ประโยค "ไทยไม่มีนวัตกรรม" นี้มันคงจะจริง
คงมีหลายคนสงสัยและตั้งตำถามว่า คนไทยเก่ง เรามีสถาบันศึกษาชั้นนำ แต่ทำไมเราไม่มีเทคโนโลยีอะไร ที่เป็นของตัวเอง ขายส่งออกหรือใช้เองเลย
หลายคนเชื่อว่าคนไทยมีคนเก่ง ทำงานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี มีสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำของประเทศที่สามารถพัฒนาทรัพกรคนไทยมีความรู้ด้านวิทยาศาตร์ การแพทย์ เทคโนโลยี วิศวะกร และถูกบริษัทข้ามชาติคว้าตัวไปร่วมงานมากมาย
แต่กับประโยค "ไทยไม่มีนวัตกรรม" นี้มันคงจะจริง ที่ไทยยังไม่สามารถสร้างนวัตกรรมที่โดดเด่นและสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ และปัญหาคือการขาดแคลนนวัตกรรมส่งผลให้สินค้าและเทคโนโลยีไทยส่วนใหญ่เป็นเพียงสินค้าพื้นฐานหรือการเลียนแบบ
ถ้าย้อนไป ครั้งหนึ่งประเทศไทยเคยมีบริษัทผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า ระดับที่เรียกกันว่า “ซัมซุงเมืองไทย” ชื่อว่า "ธานินทร์" มีชื่อแรกเริ่มเดิมทีคือ “นภาวิทยุ” เป็นร้านขายวิทยุร้านเล็กก่อตั้งขึ้นเมื่อ 70 กว่า ปีที่ผ่านมาหรือในปี 2489
นี่คือหนึ่งในตำนานของบริษัทสัญชาติไทย ที่เป็นภาพสะท้อนการเติบโต และการล่มสลาย ของธุรกิจไทย-อุตสาหกรรมไทย แน่นอนว่า ตัวอย่างเพียงบริษัทเดียว อาจไม่ได้ทำให้เราเห็นภาพทั้งหมด
แต่การย้อนประวัติศาสตร์ธุรกิจ แล้วมองให้ลึกลงไป เราจะได้เห็นอะไรมากขึ้นกับคำถามที่ว่า ทำไมไทย ไม่ค่อยมีแบรนด์เทคโนโลยี เป็นของตัวเอง
คำว่านวัตกรรม นั้นหมายถึง สิ่งใหม่ที่สร้างสรรค์ขึ้นมา หรือแนวคิดใหม่ที่นำมาประยุกต์ใช้เพื่อปรับปรุงหรือพัฒนาสิ่งที่มีอยู่แล้ว ให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลดีขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคม
แน่นอนนวัตกรรม จะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ เนื่องจากช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างผลกำไร เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และสร้างมูลค่าเพิ่ม. วัตกรรมสามารถนำไปสู่การปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชน เช่น การพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ เทคโนโลยีด้านการศึกษา หรือเทคโนโลยีที่ช่วยแก้ปัญหาทางสังคม.
มาดูว่าไทยพอจะมีนวัตกรรมที่น่าสนใจในหลากหลายด้าน ทั้งในระดับวิจัย พัฒนาอุตสาหกรรม ไปจนถึงนวัตกรรมเพื่อสังคมบ้าง
1. นวัตกรรมด้านเกษตร
-ข้าวหอมมะลิอินทรีย์และพันธุ์ใหม่ – การพัฒนาสายพันธุ์ข้าวที่ทนโรค ทนแล้ง ให้ผลผลิตสูง และมีกลิ่นหอมโดดเด่น
-เซนเซอร์ตรวจวัดความชื้นดิน-อากาศ – ใช้ IoT ควบคุมการให้น้ำแบบแม่นยำ ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต
-โดรนพ่นปุ๋ย/ยา – ใช้ในไร่นาขนาดใหญ่ ลดการใช้แรงงานและเพิ่มความแม่นยำ
2. นวัตกรรมอุตสาหกรรม
-ยางพาราอัจฉริยะ – เช่น ยางเรืองแสง ยางกันไฟฟ้าสถิต ที่มีการพัฒนาจากยางธรรมชาติของไทย
-วัสดุก่อสร้างชีวภาพ – จากเส้นใยปาล์ม เปลือกทุเรียน และวัสดุเหลือทิ้งทางเกษตร
-ไบโอพลาสติก – ผลิตจากมันสำปะหลังหรืออ้อย ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ
3. นวัตกรรมเทคโนโลยีและดิจิทัล
-แพลตฟอร์มการศึกษาออนไลน์ไทย เช่น "Learn Education", "Konkaen School" ที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ
-HealthTech – เช่น แอป “หมอชนะ” หรือระบบติดตามผู้ป่วยโควิดในช่วงวิกฤต
-ฟินเทคไทย – เช่น Dolfin Wallet, เป๋าตัง, และระบบพร้อมเพย์ที่พลิกโฉมการชำระเงินในประเทศ
4. นวัตกรรมเพื่อสังคม
แผ่นกรองน้ำจากถ่านกะลามะพร้าว – ใช้ในพื้นที่ขาดแคลนน้ำสะอาด
-เครื่องวัดฝุ่น PM2.5 ราคาประหยัด – ช่วยประชาชนเข้าถึงข้อมูลอากาศท้องถิ่น
-โมเดล “โคก หนอง นา” – ปรับภูมิสังคมให้เป็นพื้นที่ผลิตอาหารยั่งยืน
5. สตาร์ทอัพและผู้ประกอบการนวัตกรรม
-SCG, PTT, BCG Startups – ลงทุนในเทคโนโลยีสีเขียวและพลังงานสะอาด
-กลุ่ม Young Tech Entrepreneurs – เช่น Ricult (เกษตรแม่นยำ), Freshket (ซัพพลายเชนอาหาร)
เหตุผลที่ไทยยังไม่สามารถสร้างนวัตกรรมได้.....ก็ประมาณจะแจกแจงได้ดังนี้
1. ขาดการสนับสนุนจากภาครัฐ อันนี้สำคัญมากๆ ภาครัฐยังไม่ได้ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อการพัฒนาบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงการวิจัยและพัฒนา
2. คุณภาพการศึกษา ไม่อยากจะคิดเลยเห็นกันอยู่ ว่าระบบการศึกษาไทยยังไม่สามารถสร้างบุคลากรที่มีความสามารถด้านนวัตกรรมได้
3. ขาด Ecosystem ( Ecosystem คืออะไร ทำความรู้จักระบบนิเวศธุรกิจ ที่ซึ่งนวัตกรรมและความยั่งยืนมาบรรจบกัน มีส่วนสร้างความสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม) หรือระบบรองรับ ประเทศไทยยังขาดระบบรองรับที่จูงใจให้บุคลากรที่มีศักยภาพด้านวิทยาศาสตร์กลับมาทำงานในประเทศ.
4. สมองไหล บุคลากรที่มีความสามารถด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเลือกที่จะทำงานในต่างประเทศ เนื่องจากไม่มีสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการทำงาน
5. การขาดแคลนนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ ไทยกำลังเผชิญกับการขาดแคลนนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการสร้างนวัตกรรม
6. การพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ ไทยยังพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ ทำให้ไม่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นของตนเองได้
7. ความสามารถในการแข่งขัน ไทยมีศักยภาพในการแข่งขันบนเวทีโลกลดลง เนื่องจากขาดนวัตกรรม
8. ขาดการปรับตัว อุตสาหกรรมต่างๆ ไม่สามารถปรับตัวตามสถานการณ์โลกและแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ได้ ทำให้เสี่ยงต่อการถดถอย.













