"น้ำอุ่น" ตัวช่วยลดน้ำหนัก ดื่มน้ำอุ่นวันละ 1 แก้วตอนเช้า ควบคู่การกินอาหาร และออกกำลังกายสม่ำเสมอ ช่วงเวลาดื่มน้ำอุ่นให้เกิดประโยชน์สูงสุด แนะนำโดยแพทย์ญี่ปุ่น
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ออกมายืนยันว่า "การดื่มน้ำอุ่น" ช่วยลดน้ำหนักได้จริง สามารถลดน้ำหนักได้หลายกิโลกรัมต่อเดือน มีงานวิจัยบางงาน ออกมายืนยัน โดยการดื่มน้ำอุ่นอุณหภูมิประมาณ 120 องศาฟาเรนไฮด์ สามารถช่วยช่วยกระตุ้นกระบวนการลดน้ำหนักได้
นักโภชนาการ แนะนำให้ ดื่มน้ำอุ่นวันละ 1 แก้วตอนเช้า เพื่อกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญของร่างกาย และช่วยป้องกันการเกิดอาการท้องอืด เมื่อน้ำอุ่นเข้าไปในร่างกายจะทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น จึงเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานเมื่อมีการเผาผลาญเกิดขึ้น จะส่งผลให้น้ำหนักตัวลดลงได้ แต่มีผลน้อยมาก
การจะดื่มน้ำอุ่นอย่างเดียวเพื่อหวังผลลดน้ำหนัก จึงไม่เพียงพอ ควรควบคุมอาหาร และออกกำลังกาย ควบคู่ไปด้วยหลีกเลี่ยงการรับประทานไขมันอิ่มตัว รับประทานผักและผลไม้ ควบคู่กับการออกกำลังกาย จะเห็นผลดีที่สุด
6 วิธีดื่มน้ำอุ่นในแต่ละช่วงเวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อร่างกาย แนะนำโดยแพทย์ญี่ปุ่น
นพ.มาโกะโตะ ฮาสุมุระ เขียนเกี่ยวกับประโยชน์ของน้ำอุ่น ทำให้ได้รู้ว่าการดื่มน้ำอุ่นเป็นวิธีง่าย ๆ แต่ได้ผลดีในการดูแลสุขภาพโดยรวม น้ำอุ่นสามารถช่วยเพิ่มการย่อยอาหาร ช่วยในการล้างพิษ คลายความเครียด ลดความวิตกกังวล
เริ่มต้นวันใหม่ด้วยน้ำอุ่นสักแก้ว เพื่อกระตุ้นระบบเผาผลาญและเติมน้ำให้ร่างกายหลังจากนอนหลับมาทั้งคืน การดื่มน้ำอุ่นตลอดทั้งวัน เป็นการซัพพอร์ตการย่อยอาหาร และช่วยเรื่องระบบทางเดินอาหาร
เคล็ดลับวิธีดื่มน้ำอุ่นแต่ละช่วงเวลา โดย นพ.มาโกะโตะ ฮาสุมุระ
- ตื่นนอน ดื่มน้ำอุ่น 1 แก้ว
- อาหารเช้า ควรกินให้เสร็จก่อน 8.00 น. จะทำให้การย่อยอาหารทำได้ดี การดื่มน้ำอุ่นในเวลานี้จะดีมาก
- หลังอาหารเช้า ควรเดินย่อยสัก 20 นาที จิบน้ำอุ่นไปด้วยจะเพิ่มการเผาผลาญ
- กลางวัน หลังกินข้าวเสร็จ ตั้งแต่ 14.00 น. เป็นต้นไป ควรจิบน้ำอุ่นทุกๆ 1-2 ชั่วโมง
- อาหารเย็นควรกินก่อน 20.00 น. การดื่มน้ำอุ่นช่วงอาหารเย็นจะทำให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น
- ก่อนนอน ตามทฤษฎีควรเข้านอนก่อน 22.00 น. จะส่งผลให้นอนหลับได้สนิทดีขึ้น ควรดื่มน้ำอุ่นก่อนนอนในปริมาณเล็กน้อย ไม่มากเกินไป เพื่อเลี่ยงการลุกเข้าห้องน้ำตอนกลางคืน ซึ่งจะรบกวนการนอนหลับ






















