จากคนเคยติดหวานจาก 100% เหลือแค่ 50% เปลี่ยนชีวิตไปมากกว่าที่คิด
ในวันที่อากาศร้อนอบอ้าว การได้ดื่มน้ำอัดลมหรือชานมเย็นสักแก้ว ดูจะเป็นความสุขเล็กๆ ที่ใครหลายคนเฝ้ารอ หลายคนเริ่มต้นจาก “ขอหวาน 100 ไปก่อน” แล้วก็รู้สึกว่ายากที่จะกลับไปกินอะไรจืดๆ ได้อีก นั่นแหละ…จุดเริ่มต้นของ “การติดน้ำหวาน” แบบไม่รู้ตัว
ความสุขชั่วคราว…แต่ร่างกายรับผลถาวร
ร่างกายของเราไม่สามารถรับน้ำตาลในปริมาณมากได้ตลอดเวลา หากคุณดื่มน้ำหวานทุกวัน ร่างกายจะเริ่มดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เมื่ออินซูลินทำงานได้ไม่ดี ระดับน้ำตาลในเลือดก็จะค่อยๆ สูงขึ้น และสุดท้ายก็กลายเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2
เส้นทางจากน้ำหวานสู่เบาหวาน
1. เริ่มต้นจาก “ความเคยชิน”
ดื่มน้ำอัดลม แก้วเดียวไม่พอ ต้องมีชาเขียว ชานม ขนมหวานเสริมตาม
2. พฤติกรรมแบบนี้ทุกวัน
น้ำตาลเข้าไปสะสมในร่างกายเกินความจำเป็น
3. ร่างกายเริ่มส่งสัญญาณ
หิวบ่อย ปัสสาวะบ่อย เหนื่อยง่าย น้ำหนักลดแบบไม่ตั้งใจ
4. ตรวจร่างกายเจอว่าเป็นเบาหวาน
และนั่นคือจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของชีวิต
จากคนติดหวาน…สู่การควบคุมอาหาร
สำหรับหลายคน กว่าจะรู้ตัวว่าติดน้ำหวาน ก็เมื่อหมอวินิจฉัยว่า “คุณเป็นเบาหวานแล้วนะครับ” จากชีวิตที่เคยกินได้ทุกอย่าง ต้องเปลี่ยนมาอ่านฉลากอาหาร เลือกของหวานแบบไม่มีน้ำตาล หันมาดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำอัดลม
แต่ใช่ว่าจะสายเกินไปเสมอ หากรู้ก่อน เปลี่ยนก่อน คุณยังมีโอกาสป้องกันไม่ให้เบาหวานมาเยือน
วิธีเริ่มต้นเลิกน้ำหวาน
ค่อยๆ ลดระดับความหวาน เช่น จาก 100% เหลือ 50%
เลือกดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำอัดลม
หาของหวานจากธรรมชาติ เช่น ผลไม้ที่น้ำตาลไม่สูง
อ่านฉลากโภชนาการให้เป็น
ตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อเช็คระดับน้ำตาลในเลือด
ความหวานไม่ใช่ปัญหา แต่ความติดหวานต่างหากที่น่ากลัว
อย่ารอให้หมอบอกว่า “คุณเป็นเบาหวาน” ถึงจะเริ่มเปลี่ยนตัวเอง วันนี้คุณเลือกได้ว่าจะสุขแบบชั่วคราว หรือสุขภาพดีแบบยั่งยืน
หากคุณเริ่มรู้สึกว่ากินหวานมากไป ลองลดทีละนิด และให้รางวัลตัวเองด้วยสุขภาพดีในระยะยาวนะคะ
อ้างอิงจาก: Google
















