หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

หวานใจพี่รหัส ตอนที่ 6 เป็นห่วงก็บอกมาเถอะน่า...

โพสท์โดย risait445

ปารพยายามเอาหูแนบกับประตูฟังเสียงคนที่อยู่ข้างในห้อง อยากรู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ พลันชามสุกี้ที่อยู่ในถาดเริ่มเอียง น้ำแกงร้อนจัดจากชามสุกี้ไหลมาโดนมือที่จับถาดไว้ และเลื่อนมาด้านที่ต่ำกว่า ปารสะดุ้งปล่อยมือจากถาดทันที

ไม่อาจทนความร้อนนั้นไหว เนื่องจากทั้งน้ำทั้งผักและวุ้นเส้นบางส่วนหกมาโปะบนหลังมือของเธอ ชามจึงหล่นลงกระแทกพื้น

“โอ๊ย!”

ยนตร์รีบเปิดประตูออกมา มองเห็นปารสะบัดเศษผักและวุ้นเส้นที่หกมาโปะบนหลังมือออกโดยเร็ว ชามกระเบื้อง นั้นแตกกระจายอยู่บนพื้น เขารีบคว้ามือของน้องรหัสมาดูอย่างร้อนใจ

“ปาร! รีบไปล้างมือก่อน ระวังอย่าเหยียบเศษกระเบื้องนะ”

นภารีบวิ่งขึ้นมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น

“ปารโดนน้ำสุกี้ลวก ไปหยิบน้ำแข็งออกมาที ห่อผ้าด้วยนะ” ยนตร์สั่งน้องสาวให้รีบไปเตรียมสิ่งที่เขาขอ

ปารอมยิ้มน้อย ๆ มองพี่รหัสกำลังประคบน้ำแข็งให้อย่างเบามือที่สุด หยุดที่จุดเดิมครู่หนึ่งก่อนจะเลื่อนไปจุดอื่นที่เป็นรอยปื้นแดง ไม่หยุดที่จุดเดิมนานเกินไปเพราะจะทำให้เลือดไม่ไหลเวียน ตั้งแต่เด็กแล้วหากเธอได้รับบาดเจ็บ เขาจะคอยดูแลแบบนี้เสมอ

นภามองพี่ชายด้วยรอยยิ้ม ไม่ว่าเขาจะโกรธใครอยู่ก็ตาม หากคนนั้นได้รับอันตราย พี่ชายของเธอไม่เคยรีรอต้องเข้าช่วยเสมอ

“พอแล้วล่ะ พี่ยนตร์ พี่ทานสุกี้ก่อนเถอะ พี่ยังไม่ได้ทานอะไรเลย หิวแย่แล้ว” ปารพูดพลางจะขยับมือออกจากฝ่ามืออุ่นของชายหนุ่ม แต่อีกฝ่ายไม่ยอมปล่อยมือ

“มือเจ็บขนาดนี้แล้ว ไม่ต้องทำหรอก” หนุ่มแว่นเลื่อนสายตาจากฝ่ามือของเธอขึ้นมาจ้องหน้าฝ่ายตรงข้าม

“อีกมือไม่ได้เจ็บสักหน่อย แล้วก็ไม่ได้เจ็บข้างที่ถนัดด้วย ปารทำได้” เด็กสาวยกมือข้างที่ไม่บาดเจ็บให้เขาดู

“ถ้าปารดื้อพี่ก็จะไม่กิน พี่ยังไม่หิว” ยนตร์แค่นเสียงดุ แต่พอจบประโยคนั้นท้องเจ้ากรรมดันร้องโครกคราก ชายหนุ่มทำหน้าเหวอเล็กน้อย เมื่อท้องมันบอกความจริงว่าหิวจนไส้กิ่วแล้ว

ปารอดยิ้มไม่ได้ ผู้ชายอะไรปากแข็งจริง ๆ เลย

“ภาทำเอง แค่เติมผักกับวุ้นเส้น สบายมาก น้ำแกงก็ยังมีเหลืออยู่” นภาเดินไปเปิดแก๊สรอ

“เดี๋ยวพี่มานะ อย่าไปไหน” ยนตร์สั่งก่อนลุกขึ้นเดินออกไปนอกห้องครัว แล้วกลับมาพร้อมกับกาบว่านหางจระเข้ เขาปอกเปลือกและล้างเมือกยางสีเหลืองออกจนหมดเหลือแต่วุ้นใส ฝานบาง ๆ เอามาแปะบนรอยปื้นแดงหลังมือของน้องรหัส ก่อนจะพันไว้ด้วยผ้าก๊อซ

“ขอบคุณนะคะ พี่ยนตร์” ปารอมยิ้มน้อย ๆ รู้สึกดีใจที่เขายังเป็นห่วงเธอ แถมกลัวเธอจะเป็นแผลเป็นอีกด้วย

“เสร็จแล้วค่ะ” นภายกชามสุกี้ร้อน ๆ มาวางบนโต๊ะ ตรงหน้าพี่ชาย

“ปารไปห้องภาหน่อย มีของจะให้ดู” เธอชวนเพื่อนรักขึ้นไปบนห้อง เพราะขืนอยู่ พี่ชายขี้เก๊กของเธอคงจะไม่กล้าทานอย่างเต็มที่แน่นอน

นภาเปิดคอมพิวเตอร์แล้วกดไอคอนกล้องวงจรปิดขึ้นมาดูภาพในห้องครัว สองสาวต่างพากันหัวเราะคิกคัก เพราะสิ่งที่เห็นคือยนตร์กำลังทานสุกี้อย่างเอร็ดอร่อยมาก แถมยังลุกไปเติมอีกต่างหาก

“ขอบคุณมากเลยนะปาร ที่วันนี้ทำสุกี้ให้ทาน อร่อยมาก ๆ เรามีความสุขมากเลย” นภาจับมือเพื่อนรักเอาไว้

‘ปารมาเป็นพี่สะใภ้เราเถอะ’ นภามองหน้าเพื่อนพลางยิ้มจนแก้มปริ ได้แต่พูดอยู่ในใจ ยังไม่กล้าพูดออกไป คนที่เหมาะสมกับพี่ชายของเธอที่สุดจะเป็นใครอื่นไม่ได้เลย นอกจากปารผู้เดียว เธอจะทำให้ทั้งคู่เป็นแฟนกันให้จงได้

“ปารต้องกลับแล้วนะ ค่ำมากแล้ว” ปารพูดพลางยกมือถือออกมากดมองดูเวลา

นภาพยักหน้ารับ แล้วพากันเดินลงไปข้างล่าง เห็นยนตร์กำลังนั่งดูทีวีอยู่ที่โซฟายาวในห้องนั่งเล่น

“พี่ยนตร์ สุกี้อร่อยไหมคะ” ปารแกล้งถามพี่รหัสพลางอมยิ้ม แม้จะรู้ดีอยู่แล้วก็ตาม อยากจะรู้ว่าคนปากแข็งจะตอบว่าอย่างไร

ยนตร์ไม่ตอบ ยังตีสีหน้าเรียบเฉย แต่รีบนั่งยืดตัวตรง กลัวว่าอีกฝ่ายจะเห็นพุงที่ยื่นออกไปเนื่องจากอิ่มมาก

“อร่อยแน่นอน กินไปตั้งสองชาม” นภาหลุดปากพูดออกไป ยนตร์หันมามองหน้าน้องสาวทันทีอย่างสงสัย

“เอ่อ...คือ...เดาว่า...เห็นพี่ยนตร์เป็นคนกินจุ กินทีไรต้องกินสองชามทุกที ใช่ไหมคะ” นภาแก้ตัวไปน้ำขุ่น ๆ ก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่อง

“พี่ยนตร์ไปส่งปารที่ป้ายรถเมล์หน่อยสิคะ ค่ำมากแล้ว” นภาเดินมานั่งลงข้างพี่ชายพลางเขย่าแขนอ้อน

“จะไปก็ไปรอขึ้นรถ” น้ำเสียงนั้นยังตึงเครียดอยู่ในที ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปสตาร์ตรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจ

ปารอมยิ้มรีบเดินตามออกไปทันที เมื่อรถมอเตอร์ไซค์ เคลื่อนที่ไปตามถนนในซอย เธอรู้สึกมีความสุขที่ได้นั่งซ้อนท้ายเขาอีกครั้ง

นึกถึงตอนเด็ก เธอจะต้องกอดเอวคนข้างหน้าเอาไว้ แต่ตอนนี้เธอโตเป็นสาวแล้ว จะกอดเขาแบบนั้น คงไม่ได้ ได้แต่มองแผ่นหลังกว้างของเขาไปตลอดทาง

“ขอบคุณมากนะคะ พี่ยนตร์ที่มาส่ง” ปารขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นเขาเข็นรถมอเตอร์ไซค์ขึ้นมาจอดบนทางเท้าและดับเครื่อง

“นภาบอกว่า ให้พี่รอจนกว่าปารจะขึ้นรถ” ยนตร์ตอบเสียงเรียบ อ้างน้องสาวไปอย่างนั้นเอง ที่จริงแล้วเขาไม่อยากให้เธอยืนคนเดียวตามลำพังมากกว่า

ปารอดยิ้มไม่ได้

‘เป็นห่วงเค้าก็บอกมาเถอะน่า...’ เพราะป้ายรถประจำทางแถวนี้ค่อนข้างเปลี่ยว นาน ๆ กว่าจะมีรถประจำทางผ่านมาสักคัน

ต่างคนต่างยืนเงียบได้ครู่หนึ่ง ปารจึงทำลายความเงียบขึ้นก่อน

“พี่ยนตร์...ปาร...” แต่ยังไม่ทันได้พูดจบประโยค รถประจำทางก็ดันมาเสียก่อน

“รีบไปเถอะ นาน ๆ รถจะมาสักคัน” ยนตร์ตัดบท เขาไม่อยากอยู่กับเธอนานเกินไป กลัวว่าจะใจอ่อน นี่มันเพิ่งผ่านมาได้ไม่กี่ชั่วโมงเอง ยังไม่ถึงสามวันเลย เขาจะใจอ่อนไม่ได้

“งั้น...ปารไปก่อนนะคะ” เด็กสาวยกมือขึ้นไหว้ชายหนุ่ม ก่อนจะโบกรถประจำทางให้จอดรับ เมื่อขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว เธอหันกลับไปมองพี่รหัส พลางโบกมือให้ มองเห็นเขายังยืนมองอยู่ แต่เมื่อหนุ่มแว่นเห็นเธอมองกลับมา จึงรีบหันหลังขี่รถไปอย่างรวดเร็ว

‘ใจอ่อนแล้วล่ะสิ’ ปารพูดกับตัวเองเบา ๆ

เธอนั่งยิ้มไปตลอดทาง แม้ว่าเขาจะยังทำหน้าตึงใส่ แต่ก็รู้สึกมีกำลังใจที่จะง้อเขาต่อไป ทุกครั้งที่โกรธกันเป็นเพราะเธอพูดไม่ดีกับเขานั่นเอง ทำไมถึงไม่จำก็ไม่รู้ กลุ้มกับตัวเองจริง ๆ

ความทรงจำวัยเด็กค่อย ๆ ปรากฏขึ้นในหัวสมอง ภาพเหตุการณ์ที่เธอไม่เคยลืมเลย วันนั้น...

 

เวลาโพล้เพล้ใกล้ค่ำ…

ควันไฟพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นสีเทาเข้ม สามารถมองเห็นได้แต่ไกล ลมแรงยิ่งพัดให้ไฟลุกโชติช่วงเป็นทวีคูณ เกิดเพลิงไหม้ขึ้นพร้อมกันสองจุด ราวกับนัดกันไว้

แต่ละจุดอยู่ห่างกันมาก ชาวบ้านหลายคนกำลังวุ่นวายโกลาหลกับการช่วยกันดับไฟที่ยุ้งฉางข้าว ส่งเสียงเอ็ดตะโรกันเซ็งแซ่ไปหมด

ส่วนอีกที่หนึ่งอยู่ปลายนาไกลออกไปจากแหล่งน้ำมาก ยากต่อการดับไฟ เด็ก ๆ พากันหยุดเล่นมายืนออมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใจจดใจจ่อ

และหลายคนรู้ว่า นี่ไม่ใช่อุบัติเหตุแต่เป็นการวางเพลิง!

เด็กหญิงปารวิ่งวุ่นอยู่กับการตามหาพ่อ หลังจากที่แม่เป็นลมล้มพับไป เมื่อเห็นพระเพลิงลุกไหม้ยุ้งฉางข้าวเปลือก เพื่อนบ้านต่างช่วยกันนวดเฟ้นและพัดวีให้

เธอยังมองไม่เห็นพ่อเธอเลย…

“เห็นพ่อปารมั้ย!”

“ใครเห็นพ่อปารบ้าง!”

“พ่อปารอยู่ไหน! ใครเห็นบ้าง!”

ปารวิ่งไปเขย่าแขนถามใครต่อใครที่พบเจออย่างร้อนรน แต่ไม่มีใครพบเห็นพ่อของเธอเลย และคิดได้ว่าในยามเย็นเช่นนี้ พ่อมักทำงานอยู่ที่ปลายนาเสมอ

พ่อมักขลุกอยู่กับการเพาะชำต้นไม้เอาไว้แจกชาวบ้าน การทำปุ๋ยหมัก ปุ๋ยชีวภาพ และคิดวิธีพัฒนาการเกษตรให้กลับเข้าหาธรรมชาติเป็นสำคัญ เป็นงานที่พ่อรักมาก และวิธีของพ่อก็ได้ผลดี จนอาจมีใครที่เสียผลประโยชน์ไม่พอใจ

เธอใจหายวาบ!

ปลายนา!

ไฟไหม้โรงนาที่ปลายนา!

ไม่..!

ปารรีบวิ่งไปที่ต้นเพลิงทันที!

ยนตร์เห็นเด็กหญิงวิ่งหน้าตั้งมุ่งไปยังปลายนาที่เปลวไฟกำลังลุกโชนแสงสว่างเจิดจ้า มองเห็นอยู่ไกลลิบแล้วรีบวิ่งตามไป

“ปาร!!”

เด็กหนุ่มพยายามตะโกนเรียกเธอครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เธอไม่หันมาตอบราวกับว่าไม่ได้ยิน และจิตใจจดจ่ออยู่กับการวิ่งไปยังเป้าหมายเท่านั้น เขารีบกวดฝีเท้าตามไปอย่างรวดเร็ว และรู้สึกว่าเขาไม่เคยใช้เวลามากขนาดนี้ในการจะวิ่งตามเธอให้ทันเหมือนทุกครั้ง แต่อย่างไรก็ตามด้วยความเป็นเด็กผู้ชายทั้งยังโตกว่ามาก เขาจึงวิ่งไล่เธอทันในที่สุด

“ปาร! จะไปไหน!” เขารีบคว้าแขนเด็กหญิงไว้

“ปารจะไปช่วยพ่อ! พ่อปารอยู่ในนั้น”

“ไปไม่ได้นะปาร! อันตราย!”

ลมร้อนจากเปลวไฟพัดกรูมาทางเด็กทั้งสอง เปลวไฟขนาดใหญ่ลุกแดงฉานไปทั่วบริเวณ

“ไม่! ปารจะไปช่วยพ่อ!” เด็กหญิงไม่ฟังเสียง สะบัดมือเขาแล้วรีบวิ่งต่อไปทันที

เขาคว้าตัวเด็กหญิงไว้ได้ทัน

“ปาร! ฟังพี่ก่อน!” เขาตะโกนแข่งกับเสียงลมอื้ออึง

“ไม่! ปารไม่มีเวลาฟัง ปล่อยปารนะ ปารจะไปช่วยพ่อ” เด็กหญิงดิ้นเร่า ๆ อยู่ในอ้อมแขนของเด็กหนุ่ม

“เด็กโง่! ปารตัวแค่นี้จะไปช่วยอะไรพ่อได้ ไปเป็นภาระมากกว่า คิดถึงแม่บ้างหรือเปล่า ถ้าปารเป็นอะไรไป แม่ปารจะเสียใจแค่ไหน” เขารัวพูดด้วยเสียงอันดังราวกับกลัวว่าเธอจะไม่อยู่รอฟังจนจบ

ปารร้องไห้โฮ…มองภาพไฟแดงฉานตรงหน้า โครงไม้ของโรงนามอดไหม้เต็มที่ แล้วพังครืนลงมาต่อหน้าต่อตา

“พ่อ..!” ปารกรีดร้องเสียงหลง

ยนตร์กอดเด็กหญิงไว้แน่น เขาเองก็สะเทือนใจไม่น้อยไปกว่าเธอเลย เพราะพ่อของเธอเป็นครูที่สอนเขามาตั้งแต่เล็ก คอยอบรมสั่งสอน ราวกับเป็นพ่อคนที่สองของเขา เป็นครูที่เขารัก เคารพ ศรัทธามากที่สุด

ที่สำคัญรู้ดีว่าการสูญเสียพ่อนั้นเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ขนาดไหน ยิ่งเป็นคนดี ๆ อย่างพ่อของเธอด้วยแล้ว ความสูญเสียที่เกิดขึ้นนั้นมันมากมายเหลือเกิน

“ปาร…กลับบ้านเถอะ ป่านนี้แม่ปารเป็นห่วงแย่แล้วนะ” เขาบอกเด็กหญิงที่นิ่งเงียบไปอย่างเศร้าซึม มองเห็นเธอเช็ดน้ำตาที่ไหลรินออกมาไม่ขาดสาย เขาไม่รู้จะปลอบเธออย่างไรดี เพราะเขาเองก็เสียใจมากมายเหลือเกิน น้ำตารื้นขึ้นมาคลออยู่ในดวงตา แล้วไหลกลับเข้าไปข้างใน เขาได้แต่จับมือเธอไว้เพื่อส่งผ่านความห่วงใย และกำลังใจที่จะคอยให้เธอที่มีมากกว่าคำพูด

“แล้วปารเห็นแน่หรือเปล่า ว่าพ่ออยู่ในโรงนาน่ะ”

ปารส่ายหัว

“แต่พ่อชอบทำงานอยู่ที่นั่นนี่ แล้วก็ไม่มีใครเห็นพ่อเลย”

“บางที…พ่ออาจจะหนีออกมาได้ทัน ปลอดภัยแล้วก็ได้นะ และกำลังรอปารอยู่”

เด็กหญิงหันมามอง

“จริงหรอ…พี่ยนตร์”

“จริงสิ!” เขาพยักหน้า มองเด็กหญิงตรงหน้าที่ตัวสูงแค่ต้นแขนของเขา “ปารนะ ชอบตีตนไปก่อนไข้เรื่อยเลย ดูซิ ร้องไห้จนตาบวมหมดแล้ว”

แววตาของเด็กหญิงเริ่มมีประกายแห่งความหวังขึ้นมา

“ไป! รีบกลับบ้านกันเถอะ” เขาจับมือเธอพาวิ่งไปตลอดทาง

ควันไฟจาง ๆ ลอยตัวอ้อยอิ่งอย่างเชื่องช้า ขึ้นสู่ด้านบน กลิ่นไหม้ยังคละคลุ้งอยู่ในอากาศตลบอบอวล ไฟดับมอดลงเรียบร้อยแล้วด้วยน้ำใจของเพื่อนบ้าน ทุกคนกำลังตามหาตัวปารกันจ้าละหวั่น

“ปาร! หายไปไหนมา แม่เป็นห่วงมากรู้ไหม!” แม่เป็นคนแรกที่ปราดเข้ามาถามทันทีด้วยน้ำเสียงกึ่งดุกึ่งเป็นห่วง

“พ่อล่ะจ๊ะแม่ ปารหาพ่อไม่เจอ ปารไปตามหาพ่อมาจ้ะ” เด็กหญิงกวาดสายตามองหาพ่ออย่างมีความหวัง ค่อย ๆ ไล่มองคนที่ล้อมรอบตัวเธออย่างห่วงใยไปทีละคน ทีละคนจนหมดถึงคนสุดท้าย

แต่…ไม่พบพ่อของเธอเลย...

น้ำตาพาลจะไหลออกมาอีกแล้ว

“พ่ออยู่นี่ปาร” ชายหนุ่มวัยสี่สิบสามปีแทรกผู้คนเข้ามาหาเธอ ที่แขนมีผ้าพันแผลพันอยู่

เด็กหญิงยิ้มทั้งน้ำตา แล้วโผเข้ากอดบิดาไว้แน่น

“ไปเกเรที่ไหนมาล่ะปาร ใคร ๆ เขาเป็นห่วงลูกมากนะ” บิดากล่าวตำหนิด้วยน้ำเสียงห่วงใย

“ปารนึกว่าพ่ออยู่ที่ปลายนา ปารจะไปช่วยพ่อ”

“เด็กโง่! ปารตัวแค่นี้จะช่วยอะไรพ่อได้ จะทำให้พ่อเป็นภาระ แล้วก็เป็นห่วงน่ะสิ”

“พ่ออะ! ทำไมต้องพูดเหมือนพี่ยนตร์ด้วยล่ะคะ” เด็กหญิงทำหน้ายู่ยี่ ก่อนจะหันไปค้อนเด็กหนุ่ม ยนตร์ได้แต่ทำหน้ายิ้ม ๆ อยู่ในที

“ขอบใจมากนะยนตร์ ที่ช่วยดูแลน้อง”

“ผมยินดีมากครับครู และดีใจมากครับที่ครู…ปลอดภัย…” น้ำใสๆ มันรื้นขึ้นมาคลออยู่ในดวงตาที่เปี่ยมล้นด้วยความดีใจเป็นที่สุด หลังจากที่พ่อของเขาถูกยิงตายในหน้าที่ เขาก็มีแต่ครูที่คอยสอน คอยชี้แนะ คอยเป็นกำลังใจให้ และที่สำคัญเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเขาเสมอมา

ครูเข้าไปสวมกอดลูกศิษย์เอาไว้

“เธอเป็นเด็กดี… ครูรู้…ขอบใจเธอมาก ครูฝากดูแลปารด้วยนะ”

ยนตร์รู้สึกอบอุ่นใจทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้ และซึมซับรับรู้สิ่งดี ๆ ผ่านจากการกระทำของครูที่มีมากมายกว่าคำพูด

ปารสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ เพื่อให้น้ำในดวงตาเหือดแห้งไป หลังจากที่นั่งนึกถึงเรื่องราวเก่า ๆ ในอดีต และนี่อาจเป็นคำตอบของคำถามที่ว่าทำไมเธอต้องคอยง้อ “พี่ยนตร์” ตลอดมาทุกครั้งที่ทะเลาะกัน เพราะเขาเป็นคนดีและคอยดูแลเธอเสมอ ราวกับเป็นฮีโร่คนที่สองรองจากพ่อ

“ครูฝากดูแลปารด้วยนะ” เธอเพิ่งรู้สึกเอะใจกับคำพูดประโยคนี้ของพ่อ เมื่อมาคิดทบทวนอีกครั้งเหมือนว่าพ่อจะรู้ตัวอยู่แล้วว่าจะอยู่ได้อีกไม่นาน เพราะหลังจากนั้นพ่อของเธอก็เสียชีวิตด้วยโรควัณโรค เธอไม่อยากจะเชื่อว่าพ่อจากไปด้วยโรคนี้ เพราะพ่อของเธอไม่เคยกินเหล้า สูบบุหรี่ หรือเที่ยวเล่นอบายมุขทั้งหลายเลย ตั้งแต่เธอลืมตาขึ้นมาดูโลก หรือจำความได้ พ่อเป็นพ่อที่ดี เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง พ่อคือความภาคภูมิใจของครอบครัวเสมอ

 

เธอลุกขึ้นจากที่นั่งเบาะเดี่ยวบนรถประจำทางเมื่อใกล้ถึงบ้าน

‘พรุ่งนี้ พี่ยนตร์ต้องหายโกรธแน่ ระดับนี้แล้ว’ เธอให้กำลังใจตนเอง และคิดแผนง้อเขาไว้มากมาย

ปารเดินเตร่ไปเตร่มาบริเวณใต้ร่มไม้ ที่มักเห็นกลุ่มรุ่นพี่รหัสมานั่งสังสรรค์สรวลเสเฮฮากันประจำ เด็กสาวคอยมองหาหนุ่มตัวสูง สวมแว่นสีชาที่กำลังเป็นโรคอกหักกำเริบ ใบหน้านั้นเครียดขึ้นมาทันที รู้สึกลำบากใจ หากจะต้องเดินฝ่าวงล้อมของบรรดาหนุ่ม ๆ รุ่นพี่เพื่อไปถามหาพี่รหัสขี้งอนคนนั้น เธอเป็นผู้หญิงจะให้ไปเที่ยวถามหาผู้ชายได้อย่างไร ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นพี่รหัสของเธอก็ตาม รู้สึกกลุ้มใจจนต้องถอนหายใจแล้วถอนหายใจอีก พยายามเดินมองหารุ่นพี่ผู้หญิงที่พอจะเข้าไปถามข่าวพี่รหัสของเธอได้

“มาหาใครจ๊ะ” รุ่นพี่ส่งเสียงหยอกล้อเมื่อเห็นสาวน้อยมายืน ด้อม ๆ มอง ๆ เหมือนมาหาใครสักคนอยู่นานแล้ว

“พี่ยนตร์อยู่ไหมคะ”

แสงชัยนั่งอยู่ที่โต๊ะม้าหินหันมามองเธอทันทีเมื่อได้ยินชื่อนั้น พลางขยับตัวลุกขึ้น

“มาหายนตร์นี่เอง อย่าบอกนะว่ายนตร์เลี้ยงต้อย” อีกฝ่ายหัวเราะชอบใจ เพื่อนในกลุ่มต่างหัวเราะรับกันอย่างสนุกสนาน แล้วเดินมาล้อมเด็กสาวเอาไว้

ปารเดินถอยหลังช้า ๆ มองรุ่นพี่ที่ดาหน้าเดินเข้ามาใกล้ มือบีบถุงกระดาษสีน้ำตาลในมือแน่น

“ปะ เป็น...น้องรหัสพี่ยนตร์ค่ะ”

รุ่นพี่อีกคนทำตาโต

“ว้าว! ยนตร์ได้น้องรหัสน่าตาน่ารักว่ะ!”

“ตกลงพี่ยนตร์อยู่หรือเปล่าคะ” ปารถามด้วยเสียงหนักแน่น รู้สึกว่าพวกรุ่นพี่ช่างยียวนกวนประสาทเสียจริง จะบอกเธอตรง ๆ ก็ไม่บอกโยกโย้อยู่ได้

“ไม่อยู่หรอก...มีอะไรฝากพี่ไว้ก็ได้น้า...” แสงชัยเดินแทรกกลุ่มเพื่อนมายืนข้างหน้าเด็กสาว มาหาใครไม่มาหา ดันมายนตร์ มีหรือคนอย่างเขาจะบอกดี ๆ มันได้เวลาแก้เผ็ดคนที่เขาไม่ชอบขี้หน้าแล้ว

“เลิกแกล้งน้องเขาได้แล้ว” เสียงเข้มดังขึ้นด้านหลังของปาร ก่อนจะรีบเดินมาเผชิญหน้ากับแสงชัย

 

**************** 

 

คิดว่าใครจะเป็นคนมาช่วยคะ ^^

 

มี ebook แล้วนะคะ ลิงก์นิยายอยู่ในคอมเม้นท์ค่ะ
 

เนื้อหาโดย: risait445
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
risait445's profile


โพสท์โดย: risait445
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เปิดวาร์ปตำรวจหญิง สวยจนชาวเน็ตยอมให้จับโลมาพันธุ์หายากมาก ที่คาดว่าน่าจะมีเหลืออยู่เพียง 10 ตัวบนโลก"ขวัญ อุษามณี" เผยลุคใหม่..ดูหน้าเด็กสดใส สวยฉ่ำยิ่งกว่าเดิม“น้องปุณณ์” ลูกชายคนโตของคุณนุสบา เปิดตัวแฟนสาวแล้วอย่างเป็นทางการ น่ารักน่าเอ็นดูทั้งคู่ค่ะทนายพัฒน์ โพสต์ เมียหลวงไม่สนเอาเงินใครมาจ่าย เพราะ คำขอโทษเป็นเงินสดเท่านั้นJust4Pets AutoWash นวัตกรรมล้างสัตว์เลี้ยงอัตโนมัติที่มาพร้อมคำถามด้านความปลอดภัยจังหวัดเพียงหนึ่งเดียวในไทย ที่มีจำนวนอำเภอมากถึง 32 อำเภอประวัติศาสตร์ “เสียดินแดน” อาจไม่ใช่อย่างที่เราเคยเชื่อกันมานักกระโดดร่มดังระดับโลก "เฟลิกซ์ บอมการ์ทเนอร์" เสียชีวิตแล้ว“อุ้ม สิริยากร” ใช้ชีวิตเรียบง่ายในอเมริกา ลูกชายช่วยขุดมันฝรั่งได้เยอะเป็นพิเศษปีนี้อาจารย์ปานเทพแนะ ไม่ต้องฟังคำสั่งรัฐบาล กรณีสร้างรั้วรอบปาสาทตาเมือนธม แม่ทัพภาคที่ 2 ควรประกาศกฎอัยการศึก แล้วมีอำนาจเต็มสร้างรั้วได้เลยมาแล้ว! เลขเด็ด "เสือตกถังพลังเงินดี" งวดวันที่ 1 สิงหาคม 68..รีบส่องด่วน!!
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
นักเทควันโดไทยคนแรก ที่ได้เหรียญจากการแข่งกีฬาโอลิมปิก"คางยาวที่สุดในโลก" จากปมด้อยสู่ยูทูบเบอร์ดาวเด่น Jonouchich1
หวานใจพี่รหัส ตอนที่ 3 ฝันไปเถอะหวานใจพี่รหัส ตอนที่ 8 อยากรู้แหละ ดูออกหวานใจพี่รหัส ตอนที่ 7 คิดว่าจะหลบหน้ากันพ้นเหรอ?หวานใจพี่รหัส ตอนที่ 5 คิดว่าพี่ง่ายเหรอ?
ตั้งกระทู้ใหม่