โบท็อกริ้วรอยใต้ตา ดีจริงไหม? ใครควรฉีด และใครไม่เหมาะ?
โบท็อกริ้วรอยใต้ตา ดีจริงไหม? ใครควรฉีด และใครไม่เหมาะ?
โบท็อกริ้วรอยใต้ตา คืออะไร?
โบท็อกริ้วรอยใต้ตา หรือ การฉีดโบท็อกใต้ตา เป็นหัตถการที่ช่วยลดริ้วรอยใต้ตาและบริเวณรอบดวงตา โดยใช้สาร Botulinum toxin A ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ทำให้ผิวใต้ตาดูเรียบเนียนขึ้น ริ้วรอยตื้นลง และช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น นอกจากช่วยลดริ้วรอยใต้ตาแล้ว โบท็อกยังมีประโยชน์อีกหลายอย่าง เช่น
- โบท็อกกราม ช่วยปรับหน้าเรียว
- ลิฟกรอบหน้า ช่วยให้ใบหน้าคมชัด มีมิติมากขึ้น
- โบท็อกลดรูขุมขน ช่วยให้ผิวเรียบเนียน
โบท็อกริ้วรอยใต้ตาช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง?
- ลดเลือนริ้วรอยใต้ตา และบริเวณรอบดวงตา
- ทำให้ผิวรอบดวงตาดูสดใส อ่อนเยาว์ขึ้น
- เพิ่มความมั่นใจเวลายิ้ม หรือแสดงสีหน้า
- ช่วยป้องกันไม่ให้ริ้วรอยลึกขึ้น เมื่อฉีดอย่างสม่ำเสมอ
สาเหตุของริ้วรอยใต้ตา
ริ้วรอยใต้ตาเป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย และเป็นหนึ่งในสัญญาณที่ทำให้ใบหน้าดูมีอายุมากขึ้น โดยทั่วไป ริ้วรอยใต้ตาและรอบดวงตามักเกิดจาก ปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก ที่ส่งผลต่อความยืดหยุ่นและสุขภาพผิวบริเวณรอบดวงตา
- คอลลาเจนและอีลาสตินลดลง
เมื่ออายุเพิ่มขึ้น การผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินของร่างกายลดลง ทำให้ผิวใต้ตาเสื่อมสภาพ ขาดความยืดหยุ่น และเกิดรอยย่นได้ง่าย - อายุที่มากขึ้น
กระบวนการผลัดเซลล์ผิวและสร้างเซลล์ใหม่ทำงานช้าลง ทำให้ผิวบางลง และสูญเสียความกระชับ - การแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ
พฤติกรรมการขยับกล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตา เช่น การยิ้ม หัวเราะ หรือขมวดคิ้วบ่อย ๆ ทำให้เกิดรอยพับของผิวหนัง เมื่อทำซ้ำ ๆ เป็นเวลานานก็จะกลายเป็นริ้วรอยถาวร - พันธุกรรม
บางคนอาจมีแนวโน้มเกิดริ้วรอยใต้ตาเร็วขึ้นจากลักษณะทางพันธุกรรม
ริ้วรอยใต้ตาแบบไหนที่เหมาะกับการฉีดโบท็อก?
การฉีดโบท็อกใต้ตาเป็นหัตถการที่ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะริ้วรอยที่เกิดจากการขยับกล้ามเนื้อ แต่ไม่ใช่ทุกปัญหาริ้วรอยใต้ตาที่เหมาะกับการฉีดโบท็อก
- ริ้วรอยตื้น ๆ ใต้ตา – ริ้วรอยเล็ก ๆ ที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น การยิ้ม หรือหัวเราะบ่อย ๆ
- ริ้วรอยตีนกา – ริ้วรอยที่เกิดขึ้นบริเวณหางตา เมื่อยิ้มหรือหัวเราะ
- รอยพับใต้ตาที่เกิดจากการขยับกล้ามเนื้อ – เช่น เวลายิ้มแล้วใต้ตาเป็นเส้นริ้ว ๆ
โบท็อกริ้วรอยใต้ตา มีหลักการทำงานอย่างไร?
โบท็อกทำงานโดยการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ที่ทำให้เกิดรอยพับบนผิว เมื่อฉีดไปแล้ว กล้ามเนื้อใต้ตาจะขยับน้อยลง ส่งผลให้ริ้วรอยดูจางลง และช่วยป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยใหม่ๆ เพิ่มขึ้น
โบท็อกริ้วรอยใต้ตา ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง?
การฉีดโบท็อกใต้ตาเหมาะสำหรับการลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น การยิ้ม หัวเราะ หรือการขยับกล้ามเนื้อรอบดวงตา โดยสามารถฉีดได้ในบริเวณต่อไปนี้
- ใต้ตาที่มีริ้วรอยเล็ก ๆ
ปัญหาที่พบบ่อย: ริ้วรอยเส้นเล็ก ๆ ใต้ตาที่เกิดจากการยิ้ม หรืออายุที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผิวสูญเสียคอลลาเจนและความยืดหยุ่น
ผลลัพธ์ที่ได้: โบท็อกจะช่วยลดการขยับของกล้ามเนื้อบริเวณใต้ตา ทำให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียนขึ้น
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีริ้วรอยตื้น ๆ ใต้ตา แต่ ไม่เหมาะกับคนที่มีถุงใต้ตา เพราะอาจทำให้ดูหย่อนคล้อยมากขึ้น
- หางตาที่มีปัญหาตีนกา
ปัญหาที่พบบ่อย: เส้นริ้วรอยบริเวณหางตา ที่เห็นชัดขึ้นเมื่อยิ้ม หรือขยับกล้ามเนื้อรอบดวงตา
ผลลัพธ์ที่ได้: เมื่อฉีดโบท็อกบริเวณนี้ กล้ามเนื้อจะคลายตัว ทำให้เวลายิ้มหรือหัวเราะ เส้นริ้วรอยตีนกาจะลดลง ส่งผลให้หน้าดูเด็กลง และสดใสขึ้น
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีริ้วรอยหางตาชัดเจนจากการแสดงสีหน้า
ใครเหมาะกับการฉีดโบท็อกริ้วรอยใต้ตา?
การฉีดโบท็อกริ้วรอยใต้ตาเป็นวิธีที่ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นโดยการลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้าและการเสื่อมสภาพของผิว แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะกับการฉีดโบท็อกริ้วรอยใต้ตา ดังนั้นมาดูกันว่ากลุ่มไหนที่เหมาะสมที่สุด
- ผู้ที่มีริ้วรอยใต้ตาเล็ก ๆ จากการแสดงสีหน้า
เหมาะสำหรับคนที่มีรอยย่นใต้ตาจากการยิ้ม หัวเราะ หรือการขยับกล้ามเนื้อรอบดวงตาบ่อย ๆ โบท็อกจะช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณใต้ตาผ่อนคลาย ทำให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้น
- ผู้ที่มีรอยตีนกา หรือริ้วรอยบริเวณหางตา
หากคุณมีรอยตีนกาเมื่อยิ้มหรือแสดงสีหน้า โบท็อกสามารถช่วยลดการขยับของกล้ามเนื้อบริเวณนั้น ทำให้รอยย่นลดลง เหมาะกับคนที่เริ่มสังเกตเห็นริ้วรอยที่หางตาเมื่อแสดงสีหน้า
- ผู้ที่ต้องการป้องกันริ้วรอยก่อนเกิดร่องลึก
สำหรับคนอายุ 25 ปีขึ้นไป ที่เริ่มมีริ้วรอยบาง ๆ บริเวณใต้ตา การฉีดโบท็อกตั้งแต่ระยะเริ่มต้นสามารถช่วยป้องกันไม่ให้เกิดร่องลึกในอนาคตเรียกว่าเป็นการฉีดเพื่อ “ชะลอวัย” (Prejuvenation)
- ผู้ที่ต้องการใบหน้าดูสดใส อ่อนกว่าวัย
หากคุณรู้สึกว่าริ้วรอยใต้ตาทำให้ดูเหนื่อย ดูโทรม หรือดูแก่กว่าวัยจริง การฉีดโบท็อกริ้วรอยใต้ตาจะช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น และใบหน้าดูสดใสขึ้น
ใครที่ไม่เหมาะกับการฉีดโบท็อกริ้วรอยใต้ตา?
- ผู้ที่มีถุงใต้ตาหย่อนคล้อยมาก โบท็อกไม่ได้ช่วยลดถุงใต้ตา และอาจทำให้ดูหย่อนคล้อยมากขึ้น
- ผู้ที่มีร่องใต้ตาลึกมาก โบท็อกไม่สามารถเติมเต็มร่องใต้ตาได้ หากใต้ตาดูลึกควรใช้ฟิลเลอร์ใต้ตาหรือเลเซอร์แทน
- ผู้ที่มีอาการกล้ามเนื้อรอบดวงตาอ่อนแรง หากกล้ามเนื้อบริเวณนี้อ่อนแรงอยู่แล้ว อาจทำให้มีอาการตาปรือหรือหนังตาตกได้
- หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยงการฉีดโบท็อกทุกชนิด
ฉีดโบท็อกริ้วรอยใต้ตาปลอดภัยหรือไม่?
การฉีดโบท็อกริ้วรอยใต้ตาปลอดภัย ถ้าฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและใช้โบท็อกของแท้ที่ได้รับการรับรองจาก อย. แต่ถ้าฉีดกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือใช้โบท็อกปลอม อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น
- หน้าแข็งไม่เป็นธรรมชาติ
- ตาบวม คิ้วตก หนังตาตก
- อาการดื้อโบท็อก หรือไม่เห็นผล
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.romrawinclinic.com/botox/botox-wrinkle-under-eyes
วิธีหลีกเลี่ยงอันตรายจากโบท็อกปลอม
- เลือกคลินิกที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข
- ฉีดโดยแพทย์จริง ตรวจสอบรายชื่อแพทย์ได้ที่แพทยสภา
- ใช้โบท็อกของแท้ แกะกล่องและดึงยาให้ดูต่อหน้า
เตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกริ้วรอยใต้ตา
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- หาข้อมูลเกี่ยวกับโบท็อก และวิธีตรวจสอบของแท้
- งดยาและอาหารเสริมบางชนิดที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น แอสไพริน น้ำมันปลา
- งดดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ก่อนฉีด
ขั้นตอนการฉีดโบท็อกริ้วรอยใต้ตา
- ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหาริ้วรอยใต้ตา
- แพทย์กำหนดปริมาณยูนิตที่ต้องใช้
- ทำความสะอาดใบหน้า และกำหนดจุดฉีด
- แพทย์ฉีดโบท็อกลงในบริเวณใต้ตาและหางตา
- แนะนำการดูแลตัวเองหลังฉีด
หลังฉีดโบท็อกริ้วรอยใต้ตาต้องดูแลตัวเองอย่างไร?
- ห้ามกด นวด หรือคลึงบริเวณที่ฉีด
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ 2-3 วัน
- งดนอนราบใน 3-4 ชั่วโมงแรก
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ใช้ความร้อนสูง เช่น ซาวน่า หรือการทำเลเซอร์
ฉีดโบท็อกริ้วรอยใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน?
ระยะเวลาการออกฤทธิ์ของโบท็อกใต้ตาอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับ ยี่ห้อของโบท็อก การดูแลตัวเองหลังฉีด และการฉีดซ้ำอย่างสม่ำเสมอ
ฉีดโบท็อกริ้วรอยใต้ตา ที่ไหนดี?
- คลินิกต้องมีใบอนุญาตเปิดอย่างถูกต้อง
- ฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง
- ใช้โบท็อกของแท้ ดึงยาให้ดูต่อหน้า
- มีการติดตามผลหลังฉีด
โบท็อกริ้วรอยใต้ตา ราคาเท่าไหร่?
ราคาการฉีดโบท็อกริ้วรอยใต้ตาจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกที่ใช้ ปริมาณยูนิตที่ใช้ โดยทั่วไปอยู่ที่ 15-25 ยูนิต โปรโมชั่นของแต่ละคลินิก ราคามักเริ่มต้นที่ 3,000 บาทขึ้นไป เช่น
- Allergan (USA) คุณภาพสูง อยู่ได้นาน 5-6 เดือน
- Xeomin (Germany) ลดโอกาสดื้อยา อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
- Nabota (Korea) ออกฤทธิ์ไว ราคาคุ้มค่า



