เจาะลึกความแตกต่างระหว่าง Oligio และ Thermage FLX หัตถการยกกระชับที่หลายคนเลือก
เจาะลึกความแตกต่างระหว่าง Oligio และ Thermage FLX หัตถการยกกระชับที่หลายคนเลือก
ในยุคที่รูปลักษณ์ภายนอกส่งผลต่อความมั่นใจ การดูแลผิวให้เต่งตึง กระชับ และดูอ่อนเยาว์จึงกลายเป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะหัตถการที่ช่วยยกกระชับผิวโดยไม่ต้องศัลยกรรม กลายเป็นทางเลือกยอดนิยมในคลินิกความงามทั่วประเทศ และ 2 โปรแกรมที่ได้รับความสนใจมากที่สุดก็คือ Oligio และ Thermage FLX
แม้ทั้งสองจะใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ Monopolar RF เหมือนกัน แต่เบื้องหลังการทำงาน และผลลัพธ์ที่ได้กลับมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นการเข้าใจรายละเอียดของแต่ละโปรแกรมก่อนตัดสินใจเข้ารับบริการจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
รู้จักกับ Oligio ทางเลือกใหม่ของการยกกระชับ
Oligio เป็นเครื่องมือยกกระชับผิวที่พัฒนาโดยประเทศเกาหลีใต้ โดยใช้พลังงานคลื่นวิทยุ Monopolar RF ที่ความถี่ 6.78 MHz เพื่อส่งพลังงานลงสู่ชั้นผิวหนังแท้และชั้นไขมันในระดับความลึกประมาณ 3 มม. จุดประสงค์หลักคือช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ฟื้นฟูความยืดหยุ่นของผิวหน้า และสลายไขมันส่วนเกิน เช่น บริเวณเหนียงและแก้ม
หนึ่งในจุดเด่นของ Oligio คือความรู้สึก “ไม่เจ็บ” ในระหว่างการทำหัตถการ ด้วยการออกแบบระบบปล่อยความเย็น Cryogen Gas ผสานกับ Skin Temperature Sensor ที่ตรวจจับอุณหภูมิผิวอย่างต่อเนื่อง จึงลดโอกาสเกิดการไหม้ (Burn) หรือระคายเคือง
โหมดการทำงานของ Oligio
Oligio สามารถปรับได้ถึง 3 โหมด ได้แก่
- โหมดเดี่ยว
- โหมดคู่
- โหมดอัตโนมัติ
โดยเมื่อหัวทิปสัมผัสผิว จะมีการควบคุมพลังงานให้ลงสู่ผิวได้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ผลลัพธ์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
พื้นที่ที่เหมาะกับการทำ Oligio
- กรอบหน้า — ยกกระชับและสร้างความคมชัดให้กับรูปหน้า
- รอบดวงตา — แก้ปัญหาผิวที่หย่อนคล้อยและริ้วรอยเล็ก ๆ
- แก้ม เหนียง คาง — ลดไขมันและฟื้นฟูความกระชับ
- ลำคอ — ลดรอยย่นที่เกิดจากความหย่อนคล้อย
- หน้าท้อง ต้นแขน — ช่วยให้ผิวเรียบเนียนและกระชับ
จุดเด่นเพิ่มเติมของ Oligio คือไม่จำเป็นต้องใช้ยาชา และใช้เวลาเพียง 20–30 นาทีในการทำต่อครั้ง
Thermage FLX ยกกระชับลึกถึงชั้นผิวหนังแท้
อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันคือ Thermage FLX เครื่องยกกระชับที่ใช้พลังงานคลื่นวิทยุเช่นเดียวกับ Oligio แต่ลงลึกไปถึงชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) โดยตรง ซึ่งจะช่วยให้กล้ามเนื้อเกิดการหดตัว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อย่างต่อเนื่อง
ความพิเศษของ Thermage FLX อยู่ที่ระบบ AccuREP Technology ซึ่งจะปรับระดับพลังงานให้เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคลแบบเรียลไทม์ รวมถึงระบบ Cooling ที่ช่วยให้รู้สึกสบายผิวในขณะทำ
พื้นที่ที่นิยมทำ Thermage FLX
- รอบดวงตา แก้ปัญหาริ้วรอยและหนังตาตก
- ผิวหน้า กระชับผิว ลดไขมันบริเวณแก้ม และทำให้หน้าดูเรียวขึ้น
- ลำคอ ลดไขมันส่วนเกินและฟื้นฟูกรอบหน้าให้ดูคมชัด
- ลำตัว ใช้ในบริเวณแขน หน้าท้อง ต้นขา หรือสะโพกเพื่อยกกระชับผิวหนัง
Thermage FLX เหมาะกับทุกสีผิว และทุกสภาพผิว ใช้เวลาประมาณ 45–60 นาที และไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ ผลลัพธ์จะเริ่มเห็นได้ทันทีประมาณ 20% และจะชัดเจนขึ้นภายใน 2–3 เดือน โดยอยู่ได้นานถึง 1–2 ปี
เปรียบเทียบ Oligio และ Thermage FLX แบบชัดเจนในแต่ละด้าน
เทคโนโลยีที่ใช้
- Oligio ใช้คลื่นวิทยุ Monopolar RF ความถี่ 6.78 MHz ซึ่งออกแบบมาให้เจาะจงกับการยกกระชับผิวหน้า พร้อมทั้งช่วยสลายไขมันบางส่วน
- Thermage FLX ใช้คลื่น Monopolar RF เช่นกัน แต่เน้นลงลึกถึงชั้นผิวหนังแท้เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนและกระชับผิวในระยะยาว
ระบบลดความเจ็บขณะทำ
- Oligio มีระบบ Cryogen Gas และ Skin Temperature Sensor ที่ช่วยลดอุณหภูมิผิว ทำให้รู้สึกเย็นและเจ็บน้อยมากขณะทำ
- Thermage FLX มีระบบ Cooling System ที่ช่วยลดความร้อนบนผิว แต่ยังอาจรู้สึกอุ่นหรือร้อนในบางจุด
ความรู้สึกขณะทำหัตถการ
- Oligio ให้ความรู้สึกเบาสบาย ผ่อนคลาย ไม่ต้องทายาชา และเหมาะสำหรับคนที่กังวลเรื่องความเจ็บ
- Thermage FLX จะรู้สึกอุ่นลึก ๆ ในชั้นผิว แต่ไม่ถึงกับเจ็บจนทนไม่ได้
ระยะเวลาในการทำแต่ละครั้ง
- Oligio ใช้เวลาเพียง 20–30 นาที เหมาะกับผู้ที่มีเวลาจำกัด
- Thermage FLX ใช้เวลานานกว่าคือประมาณ 45–60 นาที
ระยะเวลาที่เริ่มเห็นผลลัพธ์
- Oligio เห็นผลบางส่วนได้หลังทำทันที โดยผิวจะค่อย ๆ เต่งตึงขึ้นในช่วง 2–4 สัปดาห์
- Thermage FLX จะเห็นผลชัดเจนภายใน 2–3 เดือนหลังทำ แต่ผลที่ได้มีความต่อเนื่องและยาวนานกว่า
ระยะเวลาของผลลัพธ์
- ผลของ Oligio อยู่ได้หลายเดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลหลังทำ
- Thermage FLX ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานถึง 1–2 ปีในบางราย โดยไม่ต้องทำซ้ำบ่อย
ความสามารถในการยกกระชับปรับรูปหน้าและลดไขมัน
- Oligio เหมาะมากกับการลดไขมันเฉพาะจุด เช่น แก้ม เหนียง และช่วยปรับกรอบหน้าให้คมชัด
- Thermage FLX เน้นการยกกระชับทั่วใบหน้าและชั้นลึกของผิว มากกว่าการลดไขมัน
ดูแลผิวหลังทำ Oligio หรือ Thermage FLX อย่างไรให้ได้ผลสูงสุด
แม้จะไม่ต้องพักฟื้น แต่การดูแลผิวหลังหัตถการจะช่วยยืดอายุของผลลัพธ์และป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
เคล็ดลับการดูแลหลังทำ
- หลีกเลี่ยงแดดจัดในช่วง 3–5 วันแรก
- ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้นสูง
- หลีกเลี่ยงการอบซาวน่าและกิจกรรมที่ทำให้ผิวร้อนจัด
- ดื่มน้ำอย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน เพื่อเร่งการฟื้นฟูของเซลล์ผิว
- ใช้ครีมกันแดดทุกวัน แม้อยู่ในร่ม
ไม่ว่าจะเป็น Oligio หรือ Thermage FLX ทั้งสองเทคโนโลยีต่างก็มีจุดเด่นเฉพาะตัว ที่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูความกระชับของผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด Oligio เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์รวดเร็ว ไม่เจ็บตัว และไม่มีเวลาพักฟื้น ในขณะที่ Thermage FLX เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาผลลัพธ์ที่ลึกกว่าและยาวนานกว่า แม้จะใช้เวลาในการเห็นผลนานขึ้นแต่ก็คุ้มค่าในระยะยาว
สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่การเลือกหัตถการที่ทันสมัย แต่คือการเลือกโปรแกรมที่เหมาะสมกับสภาพผิว ความต้องการ และงบประมาณของคุณ พร้อมกับอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้มีประสบการณ์
หากคุณยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกโปรแกรมใด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ และได้ผลลัพธ์ที่ดีในแบบที่คุณต้องการ















