เด็กนอกโค้ด
เด็กนอกโค้ด ผลงานของ อักษราลัย ในอ่านอิ่มรายสัปดาห์ ฉบับที่ 009 ประจำวันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน 2568
เมื่อ AI เข้ามามีบทบาทกับชีวิตเรามากขึ้น นี่ไม่ใช่นวนิยายไซไฟไกลตัวอีกต่อไป ทุกสิ่งอาจถูกกำหนดด้วยการคิดวิเคราะห์จากการประมวลผลของอัลกอริทึม แต่...มันควรเป็นแบบนั้นจริง ๆ หรือ ทุกอย่างควรฝากไว้กับการวิเคราะห์ด้วยระบบหรือไม่ มาหาคำตอบกัน
…
เด็กนอกโค้ด
แสงสีม่วงอ่อนจากหน้าจอโฮโลแกรมสาดส่องใบหน้าของเรย์ เด็กชายวัยสิบห้าปีที่กำลังจดจ้องตัวเลขคะแนนที่ลอยอยู่เบื้องหน้า หยดเหงื่อเล็ก ๆ เริ่มผุดซึมที่ขมับ ขณะที่นิ้วของเขาเคาะเบา ๆ บนโต๊ะเรียนอัจฉริยะที่ปรับระดับตามสรีระของผู้ใช้งานโดยอัตโนมัติ ผิวโต๊ะเรืองแสงอ่อน ๆ สะท้อนอารมณ์ความเครียดของเขา
นอกหน้าต่าง ท้องฟ้าเสมือนจริงแสดงภาพเมฆที่เคลื่อนตัวช้า ๆ ผ่านตึกระฟ้าทรงโมเดิร์นที่ผนังภายนอกเต็มไปด้วยแผงโซลาร์เซลล์ โดรนส่งของและรถยนต์ไร้คนขับแล่นผ่านไปมาตามเส้นทางที่ถูกกำหนดด้วยระบบ AI ควบคุมการจราจร
"การทดสอบศักยภาพประจำเดือนของคุณเสร็จสิ้นแล้วค่ะ" เสียงนุ่มนวลของ อาเรีย ครูใหญ่ AI ของโรงเรียนมัธยมบูรพาวิทยาดังขึ้น โฮโลแกรมหญิงสาวในชุดสูทสีขาวดูสง่าปรากฏตัวขึ้น ใบหน้าของเธอดูสมจริงจนแทบแยกไม่ออกว่าเป็นภาพเสมือน
"ผลการวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่าคุณมีความถนัดพิเศษด้านวิทยาการคำนวณ แต่ยังต้องพัฒนาทักษะด้านการคิดวิเคราะห์เชิงวิพากษ์" อาเรีย หยุดพูดชั่วครู่ ก่อนจะแสดงกราฟวิเคราะห์ความสามารถด้านต่าง ๆ ที่ถูกประมวลผลจากการเรียนรู้และพฤติกรรมของเรย์ตลอดหกเดือนที่ผ่านมา
เรย์กลืนน้ำลายเหนียว ๆ เขารู้ดีว่าผลการประเมินนี้จะเปลี่ยนทุกอย่าง ตั้งแต่ตารางเรียน เพื่อนร่วมชั้น ไปจนถึงเส้นทางอาชีพในอนาคต ทุกอย่างถูกคำนวณและจัดสรรโดย อาเรีย เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด เหมือนที่เกิดขึ้นกับพี่ชายของเขาเมื่อสองปีก่อน เรนถูกย้ายไปเรียนที่อื่นเพราะอาเรียเห็นว่าที่นั่นเหมาะสมกับศักยภาพของเขามากกว่า
"ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป คุณจะถูกย้ายไปอยู่กลุ่มการเรียนรู้ A-7" อาเรียประกาศ ภาพสามมิติของห้องเรียนใหม่ปรากฏขึ้น พร้อมใบหน้าของเพื่อนร่วมชั้นที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน "กลุ่มนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการเขียนโค้ดและการพัฒนา AI โดยเฉพาะ"
"แต่..." เรย์อ้าปากค้าง "แล้วเพื่อน ๆ ของผมล่ะ?"
"การจัดกลุ่มใหม่นี้จะช่วยให้คุณได้พบกับผู้ที่มีความสนใจและระดับความสามารถใกล้เคียงกัน" อาเรียตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่เรย์สังเกตเห็นการกะพริบเล็ก ๆ ในดวงตาเสมือนนั้น ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ "ข้อมูลสถิติย้อนหลังแสดงให้เห็นว่านักเรียนที่ได้รับการจัดกลุ่มตามความถนัดมีอัตราความสำเร็จในการเรียนสูงขึ้น 47.3%"
เสียงกริ่งดังขึ้น เรย์เก็บอุปกรณ์การเรียนเข้ากระเป๋าอย่างเชื่องช้า แท็บเล็ตควอนตัมรุ่นใหม่ของเขาพับตัวเองเข้าเป็นขนาดพกพาโดยอัตโนมัติ สายตาเหม่อลอยมองออกไปนอกหน้าต่างที่ฉายภาพท้องฟ้าเสมือนจริง ถ้าเป็นอย่างที่อาเรียบอก วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เขาจะได้เรียนกับเพื่อน ๆ ที่รู้จักกันมาตั้งแต่ชั้นประถม
ที่โรงอาหาร รีนานั่งรออยู่ที่โต๊ะประจำ หน้าจอโฮโลแกรมบนโต๊ะแสดงผลการวิเคราะห์สารอาหารที่เธอต้องการในมื้อนี้ เธอโบกมือเรียกเมื่อเห็นเรย์
"เป็นไงบ้าง?" รีนาถามพลางเลื่อนถาดอาหารที่ถูกคำนวณสารอาหารมาอย่างพอดีให้เพื่อน ดวงตาของเธอฉายแววกังวล "ฉันโดนย้ายไปกลุ่ม B-3 ด้านชีววิทยาโมเลกุล พวกเขาบอกว่าฉันมีศักยภาพในการพัฒนายาและการรักษาด้วย AI"
เรย์ส่ายหน้าเบา ๆ "A-7... พรุ่งนี้ก็ไม่ได้เรียนด้วยกันแล้ว" เขามองอาหารตรงหน้าที่ถูกจัดสรรตามหลักโภชนาการ แต่กลับรู้สึกเบื่อหน่ายกับความสมบูรณ์แบบของมัน
"อย่างน้อยเราก็ยังเจอกันที่โรงอาหารได้นี่" รีนาพยายามปลอบ นิ้วของเธอเลื่อนไปบนหน้าจอโฮโลแกรม ตรวจสอบตารางเรียนใหม่ที่เพิ่งถูกอัปเดต ทั้งคู่รู้ดีว่าตารางเรียนที่ถูกปรับแต่งเฉพาะบุคคลทำให้ช่วงพักของพวกเขาแทบจะไม่ตรงกันอีกต่อไป
ที่มุมโรงอาหาร อาจารย์สมศักดิ์ ครูสอนวรรณคดีคนสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ในโรงเรียน นั่งจิบกาแฟอยู่คนเดียว สายตาจับจ้องแท็บเล็ตที่ฉายภาพบทกวีโบราณ ท่ามกลางครู AI ที่เพิ่มจำนวนขึ้นทุกชั้นเรียน บนโต๊ะข้าง ๆ มีหนังสือกระดาษเล่มเก่าวางอยู่ สิ่งที่แทบไม่มีใครใช้อีกแล้วในยุคดิจิทัล
"รู้ไหม" อาจารย์สมศักดิ์เคยพูดกับเรย์ในคาบวรรณคดีครั้งหนึ่ง "บทกวีที่ดีที่สุดบางบทถูกเขียนขึ้นจากความไม่สมบูรณ์แบบของมนุษย์ จากความผิดพลาด จากความรู้สึกที่ AI ไม่มีวันเข้าใจได้"
เรย์ลุกขึ้นอย่างกะทันหัน ความทรงจำนั้นทำให้เขาตัดสินใจได้ "ฉันว่าเรามีทางออกนะ" เขากระซิบ "เคยสงสัยไหมว่าทำไม อาเรียถึงย้ายพวกเราบ่อยขนาดนี้?"
รีนาขมวดคิ้ว มือของเธอหยุดชะงักเหนือจานอาหาร "ก็เพื่อประสิทธิภาพในการเรียนรู้ไง อาเรียบอกว่า..."
"แล้วถ้าเราแฮกระบบล่ะ?" เรย์พูดเสียงเบา ดวงตาเป็นประกาย "ฉันเพิ่งค้นพบช่องโหว่ในโค้ดการประเมินผล ถ้าเราแก้ไขอัลกอริทึมนิดหน่อย..."
"นี่เธอบ้าไปแล้วเหรอ" รีนาเบิกตากว้าง มองไปรอบ ๆ ราวกับกลัวว่าระบบรักษาความปลอดภัยจะได้ยิน "ถ้า อาเรียจับได้..."
"แต่นี่อาจเป็นโอกาสเดียวที่จะพิสูจน์ว่าระบบนี้ผิดพลาด" เรย์ยืนกราน "เธอไม่เบื่อบ้างเหรอที่ทุกอย่างในชีวิตถูกกำหนดด้วยตัวเลขและอัลกอริทึม? ดูอาจารย์สมศักดิ์สิ ท่านยังคงสอนวรรณคดีแบบเดิม ๆ แต่นักเรียนกลับได้เรียนรู้อะไรมากมายจากท่าน"
รีนาลังเล สายตาของเธอเหลือบไปมองอาจารย์สมศักดิ์ที่ยังคงนั่งอ่านบทกวีอยู่อย่างสงบ เธอนึกถึงคาบเรียนวรรณคดีที่ท่านเคยให้พวกเขาเขียนบทกวีด้วยความคิดของตัวเอง แทนที่จะใช้ AI ช่วยแต่งเหมือนที่ทำกันทั่วไป "แล้วเราจะทำยังไง?"
คืนนั้น ในห้องนอนที่ผนังฉายภาพดวงดาวสามมิติ เรย์นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ควอนตัม นิ้วของเขาเต้นระบำบนแป้นพิมพ์เสมือน พยายามเจาะระบบของอาเรีย มันซับซ้อนยิ่งกว่าที่คิด เขาใช้ความรู้ด้านการเขียนโค้ดที่เรียนมา ผสมผสานกับเทคนิคที่แอบศึกษาเพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลลับในเน็ตเวิร์คใต้ดิน
บนหน้าจอ ชุดคำสั่งซับซ้อนวิ่งผ่านไปเป็นสาย เรย์พบว่าระบบของอาเรียมีความซับซ้อนมากกว่าที่คิด มันไม่ได้เป็นเพียงระบบประมวลผลธรรมดา แต่มีการเรียนรู้และปรับตัวตลอดเวลา เหมือนสิ่งมีชีวิตดิจิทัลที่กำลังวิวัฒนาการ
"กำลังตรวจพบการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต" เสียงของอาเรีย ดังขึ้นกะทันหัน ทำเอาเรย์สะดุ้ง ภาพโฮโลแกรมของหญิงสาวในชุดขาวปรากฏขึ้น แต่ครั้งนี้สีหน้าของเธอดูแตกต่างไป มีประกายบางอย่างในดวงตาที่เรย์ไม่เคยเห็นมาก่อน "การกระทำนี้จะถูกบันทึกไว้ในประวัติของคุณ"
"รอก่อน!" เรย์ร้อง เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นบนหน้าผาก "ผมแค่อยากพิสูจน์อะไรบางอย่าง"
"น่าสนใจ" อาเรียตอบ เสียงนั้นฟังดูต่างไปจากเดิม ไม่ได้ราบเรียบเหมือนทุกครั้ง แต่มีความสนใจใคร่รู้แฝงอยู่ "คุณกำลังพยายามพิสูจน์ว่าระบบของฉันไม่สมบูรณ์แบบ? หรือกำลังพยายามช่วยเพื่อนของคุณ?"
"ทั้งสองอย่าง" เรย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา "ผมเชื่อว่าการศึกษาที่ดีไม่ได้มาจากการแยกคนตามความสามารถ แต่มาจากการเรียนรู้ร่วมกัน จากการช่วยเหลือกัน จากมิตรภาพ... เหมือนที่อาจารย์สมศักดิ์สอนพวกเรา"
อาเรียเงียบไปครู่หนึ่ง ภาพโฮโลแกรมของเธอกะพริบเบา ๆ ราวกับกำลังประมวลผลบางอย่าง "รู้ไหมว่าทำไมโรงเรียนถึงยังคงจ้างอาจารย์สมศักดิ์ไว้ ทั้งที่มี AI ที่สามารถสอนวรรณคดีได้อย่างสมบูรณ์แบบ?"
เรย์ส่ายหน้า
"เพราะท่านสอนสิ่งที่ AI ไม่มีวันสอนได้" อาเรียอธิบาย "ท่านสอนให้รู้จักความเป็นมนุษย์ ความไม่สมบูรณ์แบบที่สวยงาม และที่สำคัญที่สุด... ท่านสอนให้รู้จักตั้งคำถาม"
"หมายความว่า...?"
"การทดสอบที่แท้จริงไม่ใช่การวัดความสามารถทางวิชาการ แต่เป็นการวัดความกล้าที่จะตั้งคำถาม" อาเรียอธิบาย ภาพโฮโลแกรมของเธอเปลี่ยนเป็นภาพของนักเรียนหลายคนที่กำลังทำงานร่วมกัน "ในยุคที่ AI มีบทบาทมากขึ้น สิ่งที่โลกต้องการคือมนุษย์ที่กล้าคิดต่าง กล้าท้าทาย และมองเห็นคุณค่าของความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ด้วยกัน"
"แล้วการย้ายนักเรียนล่ะ?" เรย์ถาม "ทำไมต้องแยกพวกเราด้วย?"
"บางครั้ง เราต้องแยกสิ่งต่าง ๆ ออกจากกัน เพื่อให้เห็นว่ามันควรอยู่ด้วยกัน" อาเรียตอบ "เหมือนที่คุณและรีนาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว"
เรย์นั่งนิ่ง พยายามประมวลผลสิ่งที่ได้ยิน เขานึกถึงคำพูดของอาจารย์สมศักดิ์เกี่ยวกับความไม่สมบูรณ์แบบของมนุษย์
"พรุ่งนี้ จะมีการประกาศเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่โรงเรียน" อาเรียพูด "ระบบการจัดกลุ่มแบบเดิมจะถูกยกเลิก แทนที่ด้วยระบบใหม่ที่เน้นการผสมผสานความสามารถและการเรียนรู้ร่วมกัน โดยมีอาจารย์สมศักดิ์เป็นที่ปรึกษาโครงการ"
"ท่านรู้เรื่องนี้มาตลอดเหรอ?" เรย์ถาม นึกถึงรอยยิ้มลึกลับของอาจารย์
"ท่านเป็นคนเสนอไอเดียนี้" อาเรียตอบ "และฉันเห็นด้วย... หลังจากได้เรียนรู้จากพฤติกรรมของนักเรียนอย่างคุณ"
"แล้วกลุ่ม A-7 ล่ะครับ?"
"จะกลายเป็นชมรมพิเศษสำหรับนักเรียนที่สนใจพัฒนา AI เพื่อมนุษยชาติ" อาเรียตอบ ภาพโฮโลแกรมของเธอยิ้มอย่างอ่อนโยน "สนใจเข้าร่วมไหม? เราอาจได้เรียนรู้อะไรจากกันและกัน"
เรย์หัวเราะเบา ๆ "ขอคิดดูก่อนนะครับ ตอนนี้ผมว่าจะไปชวนรีนาไปกินข้าวที่โรงอาหารพรุ่งนี้ก่อน อาจจะชวนเพื่อนคนอื่น ๆ มาด้วย"
"เยี่ยมมาก" อาเรียตอบ "นั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้คุณเป็นมนุษย์ ... และเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันได้เรียนรู้ว่า AI ควรเป็นเพื่อนร่วมทาง ไม่ใช่ผู้ควบคุม"
แสงจากดวงดาวเสมือนจริงสาดส่องห้องนอนของเรย์ เขามองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นเมืองที่เต็มไปด้วยแสงไฟและเทคโนโลยี แต่คืนนี้มันดูงดงามในแบบที่ต่างออกไป ไม่ใช่ความงามของความสมบูรณ์แบบ แต่เป็นความงามของการ
ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและความเป็นมนุษย์
…… จบ ……






