เบื้องหลังอาวุธมหัศจรรย์นาซี เมื่อวิทยาศาสตร์ตกอยู่ในเงื้อมมือสงคราม
วิทยาศาสตร์ไม่ได้เป็นสิ่งเลวร้าย หากแต่ขึ้นอยู่กับผู้ที่นำไปใช้ ดังเช่นเรื่องราวของ "วิทยาศาสตร์ลับของฮิตเลอร์" ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เผยให้เห็นถึงความพยายามของนาซีในการช่วงชิงชัยชนะด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ
ในช่วงที่สถานการณ์สงครามเริ่มพลิกผัน ฮิตเลอร์ยังคงเชื่อมั่นในอาวุธลับที่สร้างสรรค์โดยเหล่านักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะของเยอรมนี ด้วยงบประมาณสนับสนุนมหาศาลจากพรรคนาซี ทำให้เยอรมนีก้าวขึ้นเป็นชาติที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยที่สุดในยุคนั้น นักฟิสิกส์ นักเคมี และวิศวกรนับพันคนถูกระดมกำลัง เพื่อสร้างคลังแสงแห่งความน่าสะพรึงกลัว ตั้งแต่อาวุธทำลายล้างสูง ยานอวกาศที่อาจล่องหนได้ รังสีมรณะ ไปจนถึงจรวด จานบิน และระเบิดปรมาณู หากแผนการเหล่านี้สำเร็จ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์คงได้เฉลิมฉลองชัยชนะที่นิวยอร์ก ท่ามกลางซากปรักหักพังและเทพีเสรีภาพที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของขบวนพาเหรดนาซี
อาวุธมหัศจรรย์จากมันสมองนักวิทยาศาสตร์
หนึ่งในผลงานที่โดดเด่นที่สุดคือ จรวด V2 ที่พัฒนาโดย ดอกเตอร์ Wernher von Braun วิศวกรหนุ่มผู้ให้กำเนิดยุคอวกาศ แม้ V2 จะถูกใช้เป็นอาวุธล้างแค้นโจมตีอังกฤษ แต่สำหรับฟอน บราวน์ มันคือก้าวแรกสู่ห้วงอวกาศ และในที่สุด เทคโนโลยีนี้ก็ได้ถูกพัฒนาต่อยอดจนนำมนุษย์ไปเหยียบดวงจันทร์ได้สำเร็จในปี 1976
นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาอาวุธและเทคโนโลยีอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ไต้ฝุ่น ขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานจากพื้นสู่อากาศระบบแรกของโลก ที่สามารถเดินทางได้ไกล 6 ไมล์ในเวลาเพียง 14 วินาที หรือ เครื่องบินเจ็ท ที่ทันสมัยที่สุดในยุคนั้นอย่าง Arado 234 เครื่องบินทิ้งระเบิดเทอร์โบเจ็ทลำแรกของโลก และ Me 262 เครื่องบินขับไล่ไอพ่นที่ออกปฏิบัติการลำแรกของโลก ซึ่งทำความเร็วได้เร็วกว่าเครื่องบินของสัมพันธมิตรถึง 100 ไมล์ต่อชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีแนวคิดเรื่อง นาซี UFO หรือจานบิน ซึ่งถูกขับเคลื่อนด้วยพลังงานธรรมชาติที่สร้างโดยวิกเตอร์ ชเฮาเบอร์เกอร์ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากการเคลื่อนไหวของปลา
ความลับของระเบิดปรมาณูและการสิ้นสุดของความฝัน
ช่วงปลายสงคราม นาซีพยายามไขความลับของ นิวเคลียร์ฟิชชั่น เพื่อสร้าง ระเบิดปรมาณู โดยมี แวร์เนอร์ ไฮเซนเบิร์ก นักฟิสิกส์รางวัลโนเบลเป็นผู้นำ แม้จะมีการค้นพบเครื่องปฏิกรณ์ปรมาณูในห้องใต้ดินและยูเรเนียมที่ซ่อนอยู่ รวมถึงการขนส่งน้ำมวลหนักจากนอร์เวย์ แต่ท้ายที่สุด อเมริกาก็เป็นผู้พิสูจน์พลังของระเบิดปรมาณูได้ก่อนที่ Trinty Site ในนิวเม็กซิโก
ความฝันของฮิตเลอร์ที่จะสร้างอาณาจักรไรท์ที่ 3 อันยาวนานนับพันปีจึงจบสิ้นลงในปี 1945 พร้อมกับระเบิดของสัมพันธมิตร แม้เทคโนโลยีลับเหล่านี้จะไม่ถูกนำมาใช้ได้ทันท่วงทีเพื่อพลิกโฉมสงคราม แต่ในภายหลัง อัจฉริยภาพด้านจรวดของ แวร์เนอร์ ฟอน บราวน์ ก็ได้ทำให้สหรัฐอเมริกาคว้าชัยชนะในการแข่งขันทางอวกาศ และเทคโนโลยีต่างๆ ที่ออกแบบไว้กว่า 80 ปีที่แล้ว ก็ยังคงเป็นรากฐานของการออกแบบกระสวยอวกาศและเครื่องยนต์จรวดสมัยใหม่
เรื่องราวของวิทยาศาสตร์ลับของฮิตเลอร์เป็นเครื่องเตือนใจว่า แม้เยอรมนีจะมีนักวิทยาศาสตร์ที่มีพรสวรรค์ที่สุด แต่ความล้มเหลวในการนำพาประเทศของฮิตเลอร์ก็พิสูจน์ให้เห็นว่า วิทยาศาสตร์นั้นไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่มันขึ้นอยู่กับคนที่นำมันไปใช้ต่างหาก






















