เข้าใจดีจัง สำหรับชาวเกษตร กับ "ขี้หมูกินหัว ขี้วัวกินใบ ขี้ไก่กินผล"
เข้าใจดีจัง สำหรับชาวเกษตร กับเรื่องราว "ขี้หมูกินหัว ขี้วัวกินใบ ขี้ไก่กินผล"
.
ภูมิปัญญาเกษตรกรชาวบ้าน เคยได้ยินแต่คนเฒ่าคนแก่พูดถึงการใช้ปุ๋ยคอกว่า ขี้หมูกินหัว ขี้วัวกินใบ ขี้ไก่กินผล บางที่ก็เพี้ยน ๆ ไปว่า ขี้หมูให้หัว ขี้วัวให้ใบ ขี้ไก่ให้ลูก แต่ก็ความหมายเดียวกัน เราก็เลยจะมานำเสนอในแง่มุมของทางวิทยาศาสตร์ว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงหรือไม่ จะเป็นยังไงไปติดตามอ่านกันเลยครับผม
.
#ขี้หมูกินหัว หรือขี้หมู คือปุ๋ยจะมีธาตุอาหารที่ช่วยบำรุงราก หัวของพืช เช่น มันสำปะหลัง มันแกว แครอท มันฝรั่ง ขิง ข่า กระชาย เป็นต้น เหตุผลที่ปุ๋ยจากขี้หมูช่วยบำรุงหัวของพืชก็เพราะว่ามีธาตุอาหารหลักอย่างโพแทสเซียม (K) อยู่มากนั่นเอง
.
#ขี้วัวกินใบ หรือ ขี้วัวให้ใบ คืออะไร คือ ปุ๋ยจากขี้วัวจะมีธาตุอาหารที่ช่วยบำรุงใบของพืช สำหรับผักต่าง ๆ ที่เราจะทานใบเช่น ผักกาด ผักคะน้า ผักหอม ผักชี ฯลฯ จึงเหมาะที่จะนำขี้วัวไปใส่เพื่อการบำรุงใบโดยเฉพาะ เหตุผลที่ปุ๋ยขี้วัวเหมาะสำหรับพืชกินใบก็เพราะว่ามีมีสัดส่วนของไนโตรเจน ที่เยอะ ช่วยบำรุง เร่งเขียว เร่งใบ
.
#ขี้ไก่กินผล หรือ ขี้ไก่ให้ผล คืออะไร ปุ๋ยขี้ไก่มีธาตุอาหารที่ช่วยบำรุงผลของพืช เช่น ผลไม้ต่าง ๆ มะม่วง มะกรูด มะนาว มะพร้าม ส้มโอ แตงโม ฯลฯ หากปลูกพืชกินลูก จึงเหมาะที่จะเอาปุ๋ยขี้ไก่ไปใส่ส่วนเหตุผลที่ขี้ไก่เหมาะกับพืชกินผลเพราะมีสัดส่วนของฟอสฟอรัส (P) อยู่เยอะ บำรุงดอก เร่งดอก เร่งผล นั่นเอง
.
“ปุ๋ยคอก” แต่ละชนิดมีประโยชน์ดังนี้
1. มูลไส้เดือน จะมีธุาตอาหารดังนี้
N ไนโตรเจน 0.995%
P ฟอสฟอรัส 0.669%
K โพเทสเซียม 1.487%
เหมาะสำหรับบำรุงต้น ราก ใช้ในช่วงที่พืชกำลังเติบโต ใช้เป็นส่วนผสมของวัสดุปลูกและวัสดุเพาะกล้าพืชได้ ช่วยให้ดินมีโครงสร้างดีขึ้น ระบายน้ำและอากาศได้ดี และเก็บความชื้นได้มากขึ้น ช่วยให้ระบบรากพืชกระจายตัวในดินได้ดีขึ้น
.
2. มูลโค จะมีธุาตอาหารดังนี้
N ไนโตรเจน 1.25%
P ฟอสฟอรัส 0.01%
K โพเทสเซียม 2.12%
เหมาะกับพืชในช่วงขยายราก บำรุงรากได้ดี ใช้เตรียมดินโดยใส่ในอัตรา 1-3 กิโลกรัมต่อตารางเมตร แล้วหมักทิ้งไว้ 15-30 วันก่อนปลูกพืช ควรใช้มูลเก่าเพราะมูลสดทำให้เกิดความร้อนและมีการดึงไนโตรเจนจากดินไปใช้ พืชอาจมีอาการใบเหลืองและตายได้
.
3. มูลหมู จะมีธุาตอาหารดังนี้
N ไนโตรเจน 1.30%
P ฟอสฟอรัส 2.40%
K โพเทสเซียม 1.00%
เหมาะสำหรับไม้ผลบำรุงในช่วงติดดอก อาจนำมูลเหลวจากคอกไปลงบ่อหมักก๊าซชีวภาพแล้วเอามาเป็นปุ๋ยใส่พืชได้ และยังได้ก๊าซชีวภาพที่นำไปใช้หุงต้มหรือใช้ในฟาร์มได้ด้วย
.
4. มูลไก่ จะมีธุาตอาหารดังนี้
N ไนโตรเจน 1.67%
P ฟอสฟอรัส 3.32%
K โพเทสเซียม 2.41%
เป็นปุ๋ยคอกที่มีธาตุอาหารสูง เหมาะกับพืชทุกชนิด ใช้ได้ทุกช่วงที่พืชเติบโต ปริมาณธาตุอาหารขึ้นอยู่กับวัสดุรองพื้น
.
5. มูลค้างคาว จะมีธุาตอาหารดังนี้
N ไนโตรเจน 1.54%
P ฟอสฟอรัส 14.28%
K โพเทสเซียม 0.60%
มูลค้างคาวมีธาตุอาหารพืชหลายชนิด เหมาะสำหรับใส่ไม้ผล เช่น ทุเรียน ลิ้นจี่ กล้วยหอม ลำไย และมะม่วง เหมาะสำหรับบำรุงพืชช่วงเวลาติดดอก แต่ปัจจุบันมูลค้างคาวเป็นปุ๋ยที่หายาก จึงมีราคาสูง
.
6. มูลกระบือ จะมีธุาตอาหารดังนี้
N ไนโตรเจน 1.01%
P ฟอสฟอรัส 0.30%
K โพเทสเซียม 0.58%
เหมาะสำหรับบำรุงต้น ช่วยเร่งการเติบโตของพืช ควรใช้มูลแห้งเช่นเดียวกับมูลโค เหมาะสำหรับใส่รอบโคนต้นไม้ผล หรือรองก้นหลุมก่อนปลูกไม้ต้น
.
7. มูลเป็ด จะมีธุาตอาหารดังนี้
N ไนโตรเจน 1.02%
P ฟอสฟอรัส 1.84%
K โพเทสเซียม 0.54%
เหมาะกับบำรุงพืชในช่วงเติบโต บำรุงในช่วงติดดอก
.
ใช้ให้ถูกกับพืชผมก็จะได้ผลผลิตงาม