5 เครื่องดื่มที่ไม่ควรกินคู่กับยา
โพสท์โดย sompeansomped
1.น้ำผลไม้ โดยเฉพาะน้ำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว อย่างเช่น น้ำส้ม น้ำมะนาว น้ำเกรปฟรุต
- จะต่อต้านการดูดซึมของยาที่ใช้ในการรักษา
- ทำให้กรดในกระเพาะอาหารเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีปวดท้องมากขึ้น
- น้ำเกรปฟรุตมีสารบางชนิดที่สามารถรบกวนการทำงานของเอมไซม์ในตับที่ทำหน้าที่ขจัดยาออกจากร่างกายอาจทำให้ยาคงอยู่ในร่างกายได้นานเกินไปและเกิดผลข้างเคียงมากขึ้น
- น้ำผลไม้หลายชนิดมีกรดที่อาจทำให้ยาแตกตัวเร็วเกินไปก่อนที่ร่างกายจะสามารถดูดซึมได้เต็มที่
คำแนะนำ ควรกินยาอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ก่อนหรือหลังการดื่มน้ำผลไม้
2.ชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน อย่าง โกโก้ เครื่องดื่มชูกำลัง
- ไม่ควรกินคู่กับยาแก้หวัด ยาขยายหลอดลม เนื่องจากกาแฟมีฤทธิ์ทำให้หัวใจเต้นเร็ว เช่นเดียวกับยาขยายหลอดลมที่มีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของหัวใจ เมื่อกินพร้อมกันอาจเกิดอาการใจสั่น รวมทั้งภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะได้ ผู้ป่วยโรคหัวใจควรระวัง
- ชาและกาแฟมีสารคาเฟอีน อาจกระทบต่อการทำงานของยาบางชนิด อย่างเช่น ยาต้านเศร้า ยาลดความดันโลหิต นอกจากนี้ยายังมีสารแทนนินที่สามารถลดการดูดซึมของธาตุเหล็กและยาบางชนิดได้ อาจทำให้ร่างกายดูดซึมยาน้อยลงและไม่ได้รับประสิทธิภาพตามที่ควร
คำแนะนำ ควรเว้นระยะเวลาจากการกินยาอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
3.น้ำอัดลม
- กรดและคาเฟอีนที่ขัดความการทำงานของยา อย่างเช่น ยาขยายหลอดลมทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มมากขึ้น ยาลดกรดทำให้ฤทธิ์ยาหมดประสิทธิภาพ
- น้ำอัดลมมีส่วนประกอบของน้ำตาลและคาเฟอีน ที่อาจส่งผลกระทบต่อการดูดซึมของยา
- กรดคาร์บอนิกในน้ำอัดลม อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร และอาจลดประสิทธิภาพของยาบางชนิดโดยเฉพาะยาในกลุ่มต้านกรด หรือยาลดการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร แก๊สที่มีมากในน้ำอัดลมจะกัดกระเพาะ ทำให้ตัวยาไม่สามารถดูดซึมได้ดี จึงไม่สามารถลดกรดในกระเพาะได้
คำแนะนำ หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำอัดลมขณะกินยา เพื่อป้องกันไม่ให้ยาเสียประสิทธิภาพ หรือก่อให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ในกระเพาะอาหาร
4.นม และผลิตภัณฑ์จากนม อย่างเช่น ชีส โยเกิร์ต
- นมมีแคลเซียม โปรตีน เหล็กที่ไปจับตัวยาบางชนิด อย่างเช่น ยาฆ่าเชื้อ ยาปฏิชีวนะ ยาลดกรด ทำให้ไม่สามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ ยาจะหมดประสิทธิภาพไม่ออกฤทธิ์หรือออกฤทธิ์ช้าลง
คำแนะนำ ควรเว้นระยะห่างจากการกินยาอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้การดูดซึมยาเป็นไปอย่างสมบูรณ์
5.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- แอลกอฮอล์สามารถทำให้ตับทำงานหนักขึ้นในการขจัดยาจากร่างกาย อาจทำให้ยาบางชนิดมีประสิทธิภาพลดลง
- ผู้ที่อาการแฮงก์ ห้ามกินยาแก้ปวด อย่าง แอสไพริน เพราะอาจทำให้เป็นแผลในกระเพาะ
- ผู้ที่กินยาขยายหลอดเลือด ก็จะยิ่งทำให้หลอดเลือดขยายตัวมากไป จนทำให้มึน เป็นลม หมดสติ
- ผู้ที่ใช้ยาฆ่าเชื้อ ถ้ากินยาด้วยก็อาจทำให้ใจสั่นเต้นเร็วกว่าปกติ จะเวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน
- ผู้ที่ต้องกินยาลดน้ำตาล จะไปทำลายตับ ยับยั้งการสร้างกลูโคส ทำให้หน้ามืดใจสั่น หมดสติ
- ถ้ากินยาพาราที่ออกฤทธิ์ต่อตับด้วยแล้ว ยิ่งมีโอกาสสูงที่จะเป็นโรคตับวาย
คำแนะนำ หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงที่ต้องกินยา
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย
เกาหลีแฉเอง! จีนเมินช่วยกัมพูชา ทัพฟ้าไทยจัดเต็มบินถล่มรังลับในเขมร
"ทรัมป์" หน้าแตกยับ เกาหลีหักดิบคำสั่ง! เลือกข้างกอดคอไทย ลุยถล่มเขมรเละ!
จรวดจีนฟัดจรวดจีน เปิดคลังอาวุธลับสมรภูมิสระแก้ว เมื่อไทย-เขมรต่างงัดไม้เด็ด "สายเลือดมังกร" มาดวลกัน
วิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัล
เขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?"
เจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)
ทำไมผู้สูงอายุชอบเล่าเรื่องเก่า ๆ ให้อื่นฟัง
เสธ.เดือด มีแต่พื้นที่ของกูกับของมึง..เท่านั้นHot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ภรรยาของผู้นำกัมพูชา เข้าร่วมพิธีศwของบรรดาทหารที่เสียชีวิตในปะทะตามแนวชายแดนกับไทย
ทำไมหลายคนอกหักในวันเทศกาล ต้องเจ็บปวดเพราะโดนบอกเลิกในวันสำคัญ ควรรับมือยังไงถ้าต้องอกหักในวันพิเศษ
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
สิ้นพระเกจิผู้เมตตา "หลวงพ่อเจริญ" ละสังขารอย่างสงบ








