30 วินาทีสุดท้ายก่อนตาย..เกิดอะไรขึ้น!
30 วินาทีสุดท้ายก่อนตาย..เกิดอะไรขึ้น! หลายคนอาจคิดว่าความตายเป็นเรื่องที่น่ากลัวและทรมานมาก แต่หากเรามองในมุมของวิทยาศาสตร์แล้วกลับมองว่า ความตายนั้นมันไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเลย
เพราะคนเราเวลาใกล้ตายนั้น อาจไม่ได้มีความสามารถมากพอที่จะมานั่งทบทวนคิดว่าความตายน่ากลัวด้วยซ้ำไป เมื่อเข้าสู่สภาวะใกล้ตาย อวัยวะภายในที่สำคัญ เช่น สมองก็จะลดการทำงานในส่วนที่ไม่สำคัญลง จนเราแทบจะไม่มีความรู้สึกใดๆ เลย เหมือนอยู่ในภาวะกำลังนอนและหลับฝันไป เหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะสมองมันจะถูกใช้ในการทำงานที่สำคัญที่สุดของร่างกายแทน เช่น คอยควบคุม และรักษาการเต้นของหัวใจ การหายใจ เพื่อให้ร่างกายมีชีวิตรอด และส่วนที่ไม่สำคัญ สมองก็จะลดการสั่งการหรือการรับรู้ไปเลยทันที
ดังนั้น เมื่อใกล้ถึงวาระสุดท้ายของชีวิต บรรดาประสาทสัมผัสต่างๆ และความสามารถในการรับรู้ก็ลดหายไปด้วย โดยเริ่มจากการพูดและการมองเห็น ตามมาด้วยการสัมผัสและการได้ยินตามลำดับ และเมื่อร่างกายส่วนต่างๆ และสมองค่อย ๆ หยุดทำงาน เราก็จะเริ่มเข้าสู่ภาวะที่สงบ เรียกได้ว่าเป็นช่วงนาทีสุดท้ายของก่อนตายจริง ๆ มันไม่ได้ทรมานหรือน่ากลัวเหมือนที่พวกเราคิดกันเลย
ทั้งนี้ มีหลายคนเคยเห็นคนใกล้ตายมาก่อน มักพบว่ามีอาการหายใจติดขัด ฟืดฟาด ดูทรมาน แม้จะฟังดูน่ากลัวก็ตาม แต่ในความเป็นจริงแล้ว เจ้าตัวอาจจะไม่รู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำ ความรู้สึกหลังความตายไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด มันเหมือนการนอนหลับไปเฉย ๆ โดยที่ไม่มีการฝัน ไม่รู้ว่าหลับไปนานเพียงใด แค่หลับไปเฉย ๆ เท่านั้นเอง
อย่างไรก็ดี ส่วนเรื่องที่มีคนเล่าว่า เมื่อเราใกล้ตายจะเห็นแสงวูบวาบ หรือเห็นคนที่ได้เสียชีวิตไปแล้วนั้น ในทางวิทยาศาสตร์พออธิบายได้ว่า เมื่อเราเข้าใกล้ความตายมากเแค่ไหนก็ตาม สมองของเราก็ยังคงทำงานอยู่บ้าง แต่อาจจะไม่เต็มที่ และด้วยจิตใต้สำนึกเก่าๆ เกี่ยวเรื่องความตาย และความเชื่อต่าง ๆ ที่สะสมมาตั้งแต่เด็กจนโต ก็อาจจะเกิดการรับรู้เรื่องราวเหล่านั้นเหมือนกำลังฝันไปนั่นเอง















