ร้อนใน 6 วิธีแก้ร้อนในแบบเร่งด่วน
ร้อนใน หรือ แผลร้อนใน (Aphthous Ulcers) เป็นแผลขนาดเล็ก และตื้น ที่เกิดขึ้นบริเวณเนื้อเยื่ออ่อนในช่องปาก หรือเหงือก มีสีเหลือง หรือสีขาว ล้อมรอบด้วยสีแดง ทำให้เกิดอาการเจ็บปวด ส่งผลให้รับประทานอาหาร หรือพูดคุยได้ลำบาก แผลร้อนใน เกิดขึ้นบริเวณด้านในของริมฝีปาก กระพุ้งแก้ม หรือลิ้น
แผลร้อนใน สามารถหายได้เองภายในระยะเวลา 1–2 สัปดาห์ โดยไม่ต้องทำการรักษา หากพบว่า แผลร้อนในมีขนาดใหญ่กว่าปกติ มีความเจ็บปวดมากกว่าปกติ หรือไม่มีทีท่าว่าจะหายไป ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษา
สาเหตุของร้อนใน ปัจจัยบางอย่างอาจกระตุ้นให้เกิดร้อนในได้มากกว่าปกติ อย่างเช่น ปัจจัยทางพันธุกรรม ปัจจัยทางสภาพแวดล้อมอย่างสารก่อภูมิแพ้ หรือ อาหารบางชนิด ปัจจัยที่อาจกระตุ้นให้เกิดร้อนในได้ มีดังนี้
- การบาดเจ็บในช่องปาก
- เชื้อไวรัส หรือ เชื้อแบคทีเรียในช่องปาก
- ความเครียด และการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
- การมีประจำเดือน
- ปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน
- การแพ้อาหาร
- การขาดวิตามินและแร่ธาตุบางชนิด
- ผู้ที่มีผิวฟันแหลม หรือผู้ที่มีอุปกรณ์ทันตกรรมอยู่ในช่องปาก อย่างเช่น เหล็กดัดฟัน อาจกระตุ้นให้เกิดแผลร้อนในได้มากกว่าปกติ
6 วิธีแก้ร้อนในแบบเร่งด่วน ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
1.ดื่มน้ำเปล่าให้เยอะ ๆ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร จะช่วยแก้อาการร้อนใน ทำให้อาการป่วยหายเร็วขึ้น
2.ใช้น้ำเกลือกลั้วปาก นำเกลือมาละลายในน้ำอุ่น จากนั้นนำมากลั้วปากประมาณ 15-30 วินาที แล้วบ้วนทิ้ง น้ำเกลือจะช่วยลดการอักเสบของแผลในปาก และกำจัดเชื้อแบคทีเรีย ทำให้อาการปวดแผลร้อนในค่อย ๆ ทุเลาลง และหายเป็นปกติในที่สุด
3.น้ำผึ้งแท้ นำน้ำผึ้งมาทาบริเวณที่เป็นแผลร้อนใน ในปาก สามารถทาบ่อย ๆ ได้เลย เพราะมีคุณสมบัติในการช่วยสมานแผล ลดการอักเสบ และป้องกันการติดเชื้อ
4.หลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบมากกว่าเดิม อย่างเช่น อาหารรสจัด และของทอด ช่วงที่เป็นแผลร้อนในให้เน้นทานอาหารอ่อน ๆ เคี้ยวง่าย รสชาติไม่จัดแทน อาหารแก้ร้อนใน อย่างเช่น น้ำกระเจี๊ยบ น้ำเก๊กฮวย มะระ แตงไทย มังคุด เป็นต้น
5.กานพลู สมุนไพรพื้นบ้านที่ช่วยรักษาแผลร้อนในได้เป็นอย่างดี ให้นำน้ำมันกานพลู ทาตรงที่เป็นแผลในปาก หรือจะนำใบสดมาเคี้ยวก็ได้
6.ใช้ยาทาแก้ร้อนใน มีขายตามร้านขายยา จะเป็นยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ ทาวันละ 2-3 ครั้ง แผลจะหายเร็วขึ้น การซื้อยามาใช้เอง จะต้องปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรก่อน เพื่อการใช้ยาที่ถูกต้อง ไม่เกิดผลข้างเคียง

















