ทำไมพระพุทธเจ้าไม่ทรงโกนผม? เจาะลึกที่มาของทรงผมในพระพุทธรูป
เหตุใดพระพุทธเจ้าในรูปเคารพจึงมีทรงผมเป็นก้นหอยและมีรัศมีหรือดอกบัวตูมเหนือพระเศียร แทนที่จะทรงผมแบบพระสงฆ์ทั่วไปที่โกนผม
ทรงผมลักษณะก้นหอยที่เรียกว่า "รัศมีเปลว" หรือ "เกตุมาลา" ไม่ใช่ทรงผมที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า แต่เป็นลักษณะที่นิยมสร้างในพระพุทธรูปตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์ในพุทธประวัติที่กล่าวถึงรัศมีที่เปล่งออกจากพระวรกายและพระเศียรของพระพุทธเจ้า
ตำนานในประเทศจีน ธิเบต และญี่ปุ่น ที่เล่าว่าหอยขมมาเกาะที่พระเศียรเพื่อบังแดด ทำให้เกิดทรงผมขด แต่ตำนานนี้ถูกแต่งขึ้นภายหลังเพื่ออธิบายลักษณะของพระพุทธรูปที่มีอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งมีมาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 7-10 และน่าจะได้รับอิทธิพลจากศิลปะอมราวดีของอินเดียใต้
เหตุผลที่ศิลปะอินเดียใต้สร้างพระพุทธเจ้าด้วยทรงผมลักษณะนี้ อาจมาจากแนวคิดเรื่อง "มหาบุรุษลักษณะ 32 ประการ" ที่บรรยายลักษณะพิเศษของพระพุทธเจ้า รวมถึงลักษณะของเส้นผมที่ขดเป็นตุ้มเวียนขวาและมีเส้นขนเพียงเส้นเดียวต่อรูขุมขน ซึ่งลักษณะเหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจให้ช่างศิลป์สร้างพระพุทธรูปให้มีผมขดเป็นก้นหอย
นอกจากทรงผมก้นหอยแล้ว ลักษณะ "อุษณีษะ" ที่เป็นก้อนนูนบนพระเศียรก็ถูกกล่าวถึง โดยนักวิชาการบางท่านมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความเป็น "จักรวาทิน" หรือจักรพรรดิในทางธรรมของพระพุทธเจ้า เพื่อให้แตกต่างจากพระสาวก
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาพระพุทธรูปในยุคแรก ๆ เช่น พระพุทธรูปคันธาระที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะกรีก จะเห็นว่ามีลักษณะเป็นมวยผมหยักศกที่สมจริง ซึ่งอาจใกล้เคียงกับลักษณะที่แท้จริงของพระพุทธเจ้ามากกว่า
เมื่อพิจารณาจากหลักฐานในพระไตรปิฎก พบว่าตอนที่พระพุทธเจ้าออกบวช ทรงตัดผมให้เหลือเพียง 2 องคุลี และในบางครั้งถูกเรียกว่า "สมณะโล้น" ซึ่งบ่งชี้ว่าพระองค์ทรงโกนผมเหมือนพระสงฆ์ทั่วไป ลักษณะทรงผมที่เป็นเอกลักษณ์ในรูปเคารพจึงเกิดขึ้นภายหลังเพื่อเป็นสัญลักษณ์และแสดงถึงเหตุการณ์สำคัญในพุทธประวัติ
การที่พระพุทธเจ้าในรูปเคารพมีทรงผมที่แตกต่างจากพระสงฆ์ทั่วไปนั้น มีจุดประสงค์เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำและแสดงถึงลักษณะพิเศษของพระองค์ แม้ว่าลักษณะที่แท้จริงของทรงผมพระพุทธเจ้าเมื่อ 2,500 กว่าปีที่แล้วจะไม่สามารถสรุปได้อย่างชัดเจนจากหลักฐานที่มีอยู่ แต่แก่นแท้ของพระพุทธศาสนาก็ไม่ได้อยู่ที่รูปลักษณ์ภายนอก แต่อยู่ที่ธรรมะคำสอนของพระองค์
เจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
ไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !
เขมรไม่มีคิดหยุด แต่คิดว่าจะรบไทยให้ชนะด้วย F-35 ได้อย่างไรในอนาคต
สอยอีกหนึ่ง นายพลเขมรร่วง อีกราย
BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลก
มิตรภาพใต้สมุทร เมื่อ "วาฬเพชฌฆาต" จับมือ "โลมา" ร่วมทีมล่าล่าเหยื่อ
กัมพูชา ส่งจดหมายถึงทั่วโลก ลั่นไม่ได้อ่อนแอ แต่ถูกไทยบีบให้จนมุม






