ผู้หญิงเนปาลตายเพราะ 'เมนส์' โดนงูกัดในกระท่อมประจำเดือน! ประเพณีโบราณหรือฆาตกรรมทางอ้อม?
สวัสดีครับเพื่อน ๆ วันนี้ผมอยากชวนทุกคนมาอ่านเรื่องที่ทั้งสะเทือนใจ ทั้งน่าคิด และทั้งโกรธนิด ๆ พร้อมตั้งคำถามว่า
“ในยุคนี้แล้ว เรายังจะยอมให้ความเชื่อโบราณพรากชีวิตคนได้อีกเหรอ?”
เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ ประเทศเนปาล
เป็นเรื่องของผู้หญิงคนนึงที่ชื่อว่า กมลา ดาไม อายุแค่ 28 ปีเองครับ
เธอเสียชีวิตเพราะ งูกัด ขณะที่เธอกำลัง “ถูกแยกตัวไปนอนในกระท่อม”
ไม่ใช่เพราะติดโควิด ไม่ใช่เพราะทะเลาะกับใคร
แต่เพราะเธอกำลัง... “มีประจำเดือน”
ใช่แล้วครับ เธอถูกบังคับด้วยประเพณีดั้งเดิมของเนปาลที่เรียกว่า “ชาปาดี” (Chhaupadi)
ซึ่งเป็นความเชื่อโบราณว่า “ผู้หญิงที่มีประจำเดือนเป็นสิ่งสกปรก อัปมงคล ห้ามเข้าบ้าน ห้ามจับของ ห้ามเจอใคร ห้ามแม้กระทั่งไปวัด”
ก็เลยต้องแยกตัวออกไปนอนในกระท่อมเล็ก ๆ ข้างสวนหลังบ้าน
ไม่มีประตู ไม่มีไฟ ไม่มีคน ไม่มีแม้แต่ความปลอดภัย
ประจำเดือน = ต้องไปอยู่กระท่อม?
ผมว่าแค่ประโยคข้างบนก็น่าขนลุกแล้วใช่มั้ยครับ?
แต่ในบางพื้นที่ของเนปาลนี่คือ “เรื่องปกติ” มาหลายร้อยปี
ผู้หญิงที่กำลังมีประจำเดือน ต้องย้ายออกไปนอนในกระท่อมที่เรียกว่า “ชาปาดี”
ไม่ว่าจะฝนตก ลมแรง หนาวแค่ไหน ห้ามอยู่ในบ้าน
และห้ามยุ่งกับข้าวของหรือแม้กระทั่งสมาชิกในครอบครัว
บอกเลยว่าโคตรโหด...
เพราะมันไม่ใช่แค่การเหยียด แต่คือการ “ผลัก” ผู้หญิงให้ไปอยู่ในที่ที่ไม่มีความปลอดภัยใด ๆ ทั้งสิ้น
เรื่องเศร้าของ “กมลา ดาไม”
กมลาเพิ่งย้ายกลับมาอยู่บ้านกับสามี หลังจากไปทำงานที่อินเดียมาหลายปี
เพิ่งสร้างบ้านปูนใหม่ ๆ เสร็จเองครับ น่าอยู่มาก ๆ แต่แค่เพราะวันนั้นเธอมี “เมนส์”
ก็ต้องออกไปนอนที่กระท่อมหลังสวนเหมือนทุกเดือนที่ผ่านมา
ตอนกลางคืน ขณะที่เธอนอนอยู่คนเดียว งูเลื้อยเข้ามาในกระท่อม...
กัดเข้าไปที่แก้มของเธอ
ญาติ ๆ รีบพาเธอส่งโรงพยาบาล แต่ไม่ทันครับ
เธอเสียชีวิตในวันรุ่งขึ้น
บอกตรง ๆ ตอนผมอ่านข่าวนี้ น้ำตาแทบไหล
คิดดูสิครับ บ้านก็มีแล้ว เตียงก็มี อาหารก็พร้อม
แต่แค่เพราะ “เมนส์” ต้องไปตายในกระท่อมที่ไม่มีประตู ไม่มีคนดูแล
“ชาปาดี” ถูกห้ามแล้ว…แต่ก็ยังมีคนทำ
หลายคนอาจคิดว่า “แล้วรัฐบาลเนปาลไม่ทำอะไรเลยเหรอ?”
คำตอบคือ...ทำแล้วครับ
รัฐบาลเนปาลประกาศ “แบนชาปาดี” ตั้งแต่ปี 2017 แล้วด้วยซ้ำ
ใครฝ่าฝืน ต้องโดนโทษจำคุก 3 เดือน ปรับเงินอีกด้วย
แต่ปัญหาคือ…
ความเชื่อฝังลึก มันไม่กลัวกฎหมาย
หลายพื้นที่ในเนปาลยังคงทำตามประเพณีนี้อยู่
เพราะเชื่อว่าผู้หญิงที่มีประจำเดือนนั้น “อัปมงคล”
ถ้าให้อยู่ในบ้าน จะทำให้ครอบครัวโชคร้าย หรือมีวิญญาณชั่วร้ายเข้ามาในบ้าน
ซึ่งพูดกันตรง ๆ ก็คือ...
มันคือ “การเหยียดเพศ” ที่มาในคราบของ “ความเชื่อ” นั่นเองครับ
ไม่ใช่แค่กมลา...ยังมีอีกหลายชีวิต
กรณีของกมลาไม่ใช่ครั้งแรกนะครับ
ก่อนหน้านี้มีผู้หญิงหลายคนต้องเสียชีวิตเพราะ “ชาปาดี”
-
บางคน หนาวตาย เพราะกระท่อมไม่มีผ้าห่ม ไม่มีไฟ
-
บางคน อดตาย เพราะไม่มีใครเอาอาหารไปให้
-
บางคน ตายเพราะควันไฟ เพราะจุดไฟผิงเองในกระท่อม
-
และล่าสุด... งูกัด
บางคนอยู่ในนั้นหลายวันแบบไร้การเหลียวแล
คนในบ้านไม่คุยด้วย ไม่แตะต้อง ไม่เอาอาหารให้
เหมือนกับว่าเธอ “ไม่มีตัวตน” ไปชั่วขณะ
ฟังแล้วมันทั้งเศร้า ทั้งโกรธจริง ๆ ครับ
แค่รื้อกระท่อม...มันไม่พอ!
หลังจากที่กมลาเสียชีวิต นายกเทศมนตรีเมืองนั้นก็ออกคำสั่งให้
“รื้อถอนกระท่อมชาปาดีทั้งหมดในพื้นที่ภายใน 15 วัน”
พร้อมขู่ว่า ใครแอบไปนอนในกระท่อมจะโดนทั้งจำทั้งปรับ
ฟังดูเหมือนจะเด็ดขาดใช่มั้ยครับ?
แต่กลุ่มนักสิทธิสตรีกลับมองว่า...
“การรื้อกระท่อมมันไม่พอหรอก
สิ่งที่ต้องจัดการจริง ๆ คือ ‘ความเชื่อ’ และ ‘ทัศนคติของสังคม’”
ต้องรณรงค์ให้คนเข้าใจว่า
ประจำเดือนไม่ใช่สิ่งสกปรก
มันคือ “เรื่องธรรมชาติ” ของผู้หญิง และไม่ควรถูกเลือกปฏิบัติแบบนี้อีกต่อไป
สะท้อนกลับมาที่เรา…มันใกล้กว่าที่คิด
หลายคนอาจมองว่า...
“โอ๊ย เรื่องของเนปาลไกลตัวจะตาย เราอยู่ไทยไม่เห็นมีใครไปนอนกระท่อมตอนเป็นเมนส์”
จริงครับ เราอาจไม่ถึงขั้นนอนกระท่อม
แต่คำพูดอย่าง...
-
“อีเมนส์แตก”
-
“ระวังนะ เป็นเมนส์อยู่ป่ะเนี่ย พูดแรงจัง”
-
“ห้ามเข้าวัดเดี๋ยวพระเสื่อม”
...คำพวกนี้มันก็ยังวนเวียนอยู่ในสังคมเราเหมือนกัน
มันคือรูปแบบของ ความเข้าใจผิด + การเหยียดแบบเนียน ๆ
ที่หลายคนอาจไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็ “ทำร้ายคนอื่น” โดยไม่รู้ตัว
สุดท้าย...จะยกมือไหว้ผี หรือจะยกมือไหว้คน?
ในยุคที่เราไปออกรบกับ AI
สร้างรถยนต์บินได้
วิดีโอคอลหากันข้ามโลก
...แต่ผู้หญิงบางคนยังต้องไปนอนในกระท่อม เพราะรอบเดือนมา
มันน่าคิดมาก ๆ ครับ
เราควรถามตัวเองว่า…
เราอยากเป็นสังคมที่เคารพ “ชีวิตคน”
หรือเป็นสังคมที่เคารพ “ผี” มากกว่าคน?
คำตอบอยู่ที่เราเลือก
ขอบคุณที่อ่านครับ
แล้วเพื่อน ๆ คิดยังไงกับเรื่องนี้?
มาแชร์กันได้เต็มที่เลยครับ ใครเคยเจอการเลือกปฏิบัติเพราะ “ธรรมชาติของร่างกาย”
จะในไทยหรือที่ไหนก็แล้วแต่ มาเล่าให้ฟังกันได้เลยนะครับ
อย่าปล่อยให้ “เลือดหยดเดียว”
ต้องแลกด้วย “ชีวิต” ของใครอีกคนเลยครับ.
อ้างอิงจาก: coffeeman
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
"ธรรมนัส" สวนดราม่าจัดซีเกมส์ ย้ำไทยพร้อม 100% แต่ขอทำแบบ "พึ่งตัวเองล้วนๆ"
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
"ธรรมนัส" สวนดราม่าจัดซีเกมส์ ย้ำไทยพร้อม 100% แต่ขอทำแบบ "พึ่งตัวเองล้วนๆ"
Unseen ไทยแลนด์ เกาะรูปหัวใจ "ทุ่งทะเลหลวง" สุโขทัย
ทำไมต้องหย่ากัน หลังถูกคดีความ? เหตุผลที่ฟังดูดราม่า…แต่จริงกว่าที่คิด
ตรวจพบมะเร็งลำไส้ระยะที่ 3 จากอาการที่หมอเห็น ทำให้หมอรู้สึกว่า "ละเลยมานานเกินไป!"
ทึ่งทั่วโลก : นี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ Sequoia
Unseen ไทยแลนด์ เกาะรูปหัวใจ "ทุ่งทะเลหลวง" สุโขทัย