ยามเช้าของชาวอินเดียหน้าวัดไทย
เช้าของเราคือหกโมง แต่เด็กๆ ชาวอินเดียตื่นตั้งแต่ตีห้า เขาตื่นมาทำอะไรกัน หรือเขาจะยังไม่ได้นอน
ความสดใสในยามเช้า กลุ่มเมฆขาวเริ่มจับก้อน
ชวนกันเดินหลบก่อน ชะง่อนตอนแสงอาทิตย์โผล่
เช้าวันนี้ เริ่มที่จะคุ้นชินกับอากาศที่นี่แล้ว ตอนเช้าอาจจะสัก 12 องศา ซึ่งไม่หนาวเท่าตอนกลางคืนหรือช่วงประมาณตีห้า เวลานั้นคือหอบผ้าห่มเดินแน่นอน ในเช้านี้จะเป็นวันแรกที่เราต้องเก็บภาพในหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นขบวนเดินธุดงค์ของพระสงฆ์ 1250 รูปที่เดินธุดงค์มาตั้งแต่ประเทศไทย เดินเท้ามาจนถึงอินเดียเดินทางมามากหลายเดือน หากว่าเรานั้นสังเกตเท้านั้นจะแตกและมีบาดแผลบ้าง เพื่อที่จะมาร่วมงานสมโภชและนมัสการพระบรมสารีริกธาตุที่ประเทศอินเดียในเมืองกุสินาราแห่งนี้
การตื่นแต่เช้าเพื่อมารอรับซึ่งตามกำหนดการณ์นั้นจะมาถึงประมาณ เจ็ดนาฬิกา เหล่าชาวอินเดียทั้งหลายได้ยินต่างมาร่วมที่จะชมและร่วมงาน ความจริงแล้วประชาชนอินเดียนั้นยังไม่ค่อยรู้จักกับพระพุทธเจ้า เพราะว่าหลังจากที่ศาสนาพุทธเสื่อมไปหลังจากศาสนาพราหมณ์ก็เข้ามาครอบงำทำให้คนรุ่นใหม่ยังไม่เข้าใจในพระพุทธประวัติ แม้ว่าจะอยู่ในสถานที่ ปรินิพพานก็ตาม
ป้ายงานหน้าวัดนั้นมีความยิ่งใหญ่มากใครไปมาเห็นหมด หลังจากที่เดินทางมาถึงก็จะมีพิธีในการตักบาตรพระสงฆ์ จำนวนมาก และพระสงฆ์จะทำการพักในสถานที่ที่เตรียมไว้ให้ เพื่อรอร่วมในวันแห่ขบวน งานจัดยิ่งใหญ่มาก ถือว่าเป็นบุญมากที่ได้มาร่วมงานในครั้งนี้
หน้าวัดที่ตอนนี้รอต้อนรับ มีรถเกวียนขับไปมา เจ้าวัววิ่งอย่างแข็งขันเพื่อที่จะไปทำงานในยามเช้า สองสามีภรรยาปั่นจักรยานซ้อนท้ายกันเพื่อที่จะไปส่งกันในที่ทำงาน แล้วปั่นจักรยานกลับมาบ้านเพื่อทำงานบ้านรอสามี เป็นภาพที่ดูน่ารัก ไม่ต้องเร่งรีบไปแต่เช้า ถนนตอนนี้รถยังไม่พลุกพล่านมาก เริ่มที่จะมีควายเดินผ่านหน้าวัดเพื่อที่จะไปหาอาหารที่มีผู้หญิงเป็นคนเลี้ยง ส่วนวัวนั้นแล้วแต่ว่าจะเดินไปไหน ไปได้หมด เพราะว่าเป็นเทพเจ้า ไม่มีใครสนใจ หากว่าใครไปทำร้ายวัว คนนั้นจะอยู่ไม่ดีแน่นอน
เมื่อเราเจอควาย เหมือนว่าควายที่นี่จะหน้าตาไม่ค่อยเหมือนในบ้านเรา ควายเขาจะหน้าและเหาต่างกัน แต่ตัวนั้นสีดำกว่านิดๆ ไม่สนใจไม่ร้องด้วย เดินไปเรื่อยๆ ต้องตื่นแต่เช้าเพราะหากว่าตื่นสายจะไม่มีทางเดินไปกินอาหาร
เด็กๆ ที่เราเรียกกันว่าเด็กเร่ร่อน พวกเขาไม่มีบ้าน ค่ำตรงไหนก็นอนตรงนั้น อาศัยอยู่ที่วัด บางครั้งได้อาหารจากพระสงฆ์ทานเพื่อประทังชีวิตเพราะว่าพ่อแม่นั้นมีลูกจำนวนมากในหนึ่งหลังคาเรือน ไม่มีการคุมกำเนิดหากคุมกำเนิดถือว่าเป็นบาปห้ามในการมาเกิด เลยมีเด็กเยอะมาก หน้าตาดีตาคมขำมาก มองดูเราทีเขม่ง ดีหน่อยกลุ่มนี้ยังมีรองเท้า บางครั้งเด็กน้อยช่วยในการทำความสะอาดวัดเพื่อแลกกับอาหาร
กลุ่มนี้จะเป็นการเล่นของกลุ่มเด็กชาย เด็กเหล่านี้ได้รับการเรียนฟรีจากโรงเรียนที่วัดนั้นได้อุปถัมภ์ในสมเด็จพระเทพ ที่ได้อุปถัมภ์โรงเรียนที่เมืองกุสินาราหลายแห่งทำให้เด็กได้เรียนหนังสือ และสามารถที่จะใช้ชีวิตรอด ทำงานหาเงินได้ ชุดเสื้่อผ้าจากการบริจาคบ้างจากคนไทยที่ส่งมาให้ น่ารักมาก แม้ว่าเนื้อตัวนั้นจะมอมแมมหน่อย แต่ก็ดีกว่าไม่มีเสื้อผ้าใส่
ในวันอาทิตย์ในวัดจะมีการเรียนการสอน เรียกว่าธรรมศึกษา ที่สอนในเรื่องของศาสนาโดยพระในวัดไทยบ้าง ครูอาสาที่มาสอนบ้าง เพื่อให้เขาสามารถที่จะสวดมนต์ได้ อ่านหนังสือได้ ไม่เป็นภาระของสังคม
อากาศหนาวทานได้เหมือนกันหากว่ามีคนเลี้ยง วันนี้มีตุเจ้าเลี้ยงไอศกรีม แต่ก่อนเลี้ยงถามก่อนว่าจะทานจริงไหมอากาศหนาวแบบนี้ แน่นอนหนาวขนาดไหนได้หมด ตกลงว่าหมดสองอัน อร่อยมาก สองอัน ความอร่อยของไอศกรีมที่นี่จะมันเพราะว่าทำจากนมควาย นมควายนั้นหากว่าเราทานจะหอมและอร่อยข้นกว่านมวัว ทำไอศกรีมนี่อร่อยต้องแถม
การใช้ชีวิตในต่างแดนที่เหมือนไม่ได้อยู่ต่างประเทศ รู้สึกคุ้นเคยกับที่นี่ หรือว่าแต่ก่อนนั้นเราเป็นคนที่นี่ ขนาดว่ามาที่นี่ครั้งที่สาม เวลาเดินไปไหนรอบวัด เหมือนว่าเรานั้นอยู่บ้านเราเพราะว่าคนในวัดพูดไทยไหม แล้วอาหารที่นี่อร่อยเหมือนที่ไทยเลยรสชาติที่ไม่แตกต่าง เพราะว่าแม่ครัวคนไทย รู้สึกโชคดีมากที่ได้มาทำบุญที่นี่











