มนุษย์เคยเกือบสูญพันธุ์ ปริศนาแห่งคอขวด
ทุกคนรู้หรือไม่ว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์เคยเผชิญกับภาวะใกล้สูญพันธุ์อย่างน่าตกใจ? นักวิทยาศาสตร์ค้นพบหลักฐานจาก DNA บ่งชี้ว่าประชากรมนุษย์ทั่วโลกลดลงเหลือเพียงประมาณ 1,280 คู่เท่านั้น! เหตุการณ์นี้เรียกว่า "ปรากฏการณ์คอขวด" ซึ่งหากบรรพบุรุษของเราตัดสินใจผิดพลาดเพียงเล็กน้อย พวกเราอาจจะไม่ได้มีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้
คำถามสำคัญคืออะไรคือสาเหตุที่ทำให้จำนวนมนุษย์ลดลงอย่างมาก? แม้จะยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด แต่มีทฤษฎีที่น่าสนใจ หนึ่งในทฤษฎีที่โดดเด่นคือ การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิโลกอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การระเบิดครั้งใหญ่ของภูเขาไฟโทบา ในอินโดนีเซียเมื่อประมาณ 70,000 ปีที่แล้ว การระเบิดครั้งนั้นมหาศาล คาดการณ์ว่าปล่อยเถ้าถ่านจำนวนมากบดบังแสงอาทิตย์ ทำให้โลกเข้าสู่ยุคน้ำแข็งขนาดย่อม ส่งผลกระทบต่อพืชและสัตว์ รวมถึงมนุษย์ในยุคหินที่ยังไม่มีเครื่องมือป้องกันตัวเพียงพอ
อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีภูเขาไฟโทบาก็ถูกตั้งคำถาม นักวิทยาศาสตร์บางส่วนชี้ว่าช่วงเวลาที่มนุษย์ใกล้สูญพันธุ์ตามหลักฐาน DNA อาจไม่ตรงกับการระเบิดของภูเขาไฟโทบา นอกจากนี้ การศึกษาตัวอย่างพืชและสัตว์ในแอฟริกาในช่วงเวลานั้นก็ไม่พบความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อย่างที่ควรจะเป็นหากเกิดผลกระทบรุนแรงจากการระเบิด
อีกแนวคิดหนึ่งเสนอว่ามนุษย์ไม่เคยใกล้สูญพันธุ์จริง การพบ DNA เพียง 1,000 กว่าคู่อาจเป็นผลมาจากการที่มนุษย์กลุ่มเล็กๆ เพิ่งเริ่มอพยพออกจากแอฟริกา และกลุ่มนี้ได้กลายเป็นบรรพบุรุษของประชากรส่วนใหญ่ในปัจจุบัน
ถึงแม้ปริศนาเบื้องหลังเหตุการณ์ "คอขวด" ของมนุษย์จะยังไม่คลี่คลาย แต่เรื่องราวนี้ก็เป็นเครื่องเตือนใจถึงความเปราะบางของเผ่าพันธุ์ของเรา และความโชคดีที่เราสามารถสืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้ การศึกษาเรื่องราวในอดีตเช่นนี้จะช่วยให้เราตระหนักถึงความสำคัญของการอยู่รอดและการปรับตัว เพื่อเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

















