รู้ทันกลโกง! ดีอี เตือน 10 ข่าวปลอมสุดฮิต หลอกขายของ-โอนเงิน ระวังตกเป็นเหยื่อ!
สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคน! ช่วงนี้ข่าวปลอมระบาดหนักมาก โดยเฉพาะกลโกงออนไลน์ที่มาในรูปแบบต่างๆ ทั้งหลอกขายของ หลอกให้โอนเงิน ทำให้หลายคนตกเป็นเหยื่อสูญเสียทรัพย์สินกันไปไม่น้อย วันนี้เราเลยนำข้อมูลจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ที่ได้ออกมาเตือนภัย 10 ข่าวปลอมรอบสัปดาห์ที่ต้องรู้ เพื่อให้ทุกคนได้ระมัดระวังตัวและไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพกันครับ
ทำไมต้องรู้ทันข่าวปลอม?
ปัจจุบันมิจฉาชีพมีวิธีการหลอกลวงที่แนบเนียนมากขึ้น ใช้เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือในการเผยแพร่ข่าวปลอม ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ หากเราไม่รู้เท่าทันกลโกงเหล่านี้ ก็อาจตกเป็นเหยื่อได้ง่ายๆ การรู้ทันข่าวปลอมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันตัวเราและคนรอบข้างจากภัยออนไลน์
10 ข่าวปลอมที่ต้องระวัง (อ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงดีอี)
(เนื่องจากกระทรวงดีอีมีการอัปเดตข่าวปลอมอยู่เรื่อยๆ ผมจะยกตัวอย่างข่าวปลอมที่เคยมีการแจ้งเตือน เพื่อให้เห็นภาพรวมของกลโกง และแนะนำให้ติดตามข่าวสารจากกระทรวงดีอีโดยตรง เพื่อรับข้อมูลที่อัปเดตล่าสุดนะครับ)
ตัวอย่างข่าวปลอมที่เคยมีการแจ้งเตือน เช่น:
- ข่าวปลอมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ: เช่น ผลิตภัณฑ์ที่อ้างว่าสามารถรักษาโรคต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว หรือมีสรรพคุณเกินจริง เช่น “ผลิตภัณฑ์ Harina Bio ช่วยกระตุ้นให้ผมหนา ดกดำภายใน 7 วัน” หรือ “กินลูกปลาช่อนสด ช่วยสมานแผลหลังผ่าตัด” ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
- ข่าวปลอมเกี่ยวกับการเงิน: เช่น การหลอกให้ลงทะเบียนรับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล หรือการหลอกให้ลงทุนในธุรกิจที่ไม่มีอยู่จริง เช่น “ธนาคารกรุงไทย เปิดลงทะเบียนเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท รอบใหม่” หรือ “ผู้ประกันตนสามารถกู้เงินประกันสังคมได้ ผ่านเพจ Carroll Reyes” ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อหลอกเอาข้อมูลส่วนตัวหรือเงินจากเหยื่อ
- ข่าวปลอมเกี่ยวกับการหลอกขายสินค้าออนไลน์: เช่น การขายสินค้าในราคาถูกเกินจริง หรือการส่งสินค้าปลอม สินค้าไม่ได้คุณภาพ หรือไม่ส่งสินค้าเลย เช่น “จ่ายซื้อแบรนด์เนมแท้ แต่ได้ของปลอม” หรือ “กลโกงนักรับหิ้วของ”
- ข่าวปลอมอื่นๆ: เช่น ข่าวปลอมเกี่ยวกับภัยพิบัติ ข่าวปลอมเกี่ยวกับบุคคลสำคัญ หรือข่าวปลอมที่สร้างความตื่นตระหนกในสังคม เช่น “ไปรษณีย์ไทยส่งอีเมลแจ้งให้อัปเดตข้อมูลการเรียกเก็บเงิน เพื่อขอจัดส่งพัสดุใหม่” หรือ “จำหน่ายบัตรราคาพิเศษพร้อมการเดินทางไม่จำกัดบนระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภทในกรุงเทพฯ และพื้นที่โดยรอบเป็นเวลา 6 เดือน”
วิธีป้องกันตัวเองจากข่าวปลอม:
- ตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูล: ก่อนที่จะเชื่อหรือแชร์ข้อมูลใดๆ ควรตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูลให้แน่ใจว่าเป็นแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น เว็บไซต์หน่วยงานราชการ หรือสื่อที่น่าเชื่อถือ
- อย่าหลงเชื่ออะไรง่ายๆ: หากพบข้อความหรือโฆษณาที่ดูดีเกินจริง หรือมีเงื่อนไขที่น่าสงสัย ควรตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ
- อย่าแชร์ข้อมูลที่ไม่แน่ใจ: หากไม่แน่ใจว่าข้อมูลที่ได้รับมาเป็นความจริงหรือไม่ ควรหลีกเลี่ยงการแชร์ต่อ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของข่าวปลอม
- ติดตามข่าวสารจากกระทรวงดีอี: กระทรวงดีอีมีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวปลอมอย่างต่อเนื่อง ควรติดตามข่าวสารจากช่องทางของกระทรวงเพื่อรับข้อมูลที่ถูกต้องและอัปเดต
แหล่งที่มาของข้อมูล:
- เว็บไซต์กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี)
- ตัวอย่างข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ: https://www.bangkokbiznews.com/news/news-update/1161633
- ตัวอย่างข่าวจาก Thaigov.go.th: https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/90043
- ตัวอย่างข่าวจาก ETDA: https://www.etda.or.th/th/Useful-Resource/1212-OCC-Reveals-10-Online-Frauds.aspx
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้ทุกคนรู้ทันกลโกงจากข่าวปลอมนะครับ หากพบเจอข่าวปลอมหรือการหลอกลวงออนไลน์ สามารถแจ้งเบาะแสไปยังกระทรวงดีอีได้เลยครับ เพื่อร่วมกันป้องกันภัยออนไลน์
คำเตือน: ระมัดระวังการแชร์ข้อมูลที่ไม่ได้รับการตรวจสอบ และควรติดตามข่าวสารจากแหล่งที่น่าเชื่อถือเท่านั้น