รอยสัก จากสัญลักษณ์ของตัวตนสู่รอยประทับแห่งความรุนแรงในเอลซัลวาดอร์
รอยสักที่เคยเป็นสัญลักษณ์ของแฟชั่นและตัวตน กลับกลายเป็นเครื่องหมายแห่งความทุกข์ในเอลซัลวาดอร์ ประเทศที่เผชิญปัญหากลุ่มแก๊งอาชญากรรมรุนแรง ผู้คนที่มีรอยสักเหล่านี้มักถูกตีตราว่าเป็นสมาชิกแก๊ง ทำให้ชีวิตของพวกเขาเต็มไปด้วยอุปสรรคและความเสี่ยง
ในเรือนจำจังหวัดชาเลเตนัง ชายฉกรรจ์ผู้มีรอยสักเต็มตัว คือสมาชิกแก๊งที่เคยประกาศความภักดีผ่านลวดลายต่างๆ เช่น หยดน้ำตาที่หมายถึงการฆาตกรรม หรือกางเขนกลางอกที่สื่อถึงการสูญเสียเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ยิ่งรอยสักมากเท่าไหร่ ยิ่งแสดงถึงตำแหน่งที่สูงและความผูกพันกับแก๊งมากเท่านั้น รอยสักเหล่านี้ไม่เพียงเป็นคำเตือน แต่ยังเป็นเครื่องบ่งชี้ตัวตนที่ทำให้ตำรวจตามจับพวกเขาได้ง่ายขึ้น และเป็นอุปสรรคสำคัญในการเริ่มต้นชีวิตใหม่เมื่อพวกเขาต้องการหลุดพ้นจากวงจรอาชญากรรม
เอลซัลวาดอร์ติดอันดับประเทศที่มีสถิติอาชญากรรมสูงที่สุด โดยเฉพาะจากแก๊งใหญ่อย่าง MS-13 และ Barrio 18 ที่มีสมาชิกกว่า 70,000 คน เกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมายทุกประเภท ตั้งแต่ค้ายาเสพติด ค้ามนุษย์ ไปจนถึงการเรียกค่าคุ้มครองจากธุรกิจต่างๆ ทำให้ประชาชนและเจ้าของกิจการต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ความหวาดกลัว และต้องจ่ายเงินเพื่อความปลอดภัยที่แทบไม่มีอยู่จริง
ความรุนแรงที่เกิดขึ้นทำให้ความพยายามสร้างสันติภาพเปราะบางลง สงครามระหว่างแก๊งที่ปะทุขึ้นอีกครั้ง ทำให้คดีฆาตกรรมพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของผู้คน เช่น การสังหารพนักงานขับรถโดยสารที่ปฏิเสธปฏิบัติตามคำสั่งของแก๊ง สถานการณ์เช่นนี้ผลักดันให้ชาวเอลซัลวาดอร์จำนวนมากต้องอพยพหนีตาย โดยมีสหรัฐอเมริกาเป็นจุดหมายปลายทางเพื่อแสวงหาชีวิตที่ดีกว่า
อย่างไรก็ตาม การอพยพเข้าสู่สหรัฐฯ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย รัฐบาลทรัมป์ได้ยกเลิกสถานะการคุ้มครองชั่วคราว (TPS) ที่ให้แก่ชาวเอลซัลวาดอร์ ทำให้หลายแสนคนต้องเดินทางกลับบ้าน ที่น่าตลกร้ายคือแก๊งอาชญากรรมในเอลซัลวาดอร์มีจุดกำเนิดมาจากสหรัฐฯ เอง เมื่อชาวเอลซัลวาดอร์อพยพไปลี้ภัยในช่วงสงครามกลางเมือง และรวมกลุ่มกันเพื่อปกป้องตนเองในฐานะคนแปลกหน้า ซึ่งท้ายที่สุดก็กลายเป็นวัฒนธรรมแก๊งที่แพร่หลาย เมื่อสงครามกลางเมืองสงบลงและสมาชิกแก๊งถูกส่งตัวกลับบ้าน พวกเขาก็ได้นำเอาวัฒนธรรมแก๊งกลับมายังเอลซัลวาดอร์ ทำให้เกิดปัญหาซ้ำรอยเดิม
ปัจจุบัน มีความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาจากรากเหง้า โดยเริ่มจากการลบรอยสัก ซึ่งเป็นสิ่งแรกที่อดีตสมาชิกแก๊งต้องทำเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิต คลินิกลบรอยสักฟรีของรัฐบาลเปิดให้บริการแก่ทุกคนที่ต้องการลบอดีต รวมถึงโปรแกรม "I Change" ที่เตรียมความพร้อมให้ผู้กระทำผิดได้กลับคืนสู่สังคมอย่างมีคุณภาพ
นอกจากนี้ ผู้นำคนใหม่ของเอลซัลวาดอร์ยังมุ่งเน้นการทำลายศูนย์กลางทางการเงินของแก๊ง การตัดสัญญาณโทรศัพท์ในเรือนจำ และการพัฒนาฟื้นฟูชุมชนและการศึกษา เพื่อให้เด็กๆ มีโอกาสเห็นอนาคตที่สดใสกว่าการเป็นสมาชิกแก๊ง แม้การปราบปรามจะยากขึ้นเมื่อสมาชิกแก๊งรุ่นใหม่เลือกที่จะไม่สักเพื่อหลบซ่อนตัว แต่คำตอบในการแก้ปัญหาก็ยังคงเดิม คือการมอบโอกาสและความเท่าเทียม เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนที่เป็นรากเหง้าของความรุนแรง เพื่อให้สังคมเอลซัลวาดอร์สามารถหลุดพ้นจากวังวนแห่งอาชญากรรมนี้ได้ในที่สุด
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
ไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !
เจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)
กัมพูชา ส่งจดหมายถึงทั่วโลก ลั่นไม่ได้อ่อนแอ แต่ถูกไทยบีบให้จนมุม
BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลก
มิตรภาพใต้สมุทร เมื่อ "วาฬเพชฌฆาต" จับมือ "โลมา" ร่วมทีมล่าล่าเหยื่อ
อาเซียนเนื้อหอม! เจาะเหตุผลทำไม บังกลาเทศ-ปาปัวนิวกินี-ฟิจิ อยากเข้าใกล้ครอบครัวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ช่องอานม้าแตก! ทหารไทยรุกยึดบังเกอร์ ปักธงชาติคืนพื้นที่






