ระบบเผาผลาญพัง ลดน้ำหนักเท่าไหร่ก็ไม่ลง วิธีแก้ระบบเผาผลาญพัง ฟื้นฟูยังไงให้กลับมาใช้ได้
โพสท์โดย sompeansomped
ระบบเผาผลาญพัง คือ สภาวะที่ร่างกายเผาผลาญพลังงานไม่ได้ตามปกติ เกิดการเสื่อมสภาพของร่างกาย การเผาผลาญช้าลง การใช้พลังงานลดลง ส่งผลให้ร่างกายนำพลังงานที่ได้มาใช้ได้น้อยกว่าปกติ พลังงานที่ไม่ได้ถูกใช้เปลี่ยนเป็นไขมัน และเก็บสะสมในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทำให้รูปร่างอ้วนขึ้น น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น และเสี่ยงในการเป็นโรคต่าง ๆ มากขึ้น อย่างเช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดสมอง
ระบบเผาผลาญพังส่งผลอะไรต่อร่างกาย
- ช่องท้อง หากมีการสะสมของชั้นไขมันบริเวณหน้าท้องเป็นจำนวนมาก ทำให้ดูอ้วนลงพุง และเสี่ยงเป็นโรคอันตราย อย่างเช่น โรคเบาหวาน โรคความดัน ไขมันในเลือดสูง ไขมันพอกตับ อัลไซเมอร์ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ หลอดเลือดหัวใจขาดเลือด หลอดเลือดสมอง ภูมิแพ้ มากขึ้น
- บริเวณใต้ผิวหนัง การสะสมไขมันบริเวณสะโพก ต้นแขนต้นขา เอว และหน้าท้อง จะทำให้เกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อยดูไม่กระชับ ผิวเปลือกส้มหรือเซลลูไลต์
- รอบอวัยวะภายใน การสะสมไขมันบริเวณตับ กระเพาะอาหาร หรือลำไส้เล็ก เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคประจำตัวที่ร้ายแรง เป็นปัจจัยเร่งให้ระบบเผาผลาญพังเร็วขึ้นด้วย ที่สำคัญเป็นจุดที่ลดได้ยาก ไม่สามารถลดด้วยวิธีออกกำลังกาย หรือควบคุมอาหารได้
- กล้ามเนื้อ ส่วนใหญ่พบไขมันในกล้ามเนื้อ ในคนที่มีน้ำหนักตัวมาก หรือบุคคลที่มีปัญหาโรคเบาหวาน ควรรักษาสุขภาพโดยการออกกำลังกาย และควบคุมอาหารอย่างเหมาะสม เพื่อลดไขมันในกล้ามเนื้อ
สาเหตุที่ทำให้ระบบเผาผลาญพัง
- อายุเพิ่มมากขึ้น การเสื่อมถอยของระบบฮอร์โมน กล้ามเนื้อ และระบบเผาผลาญ ทำให้ร่างกายไม่สามารถทำงานได้เหมือนเดิม ระบบเผาผลาญสำคัญต่อการควบคุมน้ำหนัก การเสื่อมถอยทำให้เกิดอาการระบบเผาผลาญพัง น้ำหนักเพิ่มขึ้นและง่ายขึ้น
- ความเครียด เมื่อเกิดความเครียด ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล หรือฮอร์โมนความเครียดจากต่อมหมวกไตเป็นจำนวนมาก มีผลให้ระบบเผาผลาญทำงานผิดปกติ รู้สึกหิวบ่อยขึ้น มีผลต่อต่อมไทรอยด์ที่เกี่ยวข้องกับการเผาผลาญ ทำให้อัตราการเผาผลาญลดลง 20% ต่อวัน คนที่เครียดบ่อย มีความเสี่ยงที่จะมีอาการระบบเผาผลาญพังได้ มากกว่า คนที่ไม่ค่อยมีความเครียด
- ขาดฮอร์โมน ไทรอยด์ฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ เป็นฮอร์โมนสำคัญที่ส่งผลต่อระบบเผาผลาญโดยตรง
- ลดน้ำหนักแบบผิดวิธี การลดน้ำหนักโดยไม่สอดคล้องกับวิธีที่เหมาะสม อาจทำให้เกิดปัญหาระบบเผาผลาญทำงานผิดปกติได้มากที่สุด อย่างเช่น การอดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง กินน้อยเกินกว่าค่าเผาผลาญในแต่ละวัน หรือเลือกกินอาหารแค่บางประเภท จนทำให้ร่างกายขาดสมดุล ในระยะแรกอาจแค่รู้สึกอ่อนเพลียไม่มีเรี่ยวแรง หากทำติดต่อกันเป็นเวลานาน ร่างกายจะเกิดการปรับตัวตามกลไกธรรมชาติ เพื่อไม่ให้ขาดพลังงาน ด้วยการลดการเผาผลาญ และเปลี่ยนพลังงานเก็บไว้ในรูปของไขมันมากขึ้น
- สารเคมีและอาหารที่ตกค้างในร่างกาย การกินอาหาร ผัก ผลไม้ที่มีการปนเปื้อนสารเคมีจำพวก Endocrine disrupters อย่างเช่น ยาฆ่าแมลง สารจำพวกพีซีบี สารปรอท หรือสารเคมีจากโรงงานอุตสาหกรรม เป็นสารเคมีที่มีผลให้การทำงานของฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับระบบเผาผลาญ และระบบการทำงานอื่น ๆ ในร่างกายผิดปกติ
- พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนน้อย นอนดึก หรือนอนหลับไม่พอเป็นประจำ ติดต่อกันเป็นเวลานาน ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเลปตินหรือฮอร์โมนความอิ่มลดลง ทำให้ไม่เพียงพอต่อกระบวนการส่งสัญญาณเพื่อหยุดความอยากอาหารที่สมองส่วนไฮโปธาลามัส ทำให้รู้สึกหิวบ่อย กินอาหารต่อมื้อมากขึ้น หรือกินเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกอิ่มแล้ว ในระยะยาวยังต้องเจอกับปัญหาระบบเผาผลาญพังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
- ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ แอลกอฮอล์เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเข้าไปขัดขวางระบบเผาผลาญไขมัน การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้ระบบเผาผลาญผิดปกติ มากกว่า คนที่ไม่ดื่ม หรือดื่มน้อย
อาการระบบเผาผลาญพัง
- น้ำหนักตัวลงยาก ขึ้นง่าย ระบบเผาผลาญผิดปกติร่างกาย จะมีการสร้างและใช้พลังงานน้อยลง ต่อให้ควบคุมอาหารหรือออกกำลังกายอย่างหนัก น้ำหนักตัวก็ไม่ลดอย่างที่ตั้งใจ กลับกันในคนที่ไม่ออกกำลังกาย หรือขยับตัวน้อย พลังงานที่เหลืออยู่จะเปลี่ยนเป็นไขมันไปสะสมตามร่างกาย ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น ทั้ง ๆ ที่กินอาหารในปริมาณเท่าเดิม
- อ่อนเพลีย หมดแรง ร่างกายจะเผาผลาญพลังงานช้าและน้อยลง ทำให้มีพลังงานไม่เพียงพอต่อการนำไปใช้ในกระบวนการต่าง ๆ ของร่างกาย ทำให้รู้สึกอ่อนเพลียเหนื่อยล้ามากกว่าปกติ
- ผิวพรรณแห้งกร้าน ผมร่วง มีอาการผิวพรรณแห้งกร้าน และผมร่วงมากกว่าปกติ เกิดขึ้นจากระบบฮอร์โมนในร่างกายทำงานไม่เต็มที่ เพราะมีการใช้พลังงานในร่างกายลดลง
- ประจำเดือนมาไม่ปกติ มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนไทรอยด์ ทำให้มีอาการประจำเดือนที่ผิดปกติ คือ ประจำเดือนมาช้า ประจำเดือนขาด และประจำเดือนมามากผิดปกติ
วิธีแก้ระบบเผาผลาญพัง
- พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อช่วยกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และฟื้นฟูระบบการเผาผลาญ ทริค: เริ่มต้นจากการเข้านอนในเวลาเดิมทุก ๆ วัน เพื่อกระตุ้นระบบเผาผลาญ
- อย่าปล่อยให้ตัวเองเครียด ลดการผลิตฮอร์โมนความเครียด และกระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์ โดยการหากิจกรรมที่ทำให้อารมณ์แจ่มใสขึ้น ทริค: หาเวลาฝึกลมหายใจอย่างน้อย 5-10 นาทีต่อวัน เพื่อลดความเครียดสะสม
- ปรับทัศนคติให้พร้อม เชื่อมั่นเสมอว่าเราทำได้ หมั่นให้กำลังใจและให้อภัยตัวเอง พร้อมเริ่มใหม่ในทุก ๆ วัน ทริค: จดบันทึกการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนัก และสัดส่วนแต่ละวัน ให้กำลังใจตัวเองหน้ากระจกทุกเช้า
- ออกกำลังกายแบบ WEIGHT TRAINING คู่กับ CARDIO ออกกำลังกายประเภทเวทเทรนนิ่งเพื่อสร้างมวลกล้ามเนื้อและการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เพื่อกระตุ้นการทำงานของหัวใจ และการไหลเวียนโลหิต ทริค: ออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง 2–4 วันต่อสัปดาห์ และคาร์ดิโอ 30-60 นาทีต่อวัน สัปดาห์ละ 3-5 วัน
- ปรับพฤติกรรมการกิน ด้วยสูตรอาหารฟื้นฟูระบบเผาผลาญโดยแบ่งมื้อเป็นมื้อเล็ก ๆ ให้เพียงพอต่อค่าการเผาผลาญของร่างกาย และดื่มน้ำเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ทริค: แบ่งมื้ออาหารเป็น 4 มื้อเล็ก ๆ ให้ได้ 400-500 แคลอรี/มื้อ* และดื่มน้ำให้ได้ 2 ลิตร/วัน
- เน้นอาหารที่มีโปรตีน และกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ กินอาหารประเภทโปรตีน เพื่อสร้างกล้ามเนื้อ และเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงาน เลือกอาหารที่มีโปรตีนจากแหล่งที่ดี อย่างเช่น เนื้อสัตว์ที่อยู่ในกลุ่มเนื้อที่ไม่มีไขมัน ไข่ขาว นมเปรี้ยว ถั่ว เป็นต้น กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ประกอบด้วย แป้ง เนื้อสัตว์หรือไข่ เนื้อปลา ผักและผลไม้ และน้ำมัน เพื่อเพิ่มความสมดุลให้กับฮอร์โมนในร่างกาย ทริค: เลือกเมนูโปรตีนไม่ติดมันและโซเดียมต่ำ อย่างเช่น ไข่ต้ม อกไก่ แซลมอนย่าง
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: momon
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ



Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด

