Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageแชร์ลิ้ง
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ตรอกรักปั๋นใจ ตอนที่ 10

โพสท์โดย Takflim ตากฟิล์ม

ตอนที่ 10

ฤดูร้อนของเมืองระแหง มีชื่อเสียงเรืองนามขึ้นชื่อถึงเรื่องความร้อน ที่มีอุณหภูมิสูงเป็น
อันดับหนึ่งของประเทศไทย อากาศที่ร้อนระอุและอบอ้าวของเมืองระแหง ผ่านพ้นไปด้วยความแห้งแล้ง
โดยสังเกตได้จากแม่น้ำปิงแห้งขอด จนสามารถมองเห็นสันทรายขาวนวลยาวสุดลูกหูลูกตาที่โผล่
ขึ้นมาหลายจุดอยู่กลางแม่น้ำปิง จนย่างเข้าฤดูฝน (เดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม) ชาวไร่ ชาวนา
และคนล่องแพต่างรอคอยน้ำฝนที่จะโปรยปรายตกลงมาจากฟากฟ้าอย่างใจจดใจจ่อ ชาวไร่จะใช้
น้ำฝนเพื่อการเพาะปลูกพืชผลทางการเกษตร ชาวนาจะใช้น้ำฝนเพื่อการปลูกข้าว ส่วนคนล่องแพ
จะคอยปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มมากขึ้น จนอยู่ในระดับสูงพอที่จะล่องแพได้ คนล่องแพก็จะเริ่มปล่อย
แพล่องไปตามแม่น้ำปิงทันที
หลังจากวันสงกรานต์ (วันขึ้นปีใหม่ไทย) ผ่านไปได้เกือบเดือน วันเวลาผ่านไปพร้อมกับ
การหายตัวของนกยูง นกยูงไม่ได้เยื้องย่างกายไปที่ตลาดสดชุมชุนตรอกบ้านจีน จนผู้คนทั่วไปต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา แต่พอจับประเด็นข่าวลือได้ว่า นกยูงโดนเพื่อนรักคิดคดทรยศแย่งแฟน
จึงไม่ได้แต่งงานเป็นแม่เลี้ยงตามคำป่าวประกาศเอาไว้ ความโกรธแค้นและเกลียดชังที่ฝังลึกอยู่ในจิตใจ
ทำให้เจ้าหล่อนผูกใจเจ็บ เกิดแรงแค้นและอาฆาตพยาบาทต่อเพื่อนทุกคน และยังรวมไปถึงนายหมงด้วย วันหนึ่งหลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จ เห็นนายช่วงผู้เป็นพี่ชายนอนเล่นอยู่ใต้ถุนบ้าน โดยในช่วงนี้
นายช่วงยังไม่ต้องไปที่ปางไม้ เพราะต้องรอให้น้ำหลากถึงจะไปล่องแพได้
“พี่ช่วง….พี่ช่วงตื่น ฉันมีเรื่องอยากจะปรึกษาหน่อย” นกยูงร้องเรียกพี่ชายเสียงดัง
“อะไรของเอ็งวะนังนกยูง คนจะหลับจะนอน” น้ำเสียงของนายช่วงบ่งบอกถึงความรำคาญ
“ก็เพราะมัวแต่ขี้เกียจสันหลังยาว เอาแต่หลับเอาแต่นอนเป็นวัวเป็นควายอยู่แบบเนี่ย มันถึงได้จนๆๆๆ แถมยังโง่ยิ่งกว่าวัวยิ่งกว่าควายอีกต่างหาก”
“บ๊ะ! อีนี่ เอ็งเป็นน้องข้าหรือเป็นแม่ข้ากันแน่วะ ถึงได้มาแหกปากด่าข้าฉอดๆ แบบนี้ ประเดี๋ยวข้าก็เตะให้คว่ำเสียเลยนี่” นายช่วงก่นด่าด้วยอารมณ์โมโห
“เออ…เออ ฉันขอโทษ คนกำลังเครียดๆ อยู่ พี่เห็นใจฉันเถอะ” ว่าพลางยกมือไหว้พี่ชายขอโทษขอโพย
เป็นการใหญ่ด้วยสีหน้าบูดบึ้ง นายช่วงขมวดคิ้วอย่างสงสัยจึงถามว่า
“เอ็งมีเรื่องอะไรต้องให้เครียดมากมายด้วยวะ ข้าเห็นเอ็งวันๆ เอาแต่แฮ่นไปแฮ่นมา แถมวิ่งไล่จับ
ผู้ชายไม่เลือกหน้า” นายช่วงรีบต่อว่าน้องสาวไปบ้างเมื่อได้โอกาส นกยูงโกรธจนหน้างอเป็นจวัก
พลางค้อนให้วงใหญ่ก่อนว่า
“ปากหมาจริง….จริ๊ง….ไอ้พี่บ้า”
“เออ…ข้าขอโทษ แหม….เดี๋ยวนี้ดุด่าว่ากล่าวอะไรไม่ได้เลยนะมึง แล้วเอ็งมีเรื่องอะไรจะปรึกษาข้าวะ”
ว่าพลางหัวเราะชอบใจลงคอ นกยูงหันรีหันขวางแล้วพูดเหมือนกระซิบให้รู้กันเพียงแค่สองคนว่า
“ฉันมีแผนอยากให้พี่ช่วย”
“แผนอะไรของเอ็งวะ” นายช่วงขมวดคิ้วถามอย่างสงสัย
“ฉันอยากให้พี่ไปฉุดนังสายบัวทำเมีย”
“หา!....เอ็งจะบ้าเหรอนังนกยูง ติดคุกติดตะรางเลยนะมึง” นายช่วงอุทานตกใจเสียงดัง
“เอาเถอะหน่า ช่วยฉันหน่อย คิดเสียว่าอย่างน้อยแก้แค้นให้กับเตี่ยของเรา”
“แก้แค้นยังไงวะ ข้าไม่เข้าใจ” นายช่วงเกาหัวแสดงอาการงงๆ นกยูงทำตาดุใส่ก่อนว่า
“โง่อีกแหละ โง่ไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ พี่ลืมไปแล้วเหรอว่า ธุรกิจการทำไม้และโรงเลื่อยไม้ทั้งหมดเป็นของเตี่ยเรา เพราะฉะนั้นพวกเราจะต้องเอากลับคืนมาให้จงได้”
“แล้วมันมาเกี่ยวอะไรกับการฉุดนังสายบัววะ”
“อ้าว ไอ้พี่โง่ เราจะต้องกำจัดคนรักของพี่หมงไปให้หมด แล้วฉันจะได้เข้าไปเสียบแทนไง”
“แต่ข่าวว่าท่านพ่อเลี้ยงหมงจะแต่งงานกับน้องกิมลั้งนี่”
“ใช่ แต่นังกิมลั้งมันเป็นเพื่อนซี้ฉัน ฉันจัดการกับมันได้ ขอแค่ให้ฉันได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่ง
ในครอบครัวของพี่หมงเสียก่อน แล้วหลังจากนั้นฉันจะจัดการเอง”
“เอ็งมั่นใจอย่างนั้นเชียวรึ” นายช่วงกล่าวขอความมั่นใจจากน้องสาว
“ถ้าพี่ช่วยฉัน ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะได้เป็นไปตามแผนที่ฉันวางเอาไว้” นกยูงลอยหน้าลอยตา
พูดด้วยความเชื่อมั่นในแผนการของตนเอง
“ข้าทำแล้วจะได้อะไรวะ” นายช่วงร้องถามเรื่องผลประโยชน์ทันที
“ยังจะโง่อีก พี่นี่โง่ซ้ำโง่ซากเสียจริงๆ พี่ก็จะได้เป็นเจ้าของธุรกิจการทำไม้และโรงเลื่อยไม้ทั้งหมด
ที่เป็นของเตี่ยเราไง แต่ที่แน่ๆ พี่จะได้นังสายบัวเป็นเมียด้วย” นายช่วงพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
ในแผนการของผู้เป็นน้องสาว และสมหวังที่จะได้เป็นเจ้าของธุรกิจการทำไม้และโรงเลื่อยไม้
ทั้งหมดตามความฝันที่นกยูงวาดฝันไว้
วันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม พุทธศักราช 2454 แรม 1 ค่ำ เดือน 6 ปีกุน เป็นวันพืชมงคล
มีพิธีกรรมที่ทำขึ้นเพื่อเป็นการประเดิมการทำนาเรียกว่า “แรกนาขวัญ” ซึ่งกระทำโดยสำนักพระราชวัง
จะประกอบด้วยพิธีสองอย่างตามลำดับคือ
1. พระราชพิธีพืชมงคล เริ่มขึ้นครั้งแรกในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฎ
เป็นพิธีทางพุทธศาสนา โดยมีพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ทำขวัญเมล็ดพืชพันธุ์ต่างๆ ให้ปราศจาก
โรคภัยและอุดมสมบูรณ์เจริญงอกงามดี เช่น ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเหนียว ข้าวฟ่าง ข้าวโพด ถั่ว งา
เผือก มัน ฯลฯ อีกทั้งเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจแก่เกษตรกรของชาติด้วย
2. พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เป็นพิธีทางศาสนาพราหมณ์ มีมาแต่โบราณ
แล้วกระทำสืบเนื่องติดต่อกันมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึงปัจจุบัน โดยพิธีเริ่มต้นด้วยการไถนาเพื่อหว่านเมล็ดข้าว ซึ่งเป็นสัญญาณว่าบัดนี้เป็นฤดูกาลแห่งการทำนาและเพาะปลูกได้เริ่มขึ้นแล้ว
จนกระทั่งถึงปีพุทธศักราช 2479 ได้เว้นช่วงไป 10 ปี เพราะสถานการณ์โลกและบ้านเมืองอยู่ในภาวะ
ที่ไม่สมควรจัดงานใดๆ ต่อมาทางราชการพิจารณาแล้วเห็นว่า ประเทศไทยเป็นประเทศกสิกรรม
เห็นควรฟื้นฟูประเพณีเก่าแก่อันเป็นมงคลแก่การเพาะปลูก ดังนั้นในปีพุทธศักราช 2490 จึงกำหนด
ให้มีเฉพาะพระราชพิธีพืชมงคลเท่านั้น เมื่อผ่านมาได้ 23 ปี จนมาถึงปีพุทธศักราช 2503 จึงกำหนด
ให้มีพระราชพิธีพืชมงคลร่วมกับพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจน
ถึงปัจจุบัน เมื่อวันพืชมงคลผ่านไปได้สามวัน จึงเกิดฝนตกลงมาห่าใหญ่ น้ำฝนที่โปรยปรายตกลงมาอย่างหนักเมื่อคืน ช่วยให้ผ่อนคลายความร้อนลงไปได้บ้าง ชาวไร่ ชาวนา และคนล่องแพต่างดีใจกันยกใหญ่
ชาวไร่จะได้เพาะปลูกพืชผลทางการเกษตร ชาวนาจะได้ทำนาปลูกข้าว และคนล่องแพจะได้เตรียมล่องแพ
เมื่อมีน้ำหลากมากขึ้น เช้าวันนี้ที่ตลาดสดชุมชนตรอกบ้านจีนเสียงอึ่งอ่างร้องระงมดังไปทั่วตลาดสด
สายบัวกับซ่อนกลิ่นช่วยกันออกไปจับอึ่งอ่างมาตั้งแต่เช้ามืดหลังจากฝนหยุดตก เมื่อล้างทำความสะอาด
แล้วนำมาวางขายที่ตลาดสดพร้อมกับผักสดต่างๆ อาทิ ยอดตำลึง ยอดชะอม ผักปลังหรือผักปั๋ง
ผักบุ้งนา และผักกระเฉด ฯลฯ ทุกครั้งเมื่อถึงฤดูฝน อาหารป่าที่เป็นทั้งพืชและสัตว์จะถูกนำมาวางขาย
ทำให้ตลาดสดคึกคักเต็มไปด้วยผู้คนที่ต่างเดินกันขวักไขว่ไปมา เพื่อจับจ่ายซื้อหาอาหารป่าที่สามารถ
หากินได้เฉพาะฤดูกาลนี้ โดยส่วนใหญ่อึ่งอ่างจะนำมาทำเป็นอาหารจำพวกแกงป่า แกงแค และปิ้งหรือย่าง ซึ่งถือว่าเป็นอาหารป่าชั้นยอดของเมืองระแหงเลยทีเดียว ซ่อนกลิ่นส่งเสียงร้องแข่งกับเสียงร้องดังระงมของอึ่งอ่างที่ถูกขังอยู่ในกะละมังสังกะสี
“อึ่งอ่างจ้า….อึ่งอ่างมาแล้วจ้า….วันนี้มีทั้งอึ่งอ่างสดตัวเป็นๆ แล้วก็ยังมีอึ่งอ่างย่างด้วยจ้า”
“ผักจ้า….ผักสดๆ มาแล้วจ้า” สายบัวส่งเสียงร้องขายผักสดบ้าง เช้านี้ทั้งสองมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
หลังจากที่ได้พูดคุยปรับความเข้าใจกันระหว่างนายหมงและกิมลั้งเพื่อนรัก กับเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในวันสงกรานต์ที่ผ่านมา จนกระทั่งเกือบเที่ยงตลาดสดเริ่มจะวาย นกยูงวิ่งกระหืบกระหอบส่งเสียง
ร้องเรียกมาแต่ไกล
“สายบัว….สายบัวจ๋า” คนถูกเรียกสบตากับซ่อนกลิ่นเพื่อนรัก ด้วยแววตาสงสัยว่าทำไมวันนี้นกยูงมาแปลกกว่าทุกครั้ง จนซ่อนกลิ่นต้องถามด้วยความแปลกใจว่า
“มีอะไรรึแก ทำไมถึงต้องแหกปากร้องเรียกเสียงดังมาแต่ไกลเชียว”
“ฉันมีเรื่องจะมาบอกสายบัว”
“เรื่องอะไรหรือจ๊ะนกยูง” สายบัวตั้งคำถาม พร้อมคิ้วเรียวงามขมวดมุ่น
“พี่หมงจ้ะ….พี่หมงเป็นไข้ป่าเจ็บหนักอยู่ที่ปางไม้ โชคดีที่พี่ช่วงลงจากดอยมาบอกข่าวเมื่อคืน”
“โถ!....พี่หมง” สายบัวเอามือทาบอก พลางอุทานด้วยความตกใจ นกยูงเห็นอาการกระวนกระวายใจจนสังเกตได้ จึงรีบกล่าวเสริมต่อว่า
“เห็นพี่ช่วงบอกว่า พี่หมงร้องเรียกหาแต่เธอนะสายบัว” คำกล่าวของนกยูง ทำให้จิตใจของสายบัว
ร้อนรนเพิ่มความห่วงใยในตัวนายหมงมากขึ้นกว่าเดิม จนแสดงความรู้สึกห่วงใยออกมาอย่าง
ควบคุมอาการไว้ไม่อยู่ ดวงหน้าซีดเผือกเปียกชุ่มไปด้วยเม็ดเหงื่อที่แตกพลั่ก แต่มือเท้าเย็นเฉียบ
มีอาการคล้ายจะเป็นลม จนซ่อนกลิ่นต้องรีบเข้าไปประคองตัวให้นั่งก่อนที่อาจจะล้มทั้งยืนได้
แล้วใช้ใบตองตึงพัดให้ลมเย็นมาสัมผัสผิวกายที่ยังเปียกชุ่ม เพื่อร่างกายจะได้ฟื้นกลับคืนมาเป็นปกติ
เมื่ออาการดีขึ้นจึงเอ่ยกับนกยูงด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า
“ฉันอยากไปหาพี่หมงจังเลยนกยูง”
“ปางไม้อยู่บนเขาบนดอยกลางป่าลึก มันอันตรายมากเลยนะสายบัว” ซ่อนกลิ่นคัดค้านเสียงแข็ง
“เสือก” นกยูงพึมพำเบาๆ ในลำคอ เหมือนเกรงเสียงบ่นของตนเองจะไปรบกวนโสตสัมผัสคนใกล้เคียง
ยกเว้นซ่อนกลิ่นที่ได้ยินแต่ไม่ถนัดหูนัก จึงร้องถามไปว่า
“แกว่าอะไรนะนกยูง”
“อ๋อ….เปล่าๆ ไม่มีอะไรหรอกแก แค่ฉันกำลังคิดว่า ถ้าสายบัวอยากจะไปหาพี่หมงที่ปางไม้ ฉันว่าเดี๋ยวให้
พี่ช่วงพี่ชายของฉันไปส่งที่ปางไม้ก็ได้” นกยูงรีบอาสาเสนอตัวพี่ชายให้เป็นคนไปส่งที่ปางไม้
โดยคิดไว้ในใจแล้วว่า จุดประสงค์หลักเพียงเพื่อต้องการให้เป็นไปตามแผนการอันชั่วร้ายที่ตนเอง
ได้ตระเตรียมวางแผนเอาไว้แล้ว ซ่อนกลิ่นมองหน้าเพื่อนรักทั้งสองสลับไปมาก่อนว่า
“สายบัว….ถ้าเธอต้องการอยากจะไปหาพี่หมงที่ปางไม้จริงๆ ละก็ ฉันจะไปเป็นเพื่อนเธอเอง”
แล้วหันไปถามนกยูงต่อว่า
“แล้วนกยูงล่ะ ไม่ไปเป็นเพื่อนด้วยกันหรอกรึ” นกยูงอึกอักนิ่งคิดอยู่เป็นนาน เพราะถ้าปฏิเสธไป
ก็จะเป็นพิรุณให้จับผิดได้ จึงตัดสินใจตอบรับว่า
“ไป….ไปสิ ฉันต้องไปเป็นเพื่อนกับพวกเธอด้วยอยู่แล้ว เพราะฉันก็เป็นห่วงพี่หมงเค้าเหมือนกัน”
นกยูงคิดเครียดแค้นอยู่ในใจ ที่ถูกซ่อนกลิ่นบังคับให้ไปที่ปางไม้ โดยสมอ้างให้ไปเป็นเพื่อนด้วยกัน
ทำให้มีความรู้สึกเหมือนโดนกลั่นแกล้งอย่างไรชอบกล แต่ถ้ามาคิดดูอีกทีก็เป็นการดีเหมือนกัน
เพราะจะได้ไม่เป็นพิรุณให้จับผิดได้ หากเกิดความผิดพลาดอะไรขึ้นมา และอีกอย่างหนึ่งคือจะได้
เห็นความสำเร็จด้วยความสะใจ งานนี้ไปๆ มาๆ เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัว เพราะได้
กำจัดทั้งสายบัวและซ่อนกลิ่นในคราวเดียวกัน แต่หารู้ไม่ว่าขณะที่คนทั้งสามสนทนากันอยู่นั้น
ป้าทองจีบ ผู้ทำหน้าที่เป็นแม่บ้านของครอบครัวนายซ้ง แซ่ปัน แอบได้เห็นได้ยินการสนทนาทั้งหมด
เพราะทุกเช้าป้าทองจีบจะเป็นผู้มาจับจ่ายซื้อข้าวของ ที่ตลาดสดชุมชนตรอกบ้านจีนเกือบทุกวัน
เพื่อจัดเตรียมหุงหาอาหาร สำหรับเลี้ยงผู้คนภายในครอบครัวของนายซ้ง แซ่ปัน แต่เมื่อได้ยิน
คำสนทนาของคนทั้งสาม ก็ยิ่งทำให้นึกแปลกใจว่า ท่านพ่อเลี้ยงหมงเป็นไข้ป่าเจ็บหนักอยู่ที่ปางไม้
ได้ยังไง เพราะเมื่อวานยังสั่งงานให้ตนเองจัดเตรียมเสบียงอาหาร เพื่อนำไปให้คนงานที่ปางไม้
พร้อมด้วยสินค้าอุปโภคบริโภค ที่จะนำไปขายตลาดสดริมแม่น้ำเมยชายแดนระหว่างไทยกับพม่า
เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
“เอาอะไรมาพูดกันนักหนาเชียว ท่านพ่อเลี้ยงหมงยังไม่ได้เดินทางไปที่ปางไม้เลยสักหน่อย
ทำไมนกยูงลูกสาวนายเปา ถึงมาพูดปดมดเท็จโกหกสายบัวลูกสาวนายโปรย กับซ่อนกลิ่นลูกสาวนายลอยให้ฟังได้ถึงขนาดนั้น สงสัยงานนี้มันต้องมีอะไร ที่ไม่ชอบมาพากลเป็นแน่แท้เชียว”
เมื่อป้าทองจีบคิดได้ดังนั้น จึงรีบกลับไปบ้านเพื่อเล่าเรื่องราวที่ได้ยินมาทั้งหมดให้นายหมงฟังทันที
พร้อมอธิบายข้อสงสัยที่อยู่ในใจให้ฟังจนหมดสิ้น เมื่อนายหมงได้ยินคำบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ
จากป้าทองจีบ จึงเกิดร้อนใจขึ้นมา เพราะเกรงว่าทั้งสายบัวและซ่อนกลิ่นอาจจะเป็นอันตรายได้
และเมื่อการกระทำไวกว่าความคิด จึงรีบตามไปที่ตลาดสดชุมชนตรอกบ้านจีนอย่างทันทีทันด่วน
แต่เมื่อไปถึงกลับไม่พบพวกเธอแต่อย่างใด
“ยายเห็นนังสายบัว กับนังซ่อนกลิ่น เดินตามนังนกยูงไปทางท่าปากคลองน้อยโน่น” ยายแตงอ่อน
แม่ค้าขายผลไม้เป็นคนบอก หลังจากถูกนายหมงซักไซ้ไล่เลียงถามด้วยความร้อนรน แถมให้เงิน
ก้อนใหญ่จำนวนหนึ่งเป็นรางวัล
ณ ท่าปากคลองน้อยทั้งสามสาวอันประกอบไปด้วย สายบัว ซ่อนกลิ่น และนกยูง นั่งเรือแจว
เพื่อข้ามฟากไปยังชุมชนบ้านปากห้วยแม่ท้อ โดยมีนายช่วงนั่งสูบยาเส้นแม่ละเมา คอยอยู่ที่ท่าน้ำ
บ้านปากห้วยแม่ท้ออย่างใจเย็น วันนี้ยังไม่ถึงบ่ายบรรยากาศเริ่มครึ้มฟ้าครึ้มฝน ท้องฟ้าสดใสเมื่อเช้า
กลับถูกบดบังไปด้วยมวลหมู่ก้อนเมฆสีเทาดำ ที่ลอยคล้อยต่ำเขยื้อนลงมาใกล้ทุกขณะ สายลมอ่อนๆ ที่พัดผ่านมาตอนเช้ากลับเพิ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น กอปรกับท้องฟ้าส่งเสียงร้องคำรามลั่นสายฟ้าแลบแปลบปลาบมาแต่ไกลอย่างไม่ขาดระยะ ทำให้ทั้งสามสาวกรีดร้องด้วยความตกใจพร้อมกัน
“ว้าย!....” ยกเว้นซ่อนกลิ่นที่มักจะอุทานขณะลืมตัว ด้วยคำสร้อยแถมท้ายทุกครั้งจนถือเป็นเรื่องปกติ
“ว้าย!.... แหก….หกคะเมนตีลังกา” ว่าเสร็จก็ก้มหน้าอมยิ้มที่มุมปากอย่างเขินอาย
“ลุงเพิ่มเร่งฝีพายเรือหน่อยสิ ชักช้าแบบนี้เมื่อไหร่จะถึง….หา!” นกยูงต่อว่าเสียงดัง ตะโกนแข่งกับ
เสียงฟ้าร้องครืนๆ ที่ยังไม่ยอมหยุด
“เอ็งก็เห็นอยู่ มืดฟ้ามัวฝนลมพัดแรงเสียขนาดนี้ เร่งมากไปเดี๋ยวเรือจะล้มได้” ลุงเพิ่มตอบด้วยเสียงสั่นแหบพร่าตามวัยที่ชราภาพ
“เอาเถอะ เร่งๆ หน่อยก็แล้วกัน พวกฉันไม่อยากเปียกฝน” นกยูงว่าพลางค้อนให้อย่างนึกหมั่นไส้
แต่ความจริงแล้วเรื่องกลัวเปียกฝนเป็นข้ออ้างเสียมากกว่า เหตุผลที่แท้จริงถ้าหากเกิดฝนตกลงมาจริงๆ
เกรงว่าจะเป็นอุปสรรคทำให้แผนการที่วางเอาไว้ไม่เป็นผลสำเร็จ สายแม่น้ำปิงที่ไหลเชี่ยวกราด
ทำให้สีหน้าสายบัวไม่ค่อยสดชื่นมากนัก ยิ่งแรงลมที่พัดกรรโชกมาอย่างดั่งพายุ ทำให้เรือแจวสั่นไหว
ไปมาเบาๆ จนนึกกลัวขึ้นมาจับใจ แต่ก็ไม่สามารถแสดงอาการออกมาให้เพื่อนรักทั้งสองเห็นได้
ความนึกคิดของสายบัวสับสนไปหมด นึกรู้สึกกลัวหากเรือแจวล่มตนเองจะทำยังไง เพราะว่ายน้ำไม่เป็น
ยิ่งเสียงฟ้าร้องคำรามครืนๆ พร้อมสายฟ้าแลบแปลบปลาบมาแต่ไกล ทำให้เพิ่มความหวาดกลัวมากขึ้น
อีกใจหนึ่งยังคิดกังวลเป็นห่วงพี่หมงใจแทบจะขาดเสียให้ได้ แต่ไม่รู้เลยว่าอันตรายที่แท้จริงคอย
อยู่เบื้องหน้า สักพักใหญ่ก่อนเรือแจวของลุงเพิ่มที่นำทั้งสามสาวแล่นเกือบมาถึงท่าน้ำบ้านปาก
ห้วยแม่ท้อ ฉับพลันได้มีเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้น เมื่อเรือแจวที่เป็นพาหนะเกิดอาการโอนเอียงส่ายไปมา ก่อนจะพลิกตะแคงแล้วคว่ำลงอย่างไม่เป็นท่า เรือแจวล่มพร้อมกับเม็ดฝนที่โปรยปรายตกลงมา และกระหน่ำเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่ลืมหูลืมตา มิหนำซ้ำยังโดนลมพายุ
พัดกรรโชกมาอย่างแรงจนมองอะไรแทบไม่เห็น
“ว้าย!....”
“ว้าย!.... แหก….หกคะเมนตีลังกา”
ทุกคนต่างร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ ตามด้วยความชุลมุนวุ่นวาย ที่ต่างกระเสือกกระสนไขว่คว้าหาที่ยึดเกาะเพื่อเอาตัวรอดไม่ให้จมน้ำ กระแสน้ำปิงที่ไหลเชี่ยวกราดทำให้สายบัวหลุดลอย
ออกไปจากตัวเรือแจว ซึ่งเธอเองอยู่ในอาการตื่นตระหนกสุดขีด แต่ก็ยังตะเกียกตะกายพยายาม
ดิ้นรนดำผุดดำว่าย เพื่อต้องการจะเอาตัวให้รอดจากการจมน้ำ ถึงแม้ว่าจะว่ายน้ำไม่เป็นก็ตาม
“ช่วยด้วย!....” สายบัวร้องเรียกขอความช่วยเหลือ พร้อมสำลักน้ำคำโตก่อนจะจมน้ำหายลงไปอีกครั้ง สักครู่ก็ทะลึ่งพรวดขึ้นมาจากน้ำอีกหน แต่คราวนี้ได้อยู่ในอ้อมแขนอันแข็งแกร่งกำยำที่โอบกอดเธอไว้ทางด้านหลัง แล้วถูกลากขึ้นมายังบนฝั่งริมแม่น้ำปิง อยู่ใต้ต้นไทรย้อยใหญ่อันร่มครึ้มที่มีขนาด
สิบคนโอบเห็นจะได้ นายหมงอุ้มร่างบอบบางที่หมดสติและเปียกโชกไปด้วยน้ำวางลงบนพื้นหญ้า แล้วจับข้อมือน้อยของเธอเพื่อคลำหาชีพจร และเมื่อสัมผัสได้จึงรู้ว่ายังเต้นอยู่ แต่ดูเหมือนว่า
จะอ่อนแรงเต็มทีเสียเหลือเกิน จึงส่งเสียงเรียกชื่อเบาๆ ข้างหูคนรักด้วยความห่วงใยว่า
“น้องสายบัว....น้องสายบัว” พลางจับใบหน้ารูปงามสั่นไปมาเบาๆ แต่เธอก็ยังนอนแน่นิ่งไม่เคลื่อนไหว
และคิดว่าหากช้าไปกว่านี้อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ เห็นทีจะต้องทำการผายปอดเพื่อช่วยชีวิตคนรักให้ฟื้นกลับคืนมาเหมือนเดิม เมื่อตัดสินใจได้จึงรีบใช้นิ้วมือบีบจมูก แล้วก้มหน้าลงประกบ
ริมฝีปากกันและกันเพื่อเป่าลมเข้าไปในปาก ซึ่งเป็นวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับคนจมน้ำ
สักพักใหญ่สายบัวเริ่มรู้สึกตัวและหายใจด้วยตนเองได้ นัยน์ตาคู่งามค่อยๆ เปิดเปลือกตาออก
แล้วสิ่งแรกที่สามารถมองเห็นก่อนคือ ใบหน้าอันหล่อเหลาคมเข้มของนายหมงลอยอยู่เบื้องหน้า
เมื่อเห็นใบหน้าชายคนรักชัดเจน สายบัวร้องเรียกชื่อด้วยความดีใจอย่างลืมตัว
“พี่หมง!” ว่าพลางผวาเข้ากอดไว้แน่นด้วยความดีใจ ผสมความตกใจที่ผ่านเหตุการณ์อันเลวร้าย
มาได้จนแทบจะเอาชีวิตไม่รอด น้ำตาไหลพรั่งพรูเหมือนทำนบกั้นน้ำแตกไม่เป็นชิ้นดี นายหมงลูบ
ศีรษะเธอเบาๆ ด้วยความเอ็นดู พร้อมก้มลงจูบที่หน้าผากเพื่อปลอบโยนให้รู้สึกอุ่นใจขึ้นแล้วว่า
“ไม่ต้องร้องจ้ะ ไม่ต้องร้อง น้องสายบัวของพี่ปลอดภัยแล้วจ้ะ” ไออุ่นที่แผ่ซ่านออกมาจากแผ่นอกกว้างของเขา ทำให้สายบัวรู้สึกอบอุ่นอิ่มเอิบใจอย่างเป็นสุข เสียงสะอื้นไห้กลับยิ่งทำให้เขากระชับกอดให้แน่นขึ้น จากนั้นทั้งสองตระกองกอดเดินเข้าไปนั่งบนเถียงนาร้าง เพื่อหลบฝนที่ยังตกกระหน่ำ
อย่างไม่ขาดสาย ละอองฝนเย็นที่สาดเข้ามากระทบผิวกาย ทำให้นายหมงโอบกอดร่างบอบบาง
ของสายบัวไว้แนบอกเบียดเสียดแนบแน่นชิดกัน เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กันและกัน แล้วจากนั้นนายหมงจึงก้มลงจูบที่หน้าผากเป็นการปลอบโยนอีกครั้ง ก่อนเอ่ยด้วยคำหวานว่า
“ยอดรักของพี่ พี่รักน้องสายบัวเสียเหลือเกิน” สายบัวเอียงอายกับคำกล่าวของชายคนรัก แล้วเอ่ย
ถามอย่างสงสัยว่า
“ก็ไหนมีคนบอกว่า พี่หมงเป็นไข้ป่าเจ็บหนักอยู่ที่ปางไม้ละจ๊ะ”
“อะไรนะ ใครว่าพี่เป็นไข้ป่าเจ็บหนักอยู่ที่ปางไม้” นายหมงทวนคำถามด้วยความฉงนสงสัย
“พี่ช่วงพี่ชายของนกยูง เค้าลงจากดอยมาบอกข่าวเมื่อคืน” สายบัวบอกเล่าตามความเป็นจริงด้วยความฉงนสงสัยเช่นกัน
“มันเอาอะไรมาพูด พี่ยังอยู่ที่บ้านและยังไม่ได้เดินทางไปปางไม้เลยสักนิด นี่พี่ถือว่าโชคยังดีนะ
ที่เมื่อเช้าป้าทองจีบแม่บ้านที่บ้านของพี่ ไปได้ยินเรื่องที่น้องนกยูงโกหกน้องสายบัวกับน้องซ่อนกลิ่น
ที่ตลาดสด พี่คิดแล้วว่ามันต้องมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลเป็นแน่ แล้วมันก็เป็นไปตามที่พี่คาดคิด
เอาไว้จริงๆ” น้ำเสียงของนายหมงขุ่นมัว พร้อมกับสีหน้าที่บ่งบอกถึงอารมณ์โมโหโกรธ
“ทำไม….ทำไมนกยูงถึงคิดร้าย หวังจะทำลายเพื่อนได้ถึงขนาดนี้” สายบัวเอ่ยปนเสียงสะอื้นไห้
ที่รู้สึกเสียใจกับพฤติกรรมของเพื่อนรัก
“ไม่ต้องสงสัยหรอกน้องสายบัว พี่ว่าเรื่องนี้พวกเรารู้ๆ กันอยู่ ต่อไปนี้พี่ขอให้น้องสายบัวอยู่ห่างๆ น้องนกยูงเป็นดีที่สุดก็แล้วกัน”
“จ้ะพี่หมง” ว่าพลางเกลือกกลิ้งใบหน้าอยู่บนแผ่นอกกว้าง ด้วยความรู้สึกอบอุ่นใจยิ่งนัก
“พี่ดีใจเสียเหลือเกินที่ตัดสินใจติดตามหาน้องสายบัวจนเจอ และสามารถช่วยน้องสายบัวได้ทัน
เวลาพอดี ถ้าไม่เช่นนั้นพี่คงเสียใจไปจนตาย หรือไม่ก็ขอตายตามน้องสายบัวไปเป็นแน่”
สายบัวได้ยินคำกล่าวของชายคนรัก คิดว่าจะตำหนิที่เอ่ยวาจาไม่เป็นมงคลเยี่ยงนี้ แต่ฉับพลันทันใดนั้น

 

“เปรี้ยง....!” เสียงฟ้าร้องคำรามดังลั่น สายฟ้าฟาดสว่างวาบทำให้แลเห็นทุกอย่างรอบตัวชัดเจน สายบัวสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ แล้วผวาเข้ากอดชายคนรักอย่างลืมตัว สายบัวเงยหน้าส่งสายตาอันหวานเยิ้มให้กับชายคนรักที่จ้องมองมาเช่นกัน แล้วจมูกที่ได้รูปของคนทั้งสองได้สัมผัสกัน
พร้อมลมหายใจอุ่นๆ รดใส่กันจนรู้สึกได้ สายบัวส่งยิ้มหวานให้ พลางว่าด้วยน้ำเสียงออดอ้อนออเซาะ
“น้องกลัวจังเลยจ้ะพี่หมง”
“น้องสายบัวไม่ต้องหวาดกลัวอะไรทั้งนั้นนะจ๊ะที่รัก พี่จะปกป้องคุ้มภัยให้น้องเองจ้ะ” นายหมงกล่าว
พร้อมประคองใบหน้ารูปงามของสายบัวเชิดขึ้น แล้วค่อยๆ บรรจงจูบไปที่ริมฝีปากเรียวงามอย่างแผ่วเบาและนุ่มนวลจนพอใจ เขาถอนริมฝีปากจากการจุมพิตแล้วไล่ลงมาจูบที่ปลายคางมน
ก่อนจะเลื่อนไปซุกไซร้ซอกคองามระหงอย่างหื่นกระหาย จนเธอรู้สึกซาบซ่าไปทั้งกายและไม่อาจควบคุมสติตนเองเอาไว้ได้ เสียงร้องครวญครางดังแผ่วออกมาจากลำคอเบาๆ อย่างเผลอตัว
พร้อมตอบสนองตามแรงปรารถนาที่ถูกปลุกเร้าอย่างคนละเมอเคลิบเคลิ้มไปกับรสสวาทจากชายคนรัก
แม้แต่สายฝนเย็นฉ่ำที่ตกลงมากระหน่ำอย่างหนักก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อแรงพิศวาสอันเร้าร้อนของ
คนทั้งสองให้มอมดับลงไปได้ นายหมงแอบกระซิบข้างหูเบาๆ ว่า
“ยอดรักของพี่ เป็นของพี่เถิดนะจ๊ะที่รัก”
“จ้ะพี่หมง” สายบัวขานรับด้วยน้ำเสียงกระเซ้าแผ่วเบา พร้อมส่งสายตาเยิ้มหวานเย้ายวนอารมณ์พิศวาส
ชวนให้หลงใหลจนเกินหักห้ามใจได้ ความสุขและความอบอุ่นในใจที่มอบให้กันและกันของคนทั้งสอง
ก่อเกิดมาจากความรักอันแสนบริสุทธิ์ผุดผ่อง แต่ก็มิใช่แค่เพียงสนองความต้องการทางอารมณ์เท่านั้น
ความรักที่แท้จริงยังรวมไปถึงความเข้าใจ ความเมตตากรุณา ความไว้เนื้อเชื่อใจ ให้อภัยกับการกระทำ
ที่ผิดพลาด ดูแลเอาใจใส่ในยามเจ็บไข้ได้ป่วย และเชื่อมั่นในความรักที่มีให้ต่อกัน ซึ่งสิ่งที่กล่าวมา
ทั้งหมดนี้เป็นพื้นฐานของการเริ่มต้น ในการครองเรือนที่ชายและหญิงมีความพึงพอใจในรสสัมผัส
ซึ่งกันและกัน และตกลงปลงใจที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน สายบัวได้จดจำและยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติ
เพื่อให้ชีวิตคู่อยู่รอดปลอดภัยต่อไปในอนาคตภายภาคหน้า

เนื้อหาโดย: Takflim ตากฟิล์ม
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Takflim ตากฟิล์ม's profile


โพสท์โดย: Takflim ตากฟิล์ม
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
มาเป็นคนแรกที่ VOTE ให้กระทู้นี้
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ใครทิ้งรอยไว้กลางจุดพีค? "นาย ณ ภัทร" มีสะดุ้งเบา ๆพบทองคำหนักเกือบ 18 กิโลกรัม ในบ่อน้ำลึกรวม เลขปฏิทินจีน งวด 16/4/68ฟีลพระเอกซีรีส์! วันเกณฑ์ทหารอบอุ่นหัวใจ พี่ทหารหล่อกร้าวใจเกิดเหตุโครงการก่อสร้างรถไฟใต้ดินพังถล่มที่ เกาหลีใต้!เลขเด็ด "เสือตกถังพลังเงินดี" งวดวันที่ 16 เมษายน 68 มาแล้ว!..รีบส่องกันเลย!!ฝรั่งย้ายมาอยู่ไทยแต่ไม่ฝันหวาน ชีวิตจริงโคตรเรียล เจ็บจริง เหงาจริง แต่ก็ยังเลือกจะยิ้มอยู่ที่นี่มาได้ไง!! หนุ่มตั้งโต๊ะขายผลไม้บนทางด่วนเข้าตักเตือนทันที คงคิดว่าทำเลดีไร้คู่เเข่งสินะ🤣รีวิวหนังดัง LOVE HURTS ด้วยรักและลูกปืนจีนสวนกลับสหรัฐฯร้านค้าเรียกเก็บค่าบริการชาว อเมริกันเพิ่มกว่าเท่าตัวโตโน่ ภาคิน โดนโยงข่าวนอกใจแฟนสาว ผจก.ชี้แจงความจริงคนละเรื่อง?? กรณี สส. อภิปรายโยง จันทรุปราคา-สุริยุปราคา , พายุสุริยะ และวงแหวนดาวเสาร์ เข้ากับการเกิดแผ่นดินไหว
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
โตโน่ ภาคิน โดนโยงข่าวนอกใจแฟนสาว ผจก.ชี้แจงความจริงมาได้ไง!! หนุ่มตั้งโต๊ะขายผลไม้บนทางด่วนเข้าตักเตือนทันที คงคิดว่าทำเลดีไร้คู่เเข่งสินะ🤣รีวิวหนังดัง LOVE HURTS ด้วยรักและลูกปืน
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เมืองตาก
นิยาย เรื่อง พิภพบิตุรงค์ตรอกรักปั๋นใจ๋ ตอนที่ 12ตรอกรักปั๋นใจ๋ ตอนที่ 11
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน Lineหาเพื่อน SkypePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageแชร์ลิ้ง
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง