โศกนาฏกรรมระดับโลก! ซัมพุงห้างกล่ม 500 ศพ!!
คุณเคยเดินเข้าห้างสรรพสินค้าด้วยความมั่นใจในความปลอดภัยของสถานที่หรือไม่? แต่คุณจะรู้สึกอย่างไร หากวันหนึ่งสถานที่ที่ดูมั่นคงนั้นกลับกลายเป็นกับดักแห่งความตาย เรื่องราวนี้เกิดขึ้นจริง และมันคือหนึ่งในโศกนาฏกรรมที่สะเทือนขวัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของเกาหลีใต้
วันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2538 (ค.ศ. 1995) เป็นวันที่ชาวกรุงโซลจะไม่มีวันลืม ภายใต้แสงไฟสว่างไสวและเสียงจอแจของห้างซัมพุง ห้างหรูหราห้าชั้นที่ได้รับความนิยมจากทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ทุกคนต่างกำลังช้อปปิ้ง ทานอาหาร และเพลิดเพลินกับวันธรรมดาอีกวันหนึ่งโดยไม่รู้เลยว่า “ความหายนะ” กำลังคืบคลานเข้ามา
ก่อนหน้าวันเกิดเหตุไม่กี่วัน มีพนักงานและช่างเทคนิคบางคนเริ่มสังเกตเห็นรอยร้าวขนาดใหญ่ปรากฏบนเพดานและผนังของอาคาร พวกเขาได้แจ้งเตือนเจ้าของห้างให้ทำการปิดปรับปรุงโดยด่วน แต่คำเตือนเหล่านั้นกลับถูกมองข้าม เสียงแห่งความโลภดังขึ้นมากกว่าสัญญาณอันตราย เจ้าของห้างเลือกที่จะเปิดดำเนินกิจการต่อไป แม้พนักงานบางส่วนจะเริ่มลาออกเพราะความกลัว
“ไม่มีอะไรต้องกังวล ห้างนี้สร้างอย่างแข็งแรง มันเป็นเพียงรอยร้าวเล็กๆ เท่านั้น” นี่คือคำพูดที่ผู้บริหารให้กับพนักงานและประชาชนผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่
ในตอนบ่ายของวันนั้น ทุกอย่างดูเหมือนปกติ ผู้คนยังคงเดินซื้อของ ทานอาหารในฟู้ดคอร์ทที่ชั้นบนสุด แต่แล้วเสียงที่ไม่คุ้นเคยก็ดังขึ้น—เสียงกรีดร้องของคอนกรีตที่แตกร้าว เสียงดังลั่นเหมือนคำเตือนจากนรก
เพียงไม่กี่นาทีหลังจากนั้น พื้นที่ตรงกลางของอาคารก็พังลงมาเหมือนโดมิโน ทั้งห้าชั้นถล่มลงไปซ้อนทับกัน เกิดเป็นกองซากปรักหักพังมหึมา ผู้คนที่อยู่ในห้างไม่มีเวลาหนี บางคนถูกฝังทั้งเป็น บางคนติดอยู่ในซอกเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยฝุ่นควัน เสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือดังขึ้น แต่ค่อยๆ เงียบหายไป
เมื่อหน่วยกู้ภัยมาถึง ภาพที่เห็นคือซากอาคารที่พังทลายจนแทบไม่เหลือรูปร่างเดิม ความโกรธแค้นของประชาชนเริ่มปะทุเมื่อสืบทราบว่า สาเหตุของการพังถล่มนี้ไม่ได้มาจากภัยธรรมชาติ แต่เป็นผลของการทุจริตและความประมาท
ย้อนกลับไปในช่วงก่อสร้าง ห้างซัมพุงถูกออกแบบให้เป็นอาคารสี่ชั้น แต่เจ้าของต้องการเพิ่มพื้นที่เชิงพาณิชย์ จึงบังคับให้ทีมก่อสร้างเพิ่มชั้นที่ห้า แม้ว่าวิศวกรจะแจ้งว่าโครงสร้างไม่รองรับน้ำหนักนั้นได้ก็ตาม นอกจากนี้ยังมีการตัดเสาค้ำสำคัญออกเพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับบันไดเลื่อน การใช้วัสดุก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน และการละเลยกฎระเบียบทางวิศวกรรมล้วนเป็นชนวนสำคัญของหายนะครั้งนี้
เหตุการณ์ครั้งนี้คร่าชีวิตผู้คนไปถึง 502 คน และมีผู้บาดเจ็บกว่า 937 คน หลายคนต้องสูญเสียครอบครัว เพื่อน และอนาคตของพวกเขา เหตุการณ์นี้กลายเป็นบทเรียนครั้งใหญ่เกี่ยวกับความโลภและการละเมิดความปลอดภัยในงานก่อสร้าง
หลังเหตุการณ์ เจ้าของห้างและทีมผู้บริหารถูกดำเนินคดีในข้อหาฆ่าคนตายโดยประมาทและการทุจริตในกระบวนการก่อสร้าง ศาลตัดสินให้พวกเขารับโทษจำคุกเป็นเวลาหลายปี แต่สำหรับประชาชนชาวเกาหลีใต้ โทษเหล่านั้นไม่เคยเพียงพอที่จะลบล้างความเจ็บปวดที่พวกเขาต้องเผชิญ
“ซัมพุง” กลายเป็นชื่อที่เตือนใจถึงความน่ากลัวของความประมาทและการละเลยความปลอดภัย ห้างหรูที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง กลับกลายเป็นหลุมศพขนาดยักษ์ที่ไม่มีใครอยากจำ
คุณอาจเคยชินกับการเดินเข้าห้างโดยไม่คิดอะไร แต่หลังจากเรื่องนี้ คุณอาจมองสิ่งรอบตัวแตกต่างไป คุณอาจตั้งคำถามกับทุกเสียงร้าวที่ได้ยิน หรือแม้แต่รอยแตกร้าวเล็กๆ บนกำแพง เพราะบางครั้ง “ความหายนะ” อาจกำลังซ่อนตัวอยู่ในที่ที่คุณคาดไม่ถึง…
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลก
เขมร ยอมมาโต๊ะเจรจาที่จันทบุรี หลังไทยดัดหลัง "ไม่ย้ายประเทศ"
เจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)
อาเซียนเทเขมร ไม่เอาด้วย โยนให้ไทย กับกัมพูชาไปเคลียร์กันเอง
ไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
ลือสะพัด เกาหลีใต้ถีบส่งแรงงานเขมรกลับบ้าน 5 หมื่นราย หลัง 37 องค์กรเกาหลี ไม่ทนพวกเขมรป่วนเมือง
ปิดฉากบทบาทนักการเมือง! "นอท พันธ์ธวัช" ย้ำชัดลาออกพรรคเปลี่ยน พร้อมประกาศจุดยืนไม่หนุนฝ่ายใด
วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569
เขมร มาตามนัด ประชุม GBC
“รอยแผลบนขาของพลายประตูผา…คือรอยน้ำตาของคนทั้งแผ่นดิน”
ป้าฟันต้นมะม่วงแก้วขมิ้นเพราะเกลียดเขมรที่ทำร้ายคนและทหารไทย ยอมรับความเกลียดและอยากให้ทหารจัดการเรื่องนี้เร็วๆ
ปิดฉากบทบาทนักการเมือง! "นอท พันธ์ธวัช" ย้ำชัดลาออกพรรคเปลี่ยน พร้อมประกาศจุดยืนไม่หนุนฝ่ายใด
อาเซียนเทเขมร ไม่เอาด้วย โยนให้ไทย กับกัมพูชาไปเคลียร์กันเอง
“รอยแผลบนขาของพลายประตูผา…คือรอยน้ำตาของคนทั้งแผ่นดิน”








