พนักงานออฟฟิศเดินทางไปทำงานเกิน “38 นาที” มีแนวโน้ม “ลาออก” มากขึ้น พึงพอใจในงานลดลง

งานวิจัยจาก Harvard Business School เมื่อปี 2020 ระบุว่า พนักงานออฟฟิศที่ต้องเดินทางไกล หรือใช้เวลาเดินทางไปออฟฟิศยาวนานกว่า 38 นาทีต่อเที่ยว  จะรู้สึกเคร่งเครียด กังวล และทำให้ความพึงพอใจในงานลดลง เมื่อความรู้สึกนี้สะสมมากเข้าก็ส่งผลให้ “ลาออก” จากงานได้ง่าย  ทุก ๆ 15 นาทีที่ใช้เวลาเดินทางเพิ่มขึ้น ความพึงพอใจของพนักงานจะค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ

กิจกรรมอย่าง การฟังเพลงหรือไถ่ดูฟีดโซเชียลเพื่อฆ่าเวลา กลับส่งผลเมื่อถึงออฟฟิศแล้วหยุดกิจกรรมดังกล่าวลง ทำให้ไม่อยากทำงาน เพราะปรับโหมดไม่ทัน ทำให้มีแนวโน้มที่จะลาออกได้ง่ายในเวลาต่อมา 

การศึกษาชิ้นนี้ยังพบอีกว่า การฝ่ารถติดและเดินทางนาน ๆ เกินกว่า 38 นาที - 1 ชั่วโมงทุกวันเพื่อไปออฟฟิศ มีส่วนทำให้ "พนักงานออฟฟิศ"  เกิดความตึงเครียด เกิดจากการคาดเดาไม่ได้ของภาวะรถติด และหากรถติดมากจนทำให้มาประชุมสาย ก็จะเริ่มวันทำงานด้วยความรู้สึกเร่งรีบ กระวนกระวาย และอยู่ไม่นิ่ง

ระยะเวลาในการเดินทางที่ “เหมาะสม” พนักงานส่วนใหญ่ไม่ปฏิเสธการเดินทาง เพียงแต่พวกเขาเห็นว่าระยะเวลาเดินทางที่รับมือได้ คือ ประมาณ 16 นาทีต่อเที่ยว

ผลการศึกษาของ Francesca Gino ชี้ชัดว่า การเดินทางตอนเช้ายากขึ้นสำหรับกลุ่มคนที่ “ควบคุมตนเองได้ต่ำ” หมายถึง กลุ่มคนที่มักควบคุมอารมณ์ และความเครียดของตนเองได้ยาก ไม่ชอบวางแผนเรื่องงานล่วงหน้า แต่มีแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมที่ให้ความสุขในทันทีในขณะนั้น อย่างเช่น ฟังเพลง เสพสื่อออนไลน์ คิดกังวลถึงเรื่องที่บ้าน เป็นต้น

ในขณะที่ พนักงานที่มีลักษณะ “ควบคุมตนเองในระดับสูง” มักจะมีความสามารถในการควบคุมพฤติกรรม ความคิด และอารมณ์ของตนเอง  จะตั้งเป้าหมายสำหรับตนเอง จดจ่อ และติดตามเป้าหมายของพวกเขา และไม่มีปัญหากับการเดินทางไปออฟฟิศนาน ๆ ในแต่ละวัน เนื่องจาก พวกเขามีความสามารถในการเปลี่ยนโหมดอยู่บ้านเข้าสู่โหมดการทำงานได้เร็วกว่านั่นเอง