โรดนีย์ ฟ็อกซ์ ผู้รอดชีวิตจากการโจมตีฉลามขาวที่รุนแรงที่สุดในโลก
โรดนีย์ ฟ็อกซ์ (Rodney Fox) คือผู้รอดชีวิตจากการถูกฉลามขาวยักษ์โจมตีที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 1963 ขณะเข้าร่วมการแข่งขันตกปลาใต้น้ำที่ชายหาดอัลดิงกา รัฐเซาท์ออสเตรเลีย เขาถูกฉลามขาวยาวประมาณ 15 ฟุตโจมตีอย่างรุนแรง ฟ็อกซ์ถูกกัดบริเวณหน้าอกและแขน รวมถึงถูกลากลงใต้น้ำ
ในการโจมตีครั้งนั้น ร่างกายของฟ็อกซ์ได้รับบาดเจ็บสาหัส กระดูกซี่โครงด้านซ้ายหักทั้งหมด เยื่อกั้นช่องอกถูกเจาะ ปอดฉีกขาด กระดูกสะบักถูกแทง ม้ามถูกเปิดออก เส้นเลือดแดงใหญ่ที่หัวใจถูกเปิด และเกือบเสียเลือดจนเส้นเลือดจะพัง นอกจากนี้ เส้นเอ็นและนิ้วมือขวาถูกตัดขาด และยังมีฟันฉลามฝังอยู่ในข้อมือของเขา บาดแผลต้องเย็บมากถึง 462 เข็ม
แม้จะได้รับบาดเจ็บรุนแรง ฟ็อกซ์ยังมีสติและใช้ปืนยิงปลาที่เขาถืออยู่ต่อสู้กับฉลาม เขาต่อยจมูกฉลามจนมันปล่อยตัวเขาออกมา จากนั้นเขาว่ายน้ำขึ้นสู่ผิวน้ำและได้รับการช่วยเหลือจากผู้เข้าร่วมแข่งขันคนอื่นๆ ในระหว่างที่ว่ายน้ำขึ้นสู่ผิวน้ำ เขาต่อสู้กับฉลามอีกครั้งโดยการเตะและใช้วิธีต่างๆ จนฉลามกัดอุปกรณ์ลอยน้ำที่เขาผูกติดตัวไว้แทนที่จะกัดเขาโดยตรง
หลังจากเหตุการณ์นั้น ฟ็อกซ์ได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนและฟื้นตัวอย่างปาฏิหาริย์ แม้จะมีบาดแผลและแผลเป็นมากมาย แต่เขาไม่ยอมให้เหตุการณ์ครั้งนั้นทำลายชีวิตเขา เขากลับเปลี่ยนความกลัวเป็นแรงผลักดันในการอนุรักษ์ฉลาม และกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านฉลามขาวที่มีชื่อเสียงระดับโลก เขายังสร้างกรงดำน้ำเพื่อสังเกตฉลามขาวเป็นครั้งแรก และนำคณะสำรวจและถ่ายทำฉลามขาวมากกว่า 100 ครั้ง รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาให้กับภาพยนตร์และสารคดีชื่อดังหลายเรื่อง เช่น Jaws
เรื่องราวของโรดนีย์ ฟ็อกซ์ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องราวของการเอาชีวิตรอดจากการโจมตีฉลามที่รุนแรงที่สุดเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับการเปลี่ยนแปลงทัศนคติของผู้คนต่อฉลาม และส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ทะเลที่ถูกเข้าใจผิด















