เผยกลศึกเล่าปี่ ทำไม "ม้าเฉียว" ไม่ได้ไปรบที่อี้หลิง? ยุทธศาสตร์ค้ำบัลลังก์แห่งจ๊กก๊ก
ในปีคริสตศักราช 221 หลังจากที่เล่าปี่สถาปนาตนเป็นฮ่องเต้แห่งจ๊กก๊กได้ไม่นาน พระองค์ก็ตัดสินใจยกทัพใหญ่บุกง่อก๊กเพื่อล้างแค้นให้กวนอูและยึดคืนเกงจิ๋ว ทว่าในการศึกครั้งสำคัญนี้ กลับมีข้อสงสัยเกิดขึ้นมากมาย เมื่อ ม้าเฉียว หนึ่งในห้าทหารเสือผู้เกรียงไกร ไม่ได้ร่วมทัพไปด้วย การตัดสินใจครั้งนี้สร้างความฉงนให้กับผู้คนในยุคนั้น จนกระทั่งหนึ่งปีต่อมา เมื่อจูกัดเหลียงเข้ากุมอำนาจทางการทหารและการปกครองอย่างเต็มตัว จึงได้ตระหนักถึงความลึกซึ้งของยุทธศาสตร์ที่เล่าปี่วางไว้
ตามรายงานของสำนักข่าว Sohu เล่าปี่ไม่ได้ละเลยหรือขาดความไว้วางใจในตัวม้าเฉียว แต่การตัดสินใจนี้เป็นไปตามการพิจารณาถึงความเชี่ยวชาญทางทหารของม้าเฉียวและยุทธศาสตร์โดยรวม การให้ม้าเฉียวประจำการอยู่แนวหลังและชายแดนเป็นการรับประกันว่าเล่าปี่จะสามารถทุ่มเทกำลังทั้งหมดในการรบแนวหน้าได้อย่างเต็มที่
1. ความเชี่ยวชาญของม้าเฉียวไม่เหมาะกับสมรภูมิง่อก๊ก
ม้าเฉียวมีชื่อเสียงเลื่องลือในด้านการนำทัพม้า เขาเคยนำกองทัพม้าเหล็กจากซีเหลียงเข้าหักหาญกองทัพของโจโฉมาแล้วหลายครั้ง จนได้รับสมญานามว่า "เทพบุตรแห่งสงคราม" และเป็นหนึ่งในกำลังหลักที่น่าเกรงขามของจ๊กก๊ก อย่างไรก็ตาม พื้นที่เกงจิ๋วเต็มไปด้วยเครือข่ายแม่น้ำลำคลอง ภูเขา และเนินเขา ซึ่งไม่เอื้อต่อการรบด้วยทัพม้า ในทางตรงกันข้าม การทำศึกกับง่อก๊กต้องอาศัยการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกองทัพเรือและทหารราบ ทัพม้ากลับไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ เล่าปี่ตระหนักดีถึงจุดเด่นและข้อจำกัดของม้าเฉียว จึงไม่ได้ให้เขาร่วมทัพไปด้วย
2. ม้าเฉียวมีบารมีสูงในเหลียงโจว ช่วยรักษาความมั่นคงชายแดน
เหลียงโจวเป็นด่านสำคัญที่เชื่อมต่อระหว่างจ๊กก๊กกับวุยก๊ก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีกองกำลังชนเผ่าเกี๋ยงและหูที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ม้าเฉียวมีบารมีและอิทธิพลสูงมากในท้องถิ่น เขาสามารถปราบปรามชนเผ่าต่างๆ และรักษาความสงบเรียบร้อยในภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ การที่เล่าปี่ให้ม้าเฉียวประจำการที่เหลียงโจวจึงเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับแนวหลัง ป้องกันไม่ให้ศัตรูฉวยโอกาสรุกราน และลดความเสี่ยงของการทำศึกสองด้าน
3. เล่าปี่ให้ม้าเฉียวช่วย “อุยเอี๋ยน” รักษาฮันต๋ง
ฮันต๋งเป็นยุทธศาสตร์สำคัญทางตอนเหนือของจ๊กก๊ก ซึ่งได้รับการป้องกันโดยอุยเอี๋ยน ผู้กล้าหาญแต่มีบารมีค่อนข้างน้อย เล่าปี่จึงจัดให้ม้าเฉียวและน้องชาย ม้าต้าย เข้าไปช่วยอุยเอี๋ยน การทำงานร่วมกันของทั้งสามคนช่วยเสริมสร้างการป้องกันของฮันต๋งได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถถ่วงดุลอำนาจของวุยก๊ก และทำให้ฮันต๋งกลายเป็นปราการที่แข็งแกร่ง
น่าเสียดายที่การศึกอี้หลิงกินเวลานานหลายเดือน และกองทัพจ๊กก๊กก็พ่ายแพ้อย่างยับเยิน เล่าปี่ต้องล่าถอยไปยังเมืองเป๊กเต้ (ไป๋ตี้เฉิง) ก่อนจะสิ้นพระชนม์ในเวลาต่อมา ตลอดช่วงเวลาดังกล่าว แนวหลังของจ๊กก๊กยังคงมั่นคงแข็งแกร่ง และวุยก๊กไม่กล้าที่จะรุกราน เมื่อจูกัดเหลียงเข้าบริหารราชการแผ่นดิน พระองค์จึงได้ตระหนักถึงยุทธศาสตร์อันชาญฉลาดและวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของเล่าปี่ในการให้ม้าเฉียวดูแลแนวหลังได้อย่างลึกซึ้ง
การตัดสินใจของเล่าปี่ที่ไม่นำม้าเฉียวไปทำศึกอี้หลิงจึงไม่ใช่การมองข้ามความสามารถ แต่เป็นการวางแผนยุทธศาสตร์ที่เฉียบคม เพื่อให้มั่นใจถึงความมั่นคงของอาณาจักรในทุกมิติ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำที่มองการณ์ไกลอย่างแท้จริง
มะเขือตอแหล : ชื่อเจ็บจี้ด แต่คุณค่าประโยชน์ล้ำเลิศ
ดราม่ารับปีใหม่! เที่ยวชะอำเจอ "ค่าเก้าอี้ 600"
ชาวบ้านเพื่อนบ้านเหวอ! กลับมาดูพื้นที่หนองจาน เจอรั้วลวดหนาม–บ้านรุกล้ำถูกรื้อ ทหารไทยขีดเส้นชัด
รู้จักคิดเองและลงมือทำ..ให้เป็นทักษะด้วย
เวลาเราเห็นของเปรี้ยว ทำไมต้องน้ำลายสอ ?
ผีเสื้อนกฮูกแห่งบราซิล ผู้มี “ดวงตานกฮูก” บนปีก กลยุทธ์เอาตัวรอดสุดอัศจรรย์ของป่าฝน
สู้ชีวิตฉบับพุทธ – จะพ้นทุกข์ได้ ใจมันต้องสู้ (สร้างกับ เอไอ)
ทำไมเก้าอี้ในโรงหนังต้องเป็นสีแดง..ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่หลักวิทย์ล้วนๆ
กระดูกครีบวาฬ เหมือนแขนมนุษย์มาก หลักฐานวิวัฒนาการที่เห็นได้ชัดๆ



