15 จังหวัดที่มีการพัฒนาที่อยู่อาศัยมากที่สุดในประเทศไทย
นอกจากในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลแล้ว มีจังหวัดใดที่มีศักยภาพในการพัฒนาสูงมากบ้าง มาดูผลการสำรวจ 15 จังหวัดหลักที่เป็นความหวังสำคัญของประเทศ
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) สำรวจตลาดที่อยู่อาศัยในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2537 จนถึง 2567 รวม 31 ปี และโดยเฉพาะในจังหวัดภูมิภาค ก็ได้สำรวจมาโดยตลอด จังหวัดหลักๆ สำคัญที่ควรลงทุนมีอะไรบ้าง โดย ดร.โสภณ สำรวจไว้ทั้งหมด 40 จังหวัดทั่วประเทศ (ที่เหลือมีโครงการน้อยมาก จึงสำรวจเพียงครั้งคราว) และได้คัด 15 จังหวัดหลักมาเพื่อประโยชน์ในการลงทุน
อันดับหนึ่งเมื่อไม่นับ 6 จังหวัดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และบางส่วนของนครปฐม) แล้ว ก็คือ จังหวัดชลบุรีที่ ณ ปี 2567 ยังมีหน่วยขายรอผู้มาซื้ออยู่ 45,470 หน่วย หรือเหลืออยู่ 15% มีมูลค่ารวม 159,738 ล้านบาท หรือ 4,698 ล้านเหรียญสหรัฐ ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 3.513 บาท หรือ 103,325 เหรียญสหรัฐ การที่ชลบุรีเติบโตเป็นอันดับที่สองรองจากกรุงเทพมหานครก็เพราะเป็นจังหวัดหลักในระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก จังหวัดนี้มีการลงทุนมากเป็นพิเศษ
อันดับที่สอง ก็ยังอยู่ในระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกคือ จังหวัดระยอง ซึ่งยังมีหน่วยที่อยู่อาศัยรอขายอยู่ 23,092 หน่วย หรือ 25% ของที่อยู่อาศัยทั้งหมด รวมมูลค่า 58,563 ล้านบาท หรือ 1,722 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 2.536 ล้านบาท หรือ 74,590 เหรียญสหรัฐ ในจังหวัดนี้ มีการลงทุนด้านอุตสาหกรรมเป็นอันมากเช่นเดียวกับชลบุรี ยิ่งกว่านั้นยังมีแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ไล่มาจากชลบุรี เช่น บางแสน พัทยา สัตหีบ บ้านฉาง บ้านเพ แกลง กล่ำ เป็นต้น รวมทั้งยังมีรีสอร์ตตามพื้นที่เนินเขาต่างๆ อีกด้วย
อันดับที่สาม ก็คือจังหวัดเชียงใหม่ ที่ขณะนี้ยังมีหน่วยขายรอขายอยู่ 11,900 หน่วย ถือเป็นเพียง 14% ของหน่วยขายทั้งหมด (แสดงว่าขายได้เร็วพอสมควร) โดยมีมูลค่ารวมกัน 54,218 ล้านบาท หรือ 1,595 ล้านเหรียญสหรัฐ ราคาเฉลี่ยของที่อยู่อาศัยในเชียงใหม่อยู่ที่ 4.556 ล้านบาท หรือ 134,004 เหรียญสหรัฐต่อหน่วย ที่เชียงใหม่เป็นจังหวัดอันดับสามเพราะจังหวัดนี้เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวและเป็นเมืองหลวงของภาคเหนืออีกด้วย
อันดับที่สี่ คือภูเก็ต ซึ่งก็เป็นจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญระดับโลก จังหวัดนี้เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก มีนักท่องเที่ยวมากกว่าบาหลีของอินโดนีเซีย มีหน่วยที่อยู่อาศัยรอขายอยู่ 11,607 หน่วย คิดเป็น 15% ของอุปทานทั้งหมด รวมมูลค่าสูงถึง 142,796 ล้านบาท หรือ 4,200 ล้านเหรียญสหรัฐ ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 12.303 ล้านบาท หรือ 361,840 เหรียญสหรัฐ ที่อยู่อาศัยในภูเก็ตขายในราคาที่สูงกว่าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่ขายในราคา 5.293 ล้านบาท หรือ 155,676 เหรียญสหรัฐ มูลค่าสินค้ารอขายอยู่นี้ถือเป็นอันดับที่สองรองจากจังหวัดชลบุรีเท่านั้น
โดยรวมแล้วใน 15 อันดับแรกของจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดนั้น อยู่ในภาคเหนือเพียง 2 จังหวัด คือเชียงใหม่ เชียงรายและพิษณุโลก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด คือนครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี และอุบลราชธานี ภาคกลาง 2 จังหวัดคืออยุธยา และพื้นที่ชะอำ-หัวหิน ภาคใต้ 3 จังหวัดคือ ภูเก็ต หาดใหญ่และสุราษฎร์ธานี และระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกมี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง
ดร.โสภณเชื่อว่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงในอนาคต
1. ที่อยู่อาศัยสำหรับคนทำงานหรือผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกจะลดลงเนื่องจากโรงงานญี่ปุ่นและเกาหลีคงทะยอยย้ายออก ส่วนโรงงานจีน อาจไม่ได้ใช้แรงงานมากนัก (อาจใช้หุ่นยนต์เป็นหลัก) ส่วนในภาคการท่องเที่ยวก็คงยังเติบโตเหมือนเดิม
2. ในทำนองเดียวกันที่อยู่อาศัยในเขตตัวเมืองจังหวัดภูเก็ตก็อาจไม่เติบโตมากนัก ที่เติบโตจริงๆ คือที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติที่อยู่ตามริมหาดหรือตามไหล่เขามากกว่า โดยอาจเป็นพูลวิลลาและรีสอร์ตสำหรับการพักผ่อน ส่วนที่หาดใหญ่ก็น่าจะเติบโตอีกมากหากปัญหาความไม่สงบเบาบางลง และที่สุราษฎร์ธานี (สมุย) ก็มีโอกาสเติบโตสูงมากเช่นกัน
3. ภาคเหนือยังเติบโตต่อเนื่อง แต่เนื่องจากปัญหาเรื่องฝุ่นควัน ก็อาจทำให้การเติบโตช้ากว่าปกติ
4. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือการเติบโตค่อนข้างช้า ยกเว้นจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็น “เมืองหลวง”ของภาคนี้ที่ยังเติบโตมากกว่าจังหวัดอื่นมาก
5. เมืองชายแดน เช่น แม่สาย แม่สอด หนองคาย มุกดาหาร สระแก้ว ก็ยังเติบโตไม่มาก โครงการพัฒนาเมืองชายแดนยังไม่มีผลมากนัก การลงทุนก็น้อย
โอกาสที่เมืองท่องเที่ยวโดยเฉพาะภูเก็ต สมุย พัทยา ชะอำ-หัวหิน จะเติบโตมีมากกว่าจังหวัดภูมิภาคอื่นๆ เพราะอานิสงส์จากการท่องเที่ยวนั่นเอง
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
“ศุภจี” เฮ! ARASCO ซาอุฯ สั่งซื้อมันสำปะหลังอัดเม็ดเพิ่ม 3 หมื่นตัน ปีหน้าลุ้นพุ่งแตะ 1 แสนตัน
กลุ่มแรงงานแถลงประณามบริษัทสั่งปิดงาน ทำผิดอนุสัญญา ต้องสั่งแก้เปิดงานทันที เรียกร้องบริษัทเปิดผลประกอบการกำไร5พันล้าน ย้ำต้องแจกโบนัสตามสิทธิ เพราะทำงานหนัก
“ศุภจี” เฮ! ARASCO ซาอุฯ สั่งซื้อมันสำปะหลังอัดเม็ดเพิ่ม 3 หมื่นตัน ปีหน้าลุ้นพุ่งแตะ 1 แสนตัน
เขมรพังเรื่อยๆ ไทยปิดด่าน ทำเอาชาวเขมรโมโห เผานาทิ้ง เนื่องจากขายข้าวไม่ได้
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
ชาวเน็ตฮือฮา!! พ่อแม่หน้าจีนแต่ลูกออกมากลับหน้าฝรั่ง




