เทือกเขาอัลไต ตำนานการอพยพของคนไทยที่ถูกพิสูจน์แล้วว่าไม่จริง
เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินเรื่องราวว่าคนไทยอพยพมาจากเทือกเขาอัลไต แต่เรื่องนี้จริงแท้แค่ไหน และเทือกเขาอัลไตอยู่ที่ใดกันแน่? เรามาไขข้อกระจ่างไปพร้อมกันค่ะ
ความเชื่อเรื่องการอพยพของคนไทยจากเทือกเขาอัลไตนั้นแพร่หลายมานาน โดยเฉพาะในหนังสือภูมิศาสตร์ที่เราเรียนกันมาตั้งแต่เด็ก อย่างหนังสือของทองใบ แตงน้อย หรือกระทั่งการเรียนการสอนในห้องเรียนสมัยก่อน แต่ในปัจจุบัน นักวิชาการและนักประวัติศาสตร์ได้มีเครื่องมือและวิธีการพิสูจน์ที่ทันสมัยกว่าเดิม และได้ข้อสรุปแล้วว่า ความเชื่อนี้ไม่เป็นความจริง ด้วยเหตุนี้ กระทรวงศึกษาธิการจึงได้ถอดเรื่องนี้ออกจากหลักสูตรตั้งแต่ปี พ.ศ. 2521 แล้วค่ะ
แล้วอะไรคือที่มาของความเชื่อนี้? ต้นตอของทฤษฎีนี้มาจาก ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธุ์) ซึ่งเขียนไว้ในหนังสือชื่อ "หลักไทย" หนังสือเล่มนี้มีความน่าเชื่อถือสูง เพราะเป็นหนังสือที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศจากการประกวดของราชบัณฑิตยสถานในรัชสมัยรัชกาลที่ 7 แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ ในหนังสือของขุนวิจิตรมาตรากล่าวถึงเทือกเขาอัลไตเพียงสั้นๆ ว่า "ในขั้นแรกทีเดียว ไทยจะมีชาติภูมิอยู่ตรงไหนนั้น ไม่มีทางทราบได้ แต่อาจจะกล่าวได้กว้างๆ ว่า มีแหล่งเดิมอยู่ในบริเวณภูเขาอัลไต อันเป็นบ่อเกิดของพวกมงโกลด้วยกันเท่านั้น" โดยไม่ได้ให้หลักฐานหรือคำอธิบายเพิ่มเติมใดๆ
ต่อมาในปี พ.ศ. 2523 ขุนวิจิตรมาตราได้ให้สัมภาษณ์และอ้างว่าแนวคิดนี้มาจาก หมอ Dodd (William Clifton Dodd) มิชชันนารีและแพทย์ชาวอเมริกันที่เข้ามาในประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ 5 แต่เมื่อตรวจสอบงานเขียนของหมอ Dodd กลับพบว่า หมอ Dodd ไม่เคยระบุว่าคนไทยมาจากเทือกเขาอัลไตโดยตรง เพียงแค่กล่าวว่าคนไทยอาจมีเชื้อสายร่วมกับพวกมองโกล ซึ่งมองโกลมาจากเทือกเขาอัลไตเท่านั้น นี่แสดงให้เห็นว่าความเชื่อนี้เป็นการตีความและเล่าต่อกันมาแบบปากต่อปาก จนกลายเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่เชื่อถือ
เทือกเขาอัลไตมีอยู่จริงและมีความสำคัญอย่างไร?
แม้ว่าคนไทยจะไม่ได้อพยพมาจากเทือกเขาอัลไต แต่เทือกเขาแห่งนี้ มีอยู่จริง และมีความสำคัญทางภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์มากค่ะ
เทือกเขาอัลไต ตั้งอยู่ในทวีปเอเชียกลาง ครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ประมาณ 845,000 ตารางกิโลเมตร หรือใหญ่กว่าประเทศไทยทั้งประเทศ ทอดยาวกว่า 2,000 กิโลเมตร จากทะเลทรายโกบีไปจนถึงที่ราบไซบีเรีย พาดผ่านหลายประเทศ ทั้ง จีน มองโกเลีย รัสเซีย และคาซัคสถาน ชื่อ "อัลไต" มาจากภาษาเตอร์กิก แปลว่า "เทือกเขาทองคำ" ซึ่งอาจมาจากแสงอาทิตย์ที่ส่องกระทบหิมะปกคลุมยอดเขาให้กลายเป็นสีทอง
สภาพอากาศในเทือกเขาอัลไตมีความหลากหลายอย่างมาก บางพื้นที่หนาวจัดถึง -60 องศาเซลเซียส ในขณะที่บางส่วนอาจร้อนถึง 40 องศาเซลเซียสในช่วงฤดูร้อน แม้จะมีความหนาวเย็น แต่เทือกเขาอัลไตก็เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของมนุษย์มาตั้งแต่สมัยโบราณ
ในปี ค.ศ. 2010 มีการค้นพบโครงกระดูกมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ชื่อ Denisovans ที่มีอายุประมาณ 50,000 ปี ในถ้ำ Denisova นอกจากนี้ยังพบโครงกระดูกของมนุษย์ Neanderthals และ Homo Sapiens ในบริเวณเดียวกัน ซึ่งบ่งชี้ว่าเทือกเขาอัลไตเป็นศูนย์รวมของอารยธรรมมนุษย์ยุคโบราณที่สำคัญ และเชื่อกันว่าผู้คนในบริเวณนี้คือบรรพบุรุษของชนกลุ่มต่างๆ ทั่วโลก
ในยุคประมาณ 800 - 300 ปีก่อนคริสตกาล เทือกเขาอัลไตยังเป็นที่อยู่ของกลุ่ม Scythians ซึ่งชาวจีนเรียกว่า ซงหนู พวกเขาเป็นนักรบบนหลังม้าและเลี้ยงสัตว์ มีบทบาทสำคัญในการขนส่งสินค้าระหว่างกรีก เปอร์เซีย อินเดีย และจีน
ปัจจุบัน ประชากรที่อาศัยอยู่ในเทือกเขาอัลไตส่วนใหญ่เป็นชาวรัสเซีย คาซัคสถาน และชาวอัลไตพื้นเมือง พวกเขายังคงดำรงชีวิตด้วยการ ทำปศุสัตว์ เลี้ยงแกะ วัว และม้า รวมถึงการทำเกษตรกรรมและการขุดแร่ เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น ทำให้บริเวณนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น "ดินแดนที่ถูกเวลาลืม" ผู้คนยังคงใช้ชีวิตแบบดั้งเดิม เช่น การเดินทางด้วยม้าและรถเลื่อน นอกจากนี้ ยูเนสโกยังยกย่องให้เทือกเขาอัลไตเป็นหนึ่งในเจ็ดแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ เนื่องจากความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนักตั้งแต่ยุคน้ำแข็งครั้งสุดท้าย
สรุปแล้ว เทือกเขาอัลไตเป็นสถานที่ที่มีอยู่จริงและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติอย่างยิ่ง แต่ทฤษฎีที่ว่าคนไทยอพยพมาจากที่นี่นั้นได้ถูกพิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นความจริง ด้วยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และประวัติศาสตร์ที่ทันสมัย คนไทยในปัจจุบันจึงไม่ได้มีความเชื่อมโยงโดยตรงกับเทือกเขาอัลไตในแง่ของการอพยพในอดีตค่ะ
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
ดีลอาวุธยักษ์สหรัฐฯ–ไต้หวัน กับสัญญาณเตือนที่ส่งตรงถึงปักกิ่ง
จีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์
ไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญ
ภาพวาดแผ่นเดียว ครูต้องรีบแจ้งแม่ให้พาไปหาหมอ ด่วน!!!
IO เขมรปั่นหนัก! ใช้ AI สร้างพาสปอร์ตปลอม อ้าง “บัวขาว” เป็นคนกัมพูชา ไม่ใช่คนไทย





