ผู้ร้าย” เสียเอง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรเรามาติดตามไปพร้อมๆกันนะคะ
ตำนานเวอร์ชั่นนี้เล่าว่า หลังจากโฮ่วอี้นำความผาสุกมาสู่ประชาชนด้วยการยิงธนูใส่ดวงอาทิตย์จนเหลือเพียงดวงเดียวก็ได้รับการสถาปนาให้เป็นกษัตริย์ ทว่า โฮ่วอี้กลับเป็นกษัตริย์ที่หลงมัวเมาในอำนาจและสุรานารี เข่นฆ่าผู้คนตามอำเภอใจ โฮ่วอี้ซึ่งรู้ตัวว่าตนสร้างความโกรธแค้นแก่ราษฎรจึงเดินทางไปยอดเขาคุนหลุนเพื่อหวังขอยาอายุวัฒนะจากเจ้าแม่ซีหวังหมู่ ทว่า ฉางเอ๋อ ผู้เป็นมเหสีกลัวว่าถ้าโฮ่วอี้มีอายุยืนยาวจะยิ่งนำพาความเดือดร้อนมาสู่ราษฎรจึงตัดสินใจขโมยยาอายุวัฒนะมาดื่มเสียเอง หลังจากดื่มเข้าไปร่างของฉางเอ๋อจึงลอยขึ้นสู่ดวงจันทร์ นับแต่นั้นมาบนดวงจันทร์ก็ปรากฏร่างของเทพธิดาที่เชื่อกันว่าเป็นฉางเอ๋อ ทุกวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ชาวบ้านจึงจัดพิธีไหว้ดวงจันทร์ เพื่อแสดงความเคารพต่อฉางเอ๋อที่ช่วยปกปักรักษาให้ชาวบ้านอยู่เย็นเป็นสุข
อย่างไรก็ตามหากพูดถึง “ดวงจันทร์” แล้วจะไม่พูดถึง “กระต่ายในดวงจันทร์” ก็ดูเหมือนจะขาดอะไรไปนะคะ ตำนานกระต่ายในดวงจันทร์นี้เป็นเรื่องเล่าของทางเอเชียตะวันออก ในแต่ละประเทศก็มีรายละเอียดต่างกัน แม้แต่ของจีนเองก็มีอยู่หลายเวอร์ชั่นโดยทุกเวอร์ชั่นล้วนสัมพันธ์กับ “ดวงจันทร์” โดยตำนานเล่าว่า...
มีกระต่ายตัวหนึ่งอาศัยอยู่บนดวงจันทร์ กระต่ายตัวนี้ทำหน้าที่ปรุงยาอายุวัฒนะให้กับ “ฉางเอ๋อ” เทพธิดาแห่งดวงจันทร์ บ้างก็ว่ากำลังทำขนมไหว้พระจันทร์ (ตำนานญี่ปุ่นเล่าว่ากำลังตำแป้งสำหรับทำโมจิ) วันหนึ่งได้เกิดโรคอหิวาต์ระบาดครั้งใหญ่ในกรุงปักกิ่ง เทพธิดาฉางเอ๋อจึงส่งกระต่ายลงมารักษาโรคให้กับชาวบ้าน หลังจากรักษาชาวบ้านและกำจัดโรคร้ายสำเร็จ เจ้ากระต่ายจึงกลับขึ้นไปบนดวงจันทร์ ตั้งแต่นั้นมาเลยมีธรรมเนียมกราบไหว้บูชาเทพเจ้ากระต่ายในเทศกาลไหว้พระจันทร์ด้วย
โดยสรุปแล้ว จนถึงวันนี้ก็ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าต้นกำเนิดหรือจุดประสงค์ที่แท้จริงของเทศกาลไหว้พระจันทร์มีเพื่อสิ่งใดกันแน่ แต่ไม่ว่าจะเพื่อเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยวผลผลิต หรือเพื่อระลึกถึงเทพธิดาฉางเอ๋อ ที่แน่ๆในวันนี้พวกเราจะได้ลิ้มรสขนมไหว้พระจันทร์แสนอร่อยที่มีให้รับประทานกันปีละครั้ง และสำหรับชาวจีนแผ่นดินใหญ่เอง วันนี้ยังถือเป็นวันสำคัญที่จะได้เดินทางกลับบ้านไปอยู่ร่วมกับครอบครัวแบบพร้อมหน้าพร้อมตาอีกด้วย
ชาวจีนอาจไม่ได้มีความเชื่อหรือตระหนักถึงความสำคัญของเทศกาลไหว้พระจันทร์ในบริบทที่เคยเป็นมา แต่เทศกาลไหว้พระจันทร์ก็ยังเป็นหนึ่งในเทศกาลที่ชาวจีนตั้งตารอมากที่สุด เนื่องจากทางการจีนกำหนดให้เทศกาลนี้เป็นวันหยุดยาว ชาวจีนที่ออกมาทำงานต่างเมืองจึงรอคอยที่จะใช้โอกาสนี้เดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อใช้เวลาร่วมกับครอบครัว ส่วนผู้ที่ไม่ได้เดินทางกลับบ้านก็จะใช้โอกาสนี้พักผ่อนหรือใช้เวลาร่วมกับเพื่อนสนิทมิตรสหาย
ในคืนวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ที่ตรงกับเทศกาลไหว้พระจันทร์ เป็นคืนเดือนเพ็ญที่พระจันทร์เต็มดวงลอยเด่นบนท้องฟ้า กล่าวกันว่าคืนนี้พระจันทร์จะกลมโตและส่องสว่างงดงามที่สุดในรอบปี สมาชิกครอบครัวจะมารวมตัวกันเพื่อรับประทานอาหารค่ำ ชมความงามของดวงจันทร์ พร้อมรับประทาน “ขนมไหว้พระจันทร์” ซึ่งรูปทรงกลมของมันมีที่มาจากดวงจันทร์ และเป็นสัญลักษณ์ของความสุขและความสมัครสมานสามัคคีของคนในครอบครัว ตามธรรมเนียมแล้วเวลากินขนมไหว้พระจันทร์จึงต้องตัดแบ่งเป็นชิ้นขนาดเท่าๆกันเท่ากับจำนวนสมาชิกในครอบครัว นอกจากนั้นแล้ว ในคืนวันไหว้พระจันทร์ในบางพื้นที่ก็จะมีการไหว้ขอพรจากดวงจันทร์ โดยมักเริ่มตั้งโต๊ะบูชาตั้งแต่ตอนหัวค่ำที่ดวงจันทร์ปรากฏบนท้องฟ้าไปจนถึงประมาณ 4-5 ทุ่มและมีการจุดโคมด้วย
อย่างไรก็ตามจากประวัติ ตำนาน เรื่องเล่าของการไหว้พระจันทร์ที่ชาวจีนยึดถือเป็นขนบธรรมเนียมและมีการสืบทอดกันมาช้านาน สิ่งหนึ่งที่เห็นจากการไหว้พระจันทร์คือการรวบญาติ ความรัก ความสามัคคี การแบ่งปันกันจากการแบ่งขนมไหว้พระจันทร์ทานกันในเทศกาล มันเป็นความอบอุ่นที่มอบให้กันในเทศกาลนี้
************
วิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัล
"ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบ
เซียนหวยคึกคัก ม้าสีหมอกปล่อยแนวทางเลขเด็ด งวด 2 มกราคม 2568
เขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?"
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย
เจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์
เมื่อตัวแม่ปะทะเจ้าของบริษัท! "ป้ารัตนา" โชว์สกิลสัมภาษณ์งาน ทำเอา "มอส มัดจุก" ถึงกับไปไม่เป็น
10 พรรณไม้สวยพิษร้าย: ความงดงามที่ต้องแลกด้วยอันตรายถึงชีวิต
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
AI วิเคราะห์เลขท้าย 2 ตัว งวดวันที่ 2 มกราคม 69..โดยใช้สถิติย้อนหลัง 20 ปี
เช็คดวงประจำปี2569 ของชาว 12 ราศี จากไพ่ออราเคิล
ปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉย
สาวปริศนาปล่อยอึในร้านมินิมาร์ท พนง.เก็บกวาดปล่อยโฮ เพราะต้องตามเช็ด (เหตุเกิดที่ไทย)
วัฒนธรรมของ สัตว์เลื้อยคลาน ที่มันคือกิ้งก่าขนาดใหญ่
นี่หน่ะหรือ ขนมที่ใช้ในพิธีขันหมาก
ศึกเดือดกลางเมืองชล! "ไอซ์ รักชนก" ปะทะคารมกลุ่มแม่ยก "พี่เฮ้ง" ปมแก้รัฐธรรมนูญและตรวจสอบทุจริต
บราวนี่ ไม่ใช้เตาอบ ส่วนผสมน้อย อร่อยสร้างภาพ










