5 ซีรีส์จีนย้อนยุคที่คุณต้องดู หากคุณคิดถึง “Legend Of The Female General”
ตัวละครหญิงแกร่งในซีรีส์จีนย้อนยุคเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมมาโดยตลอด และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เรื่องราวของพวกเธอก็ยิ่งทรงพลังและลึกซึ้งมากขึ้น หนึ่งในซีรีส์ที่สะท้อนจิตวิญญาณนี้ได้อย่างแท้จริงคือเรื่อง “Legend Of The Female General”
ซีรีส์เรื่องนี้สร้างจากนวนิยายเรื่อง “Rebirth of the Female General Star” ของ Qian Shan Cha Ke โดยเล่าเรื่องราวของ เหอเหยียน (รับบทโดย โจวเหย่) ลูกสาวคนโตของตระกูลเหอ ที่ถูกบังคับให้ปลอมตัวเป็นลูกชายคนโต “เหอหรูเฟย” เพื่อปกป้องตำแหน่งขุนนางของตระกูล ภายใต้การปลอมตัวนี้ เธอได้แสดงความสามารถอันยอดเยี่ยมในสนามรบและมีชื่อเสียงขึ้นมาในฐานะแม่ทัพในตำนาน แต่เมื่อเธอกลับบ้าน ไม่ใช่ความรุ่งโรจน์ที่รออยู่ แต่เป็นการทรยศ เมื่อพี่ชายตัวจริงปรากฏตัวขึ้นและแย่งชิงความดีความชอบทั้งหมด เหอเหยียนจึงถูกวางยาพิษและทิ้งไว้ให้ตาย
ด้วยความไม่ยอมจำนนต่อการทรยศ เธอรอดชีวิตมาได้และเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะลูกสาวของนายด่านประจำเมือง เหอเหยียนปลอมตัวเป็นชายอีกครั้งและเข้ารับราชการทหารที่เมืองเย่โจว โดยตั้งใจที่จะเปิดโปงความจริงและทวงคืนชีวิตของเธอ ที่นั่นเอง เธอได้กลับมาพบกับ เซียวเจวี๋ย (รับบทโดย เฉิงอี้) แม่ทัพผู้ฉลาดและน่าเกรงขาม ที่เธอเคยรู้จักที่สำนักเซียนฉาง ในตอนแรกความสงสัยปกคลุมความสัมพันธ์ของพวกเขา โดยเซียวเจวี๋ยสงสัยว่าเธออาจเป็นสายลับ แต่เมื่อต้องผ่านสมรภูมิ การต่อสู้เฉียดตาย และการปกป้องเมืองหลุนตูด้วยกัน ความเชื่อใจก็ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นจนกลายเป็นความเคารพ และความเคารพก็พัฒนาไปเป็นความรักในที่สุด
เหอเหยียนกลายเป็นหนึ่งในตัวละครที่โดดเด่นที่สุดในปีนี้ และสร้างความประทับใจอย่างไม่รู้ลืม แม้ซีรีส์จะได้รับกระแสตอบรับในฐานะงานดัดแปลงที่หลากหลายก็ตาม การแสดงของโจวเหย่สามารถถ่ายทอดแก่นแท้ของผู้หญิงที่สร้างชีวิตด้วยตัวเองได้อย่างสมบูรณ์ หาก “Legend Of The Female General” ทำให้คุณรู้สึกอยากดูซีรีส์แนวนี้มากขึ้นแล้ว นี่คืออีกห้าเรื่องที่มาพร้อมกับนางเอกที่แข็งแกร่งไม่แพ้กันค่ะ
เรื่องย่อ “The Double”
ซีรีส์ความยาว 40 ตอนเรื่องนี้ดัดแปลงจากนวนิยายเรื่อง “Marriage of the Di Daughter” ของ Qian Shan Cha Ke โดยเล่าเรื่องราวของ เซวียฟางเฟย (รับบทโดย อู๋จิ่นเหยียน) บุตรสาวของขุนนางผู้ทรงเกียรติ ที่ชีวิตต้องพังทลายเมื่อครอบครัวของเธอถูกใส่ร้ายและถูกทำลายลง
เธอถูกหักหลังโดยสามี เซินอวี้หรง (รับบทโดย เหลียงหย่งฉี) และถูกทิ้งไว้ให้ตาย แต่ก็รอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์ด้วยความช่วยเหลือจาก เจียงหลี (รับบทโดย หยางเชาเยว่) บุตรสาวของขุนนางชั้นสูง ก่อนเสียชีวิต เจียงหลีได้มอบตัวตนของเธอให้แก่เซวียฟางเฟย เพื่อให้เธอมีโอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่ เซวียฟางเฟยจึงสวมรอยเป็นเจียงหลีและเดินทางกลับไปยังเมืองหลวง เพื่อทวงความยุติธรรมและแก้แค้นผู้ที่ทำร้ายเธอ การเดินทางครั้งนี้พาเธอเข้าสู่โลกที่เต็มไปด้วยการเมืองในราชสำนัก ความลับ และการทรยศ
ระหว่างทาง เธอได้พบกับท่านอ๋อง เซียวเหิง (รับบทโดย หวังซิงเยว่) ขุนนางผู้ซื่อตรงที่ในตอนแรกสงสัยในตัวเธอ แต่ค่อย ๆ กลายมาเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งที่สุดของเธอ และในขณะที่ทั้งสองต่อสู้เคียงข้างกันเพื่อความยุติธรรม ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ค่อย ๆ พัฒนาไปเป็นความรักที่จริงใจ
ทำไมจึงไม่ควรพลาด?
“The Double” เป็นหนึ่งในซีรีส์จีนย้อนยุคที่ได้รับคำแนะนำอย่างสูง เพราะในเรื่องนี้ เซวียฟางเฟย ไม่ใช่แค่หญิงสาวที่รอคอยการช่วยเหลือ แต่เธอเป็นนางเอกที่เฉลียวฉลาด มีไหวพริบ และไม่ยอมแพ้ เธอพึ่งพาสติปัญญาและกลยุทธ์ของตัวเองในการพลิกสถานการณ์และจัดการกับศัตรู
เรื่องราวของเธอนั้นน่าติดตาม เพราะเธอคือผู้กำหนดโชคชะตาของตัวเอง ทำให้ตัวละครนี้ทั้งสดใหม่และน่าจดจำ
เรื่องย่อ “My Journey To You”
ซีรีส์แนวกำลังภายในเรื่องนี้ดัดแปลงจากนวนิยายเรื่อง “Yun Zhi Yu” ของ Gu Xiao Sheng เล่าเรื่องราวของ อวิ๋นเหวยซาน (รับบทโดย อวี๋ซูซิน) นักฆ่าที่เติบโตภายใต้การควบคุมขององค์กรโหดเหี้ยมอย่างอู๋เฟิง เธอถูกควบคุมด้วยพิษและถูกบังคับให้ปฏิบัติภารกิจมาตลอดชีวิต จึงโหยหาอิสรภาพมาโดยตลอด
โอกาสของเธอมาถึงเมื่อเธอถูกส่งตัวไปแทรกซึมตระกูลกงอันทรงอำนาจ โดยปลอมตัวเป็นหนึ่งในผู้สมัครเจ้าสาว ที่นั่น เส้นทางของเธอก็ได้มาบรรจบกับ กงจื่ออวี่ (รับบทโดย จางหลิงเฮ่อ) คุณชายผู้ใช้ชีวิตอย่างอิสระแต่ต้องถูกผลักดันให้ขึ้นเป็นผู้นำอย่างกะทันหัน หลังจากการเสียชีวิตของพ่อและพี่ชาย แม้จะยังขาดประสบการณ์ แต่เขาก็ต้องรีบเรียนรู้เพื่อปกป้องตระกูล
สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ กงจื่ออวี่กลับมอบความไว้วางใจและความเมตตาให้กับอวิ๋นเหวยซาน ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อน ในขณะที่การทรยศกำลังก่อตัวขึ้นภายในตระกูลกง และอิทธิพลของอู๋เฟิงก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น ทั้งอวิ๋นเหวยซานและกงจื่ออวี่จึงต้องดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดไปพร้อม ๆ กัน นอกจากนี้ยังมีนักแสดงอย่าง เฉิงอี้, หลูอวี้เซียว, เถียนเจียรุ่ย และ จินจิง ที่มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวความขัดแย้งและปริศนาที่ซับซ้อนภายในตระกูลกงได้อย่างสมจริง
ทำไมจึงไม่ควรพลาด?
การมารับบท อวิ๋นเหวยซาน ถือเป็นการก้าวออกจากบทบาทที่สดใสและเป็นกันเองของ อวี๋ซูซิน โดยสิ้นเชิง เธอถ่ายทอดตัวละครที่ซับซ้อนนี้ด้วยความสุขุมและลุ่มลึกได้อย่างน่าทึ่ง
ในฐานะนักฆ่าที่ปลอมตัวเป็นว่าที่เจ้าสาวในจวนตระกูลกง อวิ๋นเหวยซานคือหญิงสาวที่เฉียบคม ฉลาดหลักแหลม และอยู่ในโหมดเอาตัวรอดตลอดเวลา ทว่าภายใต้ท่าทีที่สงบและระมัดระวังนั้น เธอคือผู้หญิงที่มีบาดแผลจากการถูกควบคุมและการใช้ชีวิตท่ามกลางความรุนแรงมาทั้งชีวิต ซึ่งบทบาทนี้กลายเป็นหนึ่งในการแสดงที่น่าดึงดูดใจที่สุดของเธอจนถึงปัจจุบัน
เรื่องย่อ “The Long Ballad”
ซีรีส์เรื่องนี้ดัดแปลงจากหนังสือการ์ตูนจีน (มันฮวา) เรื่อง “Chang Ge Xing” ของ Xia Da โดยมีฉากหลังเป็นช่วงเวลาที่วุ่นวายที่สุดของราชวงศ์ถัง เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในปีคริสต์ศักราช 626 เมื่อองค์ชายหลี่ซื่อหมินก่อรัฐประหารที่ประตูเสวียนอู่และยึดอำนาจ ท่ามกลางการสังหารหมู่อันโหดร้ายนั้น ครอบครัวของ หลี่ฉางเกอ (รับบทโดย ตี๋ลี่เร่อปา) ธิดาขององค์รัชทายาทต้องจบสิ้นลง
เธอรอดชีวิตมาได้ แต่เหลือเพียงความโศกเศร้าและไฟแค้นที่ลุกโชน เธอจึงปลอมตัวเป็นชายและออกเดินทางเพื่อล้างแค้นให้พ่อ แต่ภารกิจของเธอกลับต้องพลิกผันเมื่อเธอได้พบและถูกจับเป็นเชลยโดย อาสื่อน่าซุน (รับบทโดย อู๋เหล่ย) แม่ทัพผู้ชาญศึกแห่งเผ่าอาสื่อ
สิ่งที่เริ่มต้นจากความสัมพันธ์แบบศัตรูก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไปเป็นพันธมิตรที่สร้างจากความเคารพ และท้ายที่สุดก็กลายเป็นความผูกพันที่ท้าทายทุกสิ่งที่เธอเคยต้องการ เมื่อฉางเกอต้องเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนขั้วของความภักดี การสู้รบ และการเมืองระหว่างสองอาณาจักร เธอก็พบว่าการแก้แค้นส่วนตัวของเธอขัดแย้งกับหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่กว่าที่มีต่อประชาชนของเธอ ผ่านสงครามและการเสียสละ เธอเติบโตจากองค์หญิงที่ขับเคลื่อนด้วยความแค้น สู่การเป็นผู้นำที่ให้คุณค่ากับสันติภาพมากกว่าการหลั่งเลือด
นอกจากนี้ ซีรีส์ยังเต็มไปด้วยตัวละครที่น่าสนใจอย่าง หลี่เล่อเหยียน (รับบทโดย จ้าวลู่ซือ) ผู้มีจิตใจดี เฮ่าตู (รับบทโดย หลิวอวี่หนิง) ผู้สุขุม และ เว่ยซูอวี่ (รับบทโดย ฟางอี้หลุน) ผู้ซื่อสัตย์ ที่มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ทำไมจึงไม่ควรพลาด?
“The Long Ballad” โดดเด่นด้วยตัวละครหลักอย่าง หลี่ฉางเกอ ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นนางเอกที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง เธอทั้งฉลาด มีไหวพริบ และเป็นนักยุทธศาสตร์ที่สามารถกำหนดชะตาชีวิตของตัวเองได้ แต่เธอก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบเสมอไป ความหุนหันพลันแล่นและอารมณ์ที่สับสนในบางครั้งทำให้เธอรู้สึกเป็นมนุษย์และจับต้องได้
การได้ชมการเติบโตของเธอจากองค์หญิงที่ขับเคลื่อนด้วยความแค้นไปสู่ผู้นำที่คำนึงถึงประชาชนจึงทำให้เรื่องราวนี้มีน้ำหนักและกินใจ นอกจากนี้ เส้นทางของ หลี่เล่อเหยียน ก็เป็นอีกหนึ่งส่วนที่น่าจดจำที่สุดในซีรีส์ เธอเริ่มต้นจากการเป็นหญิงสาวที่ขี้อายและถูกปกป้อง แต่หลังจากเผชิญกับความยากลำบาก เธอก็เติบโตเป็นผู้หญิงที่เปี่ยมด้วยความเมตตาและมุ่งมั่นที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลง
เรื่องย่อ “Blossom”
ซีรีส์ Blossom ดัดแปลงจากนวนิยายเรื่อง “Jiu Chong Zi” ของ Zhi Zhi โดยเล่าเรื่องราวชีวิตแรกของ โต้วเจา (รับบทโดย เมิ่งจื่ออี้) บุตรสาวที่ถูกละเลยของตระกูลโต้ว ซึ่งจบลงด้วยโศกนาฏกรรม เธอถูกหักหลังโดยสามีและน้องสาวต่างมารดา และเพิ่งจะมารู้ความจริงว่าถูกแม่เลี้ยงวางยาพิษมาตลอดชีวิต ก่อนที่ชีวิตของเธอจะจบลงอย่างรุนแรงเคียงข้างกับ ซ่งม่อ (รับบทโดย หลี่อวิ๋นรุ่ย) แม่ทัพลึกลับผู้มีชะตาผูกพันกับเธอ
แต่แล้วโชคชะตาก็ให้โอกาสเธออีกครั้ง เธอย้อนเวลากลับมาในร่างของตัวเองในวัยที่ยังเยาว์วัยกว่าเดิม พร้อมกับความทรงจำอันเจ็บปวดจากอดีต ครั้งนี้เธอปฏิเสธที่จะเป็นเหยื่ออีกต่อไป โดยตั้งใจที่จะหลีกหนีจากครอบครัวและการแต่งงานที่เคยทำลายชีวิต เธอเริ่มต้นเส้นทางใหม่ด้วยสติปัญญาที่ได้มาพร้อมกับคำทำนายจากตำราเล่มหนึ่ง
การเดินทางครั้งนี้ทำให้เธอได้กลับมาพบกับซ่งม่ออีกครั้ง จากความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นด้วยความสงสัยและสถานการณ์บังคับ ทั้งสองต้องร่วมกันเป็นพันธมิตรในโลกที่เต็มไปด้วยอุบายทางการเมืองและศัตรูที่ซ่อนเร้น และในที่สุดความสัมพันธ์นี้ก็ค่อย ๆ พัฒนาไปสู่ความผูกพันที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ทั้งคู่ต้องเผชิญหน้ากับการทรยศและความไม่จงรักภักดีเพื่อปกป้องคนที่พวกเขารัก ความรักของพวกเขาไม่ได้เกิดขึ้นจากความสะดวกสบาย แต่มาจากความอดทนและความเคารพซึ่งกันและกัน ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าความรักสามารถเติบโตได้แม้ในดินที่แห้งแล้งที่สุด นอกจากนี้ยังมี ข่งเสวี่ยเอ๋อร์ ในบท เหมียวอันซู และ เซี่ยจื่อกวง ในบท จี้หยง ที่มาร่วมสร้างสีสันให้เรื่องราว
ทำไมจึงไม่ควรพลาด?
โต้วเจา คือหญิงสาวผู้เฉลียวฉลาดและพึ่งพาตัวเองได้อย่างแท้จริง เธอไม่ได้แค่รอการช่วยเหลือ แต่ใช้บทเรียนจากชีวิตในอดีตเพื่อปกป้องครอบครัวและเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของทุกคน เธอคือนักวางแผนตัวจริงที่นำทางพระเอกและใช้สติปัญญาเอาชนะศัตรู
ความฉลาด ความยืดหยุ่น และความภักดีของเธอ ทำให้เธอกลายเป็นนางเอกที่สดใหม่และแตกต่างจากภาพ "สาวน้อยที่ต้องได้รับความช่วยเหลือ" ทั่วไป นอกจากนี้ ซีรีส์ยังได้รับคำชื่นชมในการสร้างตัวละครหญิงคนอื่น ๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ละคนต่างมีจุดยืนและเรื่องราวเป็นของตัวเองที่ช่วยขับเคลื่อนเรื่องราวให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นค่ะ
เรื่องย่อ “Flourished Peony”
ซีรีส์เรื่องนี้ดัดแปลงจากนวนิยาย “Guo Se Fang Hua” ที่นำการกลับมาโคจรพบกันอีกครั้งของคู่พระนางสุดฮิตจากเรื่อง “Go Go Squid” อย่าง หยางจื่อ และ หลี่เซี่ยน
เรื่องราวเล่าถึงชีวิตของ เหอเหวยฟาง (รับบทโดย หยางจื่อ) ลูกสาวพ่อค้าที่ต้องเผชิญกับโชคชะตาอันโหดร้าย เพื่อช่วยชีวิตแม่ที่ป่วย เธอจึงถูกบังคับให้แต่งงานในชีวิตคู่ที่ไร้ซึ่งความรักและทำให้เธอต้องอึดอัดใจ เมื่อเธอถูกหักหลังโดยครอบครัวของสามีและต้องสูญเสียแม่ไป เหวยฟางจึงตัดสินใจครั้งใหญ่ที่ผู้หญิงในยุคนั้นไม่ค่อยกล้าทำ นั่นคือการหย่าขาดจากสามีและเริ่มต้นชีวิตใหม่ในเมืองฉางอัน ซึ่งเป็นศูนย์กลางของราชวงศ์ถัง
ที่นั่น เธอหันมาใช้พรสวรรค์พิเศษในการปลูกโบตั๋นหายากเพื่อสร้างอาชีพเลี้ยงตัวเอง สิ่งที่เริ่มต้นจากการพยายามยืนหยัดด้วยตัวเองเล็ก ๆ น้อย ๆ กลับเติบโตเป็นธุรกิจที่รุ่งเรือง และยังกลายเป็นที่พึ่งพิงให้กับผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่ถูกทำร้ายหรือถูกทอดทิ้งเช่นเดียวกับเธอ
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เหวยฟางได้พบกับ เจียงฉางหยาง (รับบทโดย หลี่เซี่ยน) ขุนนางผู้เฉียบแหลมที่แม้ภายนอกจะดูเจ้าเล่ห์ แต่แท้จริงแล้วเขาจงรักภักดีต่อประเทศชาติอย่างลึกซึ้ง ความสัมพันธ์ของทั้งสองเริ่มต้นจากการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ก่อนจะค่อย ๆ พัฒนาไปสู่ความผูกพันที่แข็งแกร่งและลึกซึ้งยิ่งขึ้น ซึ่งสร้างขึ้นบนพื้นฐานของความไว้วางใจและความเคารพ
ในขณะที่การกบฏเริ่มก่อตัวและภัยทางการเมืองคุกคามอาณาจักร เหอเหวยฟางและฉางหยางก็ยืนหยัดเคียงข้างกัน เพื่อรับมือกับทั้งอันตรายในราชสำนักและความซับซ้อนของความรักและอำนาจ ผ่านความยากลำบากนี้ เหวยฟางเติบโตจากผู้รอดชีวิตธรรมดาไปสู่สัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญ โดยเปลี่ยนความโศกเศร้าให้เป็นพลัง และทวงคืนสิทธิ์ที่จะใช้ชีวิตในแบบที่เธอต้องการ นอกจากนี้ ซีรีส์ยังมี เว่ยเจ๋อหมิง ในบท หลิวฉาง และ จางหยาฉิน ในบท หลี่ยั่วเจิน ร่วมแสดงด้วย
ทำไมจึงไม่ควรพลาด?
การกลับมาโคจรพบกันอีกครั้งของ หยางจื่อ และ หลี่เซี่ยน จากซีรีส์สุดฮิต “Go Go Squid” คือหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้เรื่องนี้เป็นที่น่าจับตามองตั้งแต่แรก
หัวใจของซีรีส์อยู่ที่ตัวละคร เหอเหวยฟาง หรือที่รู้จักกันในนาม "หมู่ตาน" เธอเป็นหญิงสาวที่ฉลาดหลักแหลมและมั่นใจในตัวเองผู้มีพรสวรรค์ในการปลูกโบตั๋นหายาก แม้เมื่อต้องขอความช่วยเหลือ เธอก็ทำในฐานะพันธมิตรที่เท่าเทียม ไม่ใช่ผู้ใต้บังคับบัญชา จุดเด่นอีกอย่างของซีรีส์คือการนำเสนอภาพมิตรภาพระหว่างผู้หญิงในโลกที่ชายเป็นใหญ่ได้อย่างลึกซึ้งและน่าประทับใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้หญิงทุกคนต่างมีจุดยืนและเรื่องราวของตัวเองอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ซีรีส์ยังได้รับคำชื่นชมอย่างมากและมีภาคต่อในชื่อ “In The Name Of Blossom” อีกด้วยค่ะ
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
กลุ่มแรงงานแถลงประณามบริษัทสั่งปิดงาน ทำผิดอนุสัญญา ต้องสั่งแก้เปิดงานทันที เรียกร้องบริษัทเปิดผลประกอบการกำไร5พันล้าน ย้ำต้องแจกโบนัสตามสิทธิ เพราะทำงานหนัก
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
WOOF แก่แบบมีคุณภาพ เทรนด์การเงินใหม่ของคนวัยเกษียณ พึ่งตัวเอง มีเงินใช้ ไม่เป็นภาระลูกหลาน
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
กลุ่มแรงงานแถลงประณามบริษัทสั่งปิดงาน ทำผิดอนุสัญญา ต้องสั่งแก้เปิดงานทันที เรียกร้องบริษัทเปิดผลประกอบการกำไร5พันล้าน ย้ำต้องแจกโบนัสตามสิทธิ เพราะทำงานหนัก
“ศุภจี” เฮ! ARASCO ซาอุฯ สั่งซื้อมันสำปะหลังอัดเม็ดเพิ่ม 3 หมื่นตัน ปีหน้าลุ้นพุ่งแตะ 1 แสนตัน
เขมรพังเรื่อยๆ ไทยปิดด่าน ทำเอาชาวเขมรโมโห เผานาทิ้ง เนื่องจากขายข้าวไม่ได้
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย








