ชาวเมียนมาในสิงค์โปร์หลายร้อยคน สละสัญชาติเมียนมาคืนบัตรประชาชน หลังได้สัญชาติสิงคโปร์ 😌
5 ก.พ. 2568 สำนักข่าว Radio Free Asia ซึ่งเป็นองค์กรนานาชาติตั้งขึ้นเพื่อต้องการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกรัฐบาลประเทศต่างๆ ในเอเชียปิดกั้นไม่ให้ประชาชนเข้าถึง รายงานว่า สถานทูตเมียนมาประจำประเทศสิงคโปร์ เปิดเผยว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมา มีชาวเมียนมาเกือบ 300 คน แสดงความจำนงขอสละสัญชาติ เพื่อไปรับสัญชาติสิงคโปร์
ชาวเมียนมารายหนึ่ง ให้ข้อมูลว่า เหตุที่ชาวเมียนมาหลายคนทำเช่นนั้นมาจากหลายปัจจัย เช่น ประสบความลำบากในการต่ออายุหนังสือเดินทางผ่านสถานทูต หรือไม่ต้องการจ่ายภาษีให้กับรัฐบาลทหาร ที่เข้ายึดอำนาจการปกครองในเมียนมาตั้งแต่เมื่อ 4 ปีก่อน
รวมถึงหนีภัยสงครามกลางเมืองในเมียนมา ซึ่งรัฐบาลทหารประกาศเรียกเกณฑ์กำลังพลเพื่อต่อสู้กับกองกำลังติดอาวุธของฝ่ายต่อต้าน ทั้งนี้ ตามประกาศของสถานทูตเมียนมา ผู้ที่สละสัญชาติจะต้องส่งบัตรประจำตัวประชาชนและหนังสือเดินทางของเมียนมาร์คืนภายในวันที่ 28 ก.พ. 2568
ซึ่งชาวเมียนมาที่ทำเรื่องขอสละสัญชาติ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพในกลุ่มผู้มีการศึกษาสูง ซึ่งตามกฎหมายของสิงคโปร์ ระบุว่า บุคคลต่างด้าวที่ต้องการขอสัญชาติสิงคโปร์ จะต้องได้รับอนุญาตให้พักอาศัยในฐานะผู้ตั้งถิ่นฐานถาวร (Permanent Resident) และต้องพักอาศัยมาแล้วอย่างน้อย 2 – 3 ปี นอกจากนั้น เเละต้องมีรายได้ต่อเดือนอย่างน้อย 75,000 บาท
ยิ่งรัฐบาลทหารเมียนมาพยายามเกณฑ์คนเข้ากองทัพ ก็ยิ่งกระตุ้นให้ชาวเมียนมาอยากเปลี่ยนสัญชาติมากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ชาวเมียนมาที่เข้ามาทำงานในสิงคโปร์ แม้จะยื่นขอเป็นผู้ตั้งถิ่นฐานถาวร แต่ไม่มีความคิดเรื่องการขอสัญชาติสิงคโปร์ แต่เมื่อสถานการณ์ที่แผ่นดินเกิดย่ำแย่ลง พวกเขาก็เลือกที่จะไม่กลับไปยังเมียนมาอีก
ชาวเมียนมากล่าวว่า หากแผ่นดินเกิดของตนเจริญและสงบสุขอย่างสิงคโปร์ ทั้งด้านความปลอดภัย เศรษฐกิจและการแพทย์ คงไม่มีใครอยากอพยพมาอยู่ต่างแดนหรอก ตามข้อมูลของกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนากำลังคนของสิงคโปร์ มีชาวเมียนมามากกว่า 200,000 คนอาศัยอยู่ในสิงคโปร์
ขณะที่ชาวเมียนมาซึ่งเคยอาศัยอยู่ต่างประเทศและกลับบ้านเกิด กล่าวว่า รู้สึกเสียดายที่ตัดสินใจกลับบ้านเกิด ซึ่งในเวลานั้นมีเหตุผลมาจากการที่เมียนมาปกครองด้วยรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง และมี อองซานซูจี (Aung San Suu Kyi) ทำให้คนที่อพยพไปอยู่ต่างประเทศ พากันกลับคืนแผ่นดินเกิด โดยหวังว่าจะสร้างอนาคตที่ดีขึ้นให้กับเมียนมาได้
แต่ความหวังทั้งหมดของพวกเขาสูญสลายไปหลังจากการรัฐประหาร และบางคนที่สละสัญชาติต่างชาติเพื่อกลับเมียนมา ตอนนี้รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งกับการตัดสินใจนั้น และเกือบทุกคนต่างพยายามหนีออกจากเมียนมา เนื่องจากสถานการณ์เลวร้ายลง
เครดิต: naewna, เฟสบุ๊กสำนักข่าว The Irrawaddy
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน
จีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
สูตรคำนวณงวด 2/1/69
สมาคมฟุตบอลเอเชียเตรียมลงโทษผู้ตัดสินชาวลาว
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
ผู้เสียหายร้องจเรตำรวจ–ป.ป.ท. สอบสวนตำรวจย่านรามคำแหง หลังสำนวนคดีลักทรัพย์บกพร่อง พยานสำคัญ 5 ปาก “หายจากแฟ้ม”
ดับ 9 เจ็บ 10 ราย หลังเกิดเหตุกราดยิงในแอฟริกาใต้
ทึ่งทั่วโลก : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่" หมู่บ้านที่สร้างอยู่ริมหน้าผา สถานที่ท่องเที่ยวแสนน่าทึ่งของประเทศจีน
เหยื่อปลอมรูปช็อกโกแลตแท่งกำลังจะวางจำหน่ายแล้ว
ทหารช่าง นาวิกโยธิน เหยียบทุ่นระเบิด PMN-2 ที่ชายแดนตราด
"3 สิ่งในห้าง" ที่ไม่ควรซื้อมากิน!!
เหยื่อปลอมรูปช็อกโกแลตแท่งกำลังจะวางจำหน่ายแล้ว
ผู้เสียหายร้องจเรตำรวจ–ป.ป.ท. สอบสวนตำรวจย่านรามคำแหง หลังสำนวนคดีลักทรัพย์บกพร่อง พยานสำคัญ 5 ปาก “หายจากแฟ้ม”
อาหารที่ลงท้าย สูตรฮ่องเต้ คืออะไรต่างจากธรรมดายังไง?
“บอย ภิษณุ" ประกาศขายบ้านหรูแล้ว ราคา 70 ล้าน
เผยสาเหตุที่ทำให้ "จิมิ" หลวม..ไม่ใช่แค่เรื่องเซ็กส์เพียงอย่างเดียว
กระถางต้นไม้จิ๋วบนโต๊ะทำงาน เรื่องเล็กๆ ที่ช่วยให้ใจเราเบาลงโดยไม่รู้ตัว
การวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบ – เกสปุตตสูตร (กาลามสูตร) กับ Critical Reasoning (เอไอ รวบรวมและเรียบเรียง)
"วัดโพธิ์เก้าต้น" วัดดัง เก่าแก่ แห่งค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี

