พุทธานุภาพแห่งทศพลญาณ ในยุคที่พระพุทธองค์ทรงนำ
ในสมัยที่พระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์ชีพ การเผยแผ่ธรรมะและการเผชิญหน้ากับลัทธิต่าง ๆ ต้องอาศัยพระปัญญาญาณและพระเมตตาอันยิ่งยวด การสั่งสอนผู้คนที่มีนิสัยแตกต่างกันเป็นเรื่องท้าทาย แต่พระพุทธองค์ทรงนำพาพวกเขาให้เข้าใจและบรรลุธรรมได้โดยง่าย ด้วยคุณลักษณะพิเศษที่เรียกว่า กำลังของพระตถาคต 10 ประการ หรือ ทศพลญาณ
เรื่องราวนี้ปรากฏเมื่อสุนัขขัตตมาณพ ผู้เคยบวชแต่ลาสิกขาเพราะไม่เห็นพระพุทธเจ้าแสดงฤทธิ์ ได้กล่าวร้ายพระองค์ในเมืองเวสาลี พระสารีบุตรทราบความจึงนำไปกราบทูล พระพุทธองค์ตรัสว่าสุนัขขัตตะเป็นโมฆบุรุษที่ไม่เข้าใจถึงอิทธิวิธีและญาณวิเศษของพระองค์
พระพุทธเจ้าทรงมี ทศพลญาณ 10 ประการ ที่ทำให้ประกาศพระศาสนาได้อย่างมั่นคง ได้แก่
- ฐานาฐานญาณ: รู้ความเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้ของสิ่งต่าง ๆ ตามกฎธรรมชาติ
- กรรมวิปากญาณ: รู้ผลกรรมดีชั่วอย่างละเอียดและวาระการส่งผล ดังเรื่องสุปพุทธกุฏฐิที่เคยลบหลู่พระปัจเจกพุทธเจ้า
- สัพพัตถคามินีปฏิปทาญาณ: รู้ข้อปฏิบัติที่นำไปสู่สุคติ ทุคติ หรือความพ้นทุกข์
- นานาธาตุญาณ: รู้สภาวะของโลกและส่วนประกอบของชีวิตอย่างละเอียด
- นานาธิมุตติกญาณ: รู้อัธยาศัย ความเชื่อ และความสนใจของสัตว์ทั้งหลาย เพื่อสั่งสอนให้เหมาะสม ดังกรณีบุตรช่างทองที่ชอบดอกไม้ทองคำ
- อินทริยปโรปริยัตตญาณ: รู้ความยิ่งหย่อนของอินทรีย์ เพื่อสั่งสอนให้ตรงกับความสามารถในการบรรลุธรรม ดังการไปโปรดชฎิลสามพี่น้องที่ต้องใช้วิธีต่างกัน
- ฌานวิโมกข์สมาธิสมาบัติญาณ: รู้ความเศร้าหมอง ความเบิกบาน และการเข้าออกฌานสมาบัติ
- ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ: ระลึกชาติในอดีตได้อย่างไม่มีขีดจำกัด
- จุตูปปาตญาณ: รู้การจุติและอุบัติของสัตว์ตามกรรม
- อาสวักขยญาณ: รู้ความสิ้นไปแห่งกิเลส ซึ่งนำไปสู่การบรรลุอรหัตผล
ด้วยทศพลญาณนี้ พระพุทธองค์จึงทรงสามารถสั่งสอนเวไนยสัตว์ที่มีความแตกต่างหลากหลายได้อย่างเหมาะสม นำพาพวกเขาให้เข้าใจสัจธรรมและบรรลุความหลุดพ้นได้ ซึ่งแสดงถึงพุทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระองค์















