จักรพรรดินีมยองซอง ราชินีนักปฏิรูป ผู้กำหนดชะตากรรมโชซอน
ในประวัติศาสตร์เกาหลี มีสตรีผู้หนึ่งที่โดดเด่นด้วยสติปัญญาและความกล้าหาญในการวางหมากการเมือง นั่นคือ จักรพรรดินีมยองซอง หรือที่รู้จักในชื่อ "ราชินีมิน" ผู้ทรงเป็นหัวใจสำคัญในการปฏิรูปและรอดพ้นจากภัยคุกคามในยุคปลายราชวงศ์โชซอน
ราชินีมิน ประสูติปี ค.ศ. 1851 ในครอบครัวขุนนางปลายแถว แม้จะไม่ได้ร่ำเรียนสูงนัก แต่ก็ใฝ่รู้และอ่านเขียนได้ดี พระนางได้รับเลือกเป็นพระมเหสีของพระเจ้าโคจงในปี ค.ศ. 1866 โดยแทวอนกุน (พระบิดาของพระเจ้าโคจง) หวังให้พระนางเป็นเพียงหุ่นเชิดทางการเมือง
แต่ราชินีมินไม่เป็นเช่นนั้น พระนางทรงศึกษาหนังสือต่างประเทศและตระหนักถึงความจำเป็นในการปฏิรูปโชซอน พระนางใช้ความใกล้ชิดกับพระเจ้าโคจง ชักจูงให้พระองค์หันมาสนใจการเมือง เมื่อพระเจ้าโคจงมีพระชนมายุ 22 พรรษา และพระนางมีพระโอรส สถานะก็มั่นคงขึ้น นำไปสู่การปลดแทวอนกุนจากการสำเร็จราชการในปี ค.ศ. 1874 และการที่พระเจ้าโคจงทรงว่าราชการด้วยพระองค์เอง โดยมีพระราชินีมยองซองประทับเคียงข้างอย่างเปิดเผย
ในช่วงที่มหาอำนาจตะวันตกและญี่ปุ่นเริ่มแผ่ขยายอิทธิพล ราชินีมยองซองทรงดำเนินนโยบายถ่วงดุลอำนาจได้อย่างชาญฉลาด ทรงทำสนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรมกับญี่ปุ่นเพื่อชะลอการรุกราน และส่งขุนนางไปดูงานที่ญี่ปุ่นเพื่อนำวิทยาการสมัยใหม่มาพัฒนาประเทศ
พระนางอาศัยความช่วยเหลือจากจีนในการปราบปรามกบฏอี่โม (ค.ศ. 1882) ซึ่งทำให้แทวอนกุนถูกควบคุมตัวไปปักกิ่ง จากนั้นก็ทรงเปิดสัมพันธไมตรีกับสหรัฐอเมริกาและเยอรมนี นำวิทยาการและผู้เชี่ยวชาญเข้ามาพัฒนาเกาหลี รวมถึงการตั้งโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษและโรงเรียนทหารสมัยใหม่ ทำให้กองทัพเกาหลีแข็งแกร่งขึ้น
ความเข้มแข็งและนโยบายที่ชาญฉลาดของราชินีมยองซอง ทำให้ญี่ปุ่นรู้สึกว่าควบคุมเกาหลีไม่ได้ อีกทั้งพระนางยังทรงสนับสนุนการใช้อักษรฮันกึนเพื่อแสดงอัตลักษณ์ของชาวเกาหลี
ในที่สุด เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำเกาหลี ได้ตัดสินใจลอบปลงพระชนม์ราชินีมยองซองในปฏิบัติการ "Fox Hunt" เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ค.ศ. 1895 การจากไปของพระนางสร้างความโศกเศร้าอย่างยิ่งแก่พระเจ้าโคจง ผู้ซึ่งแม้จะเคยไม่โปรดปราน แต่ก็ซึมซับความฝันและอุดมการณ์ของพระนางไปแล้ว
หลังการลอบปลงพระชนม์ พระเจ้าโคจงทรงสถาปนาจักรวรรดิเกาหลีขึ้นในปี ค.ศ. 1897 และทรงสถาปนาพระราชินีผู้ล่วงลับขึ้นเป็น จักรพรรดินีมยองซอง นับเป็นการเชิดชูเกียรติแก่สตรีผู้มีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานความเจริญและปกป้องเอกราชของเกาหลีอย่างแท้จริง













