จุดเริ่มต้นของการสร้างภาพยนตร์
เมื่อ Roman Polanski ตัดสินใจที่จะกำกับภาพยนตร์ The Pianist ซึ่งเป็นเรื่องราวที่สร้างจากหนังสืออัตชีวประวัติของ Władysław Szpilman นักแต่งเพลงชาวโปแลนด์เชื้อสายยิว ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งคือการคัดเลือกนักแสดงที่จะรับบทเป็น Szpilman การคัดเลือกเริ่มต้นในลอนดอน มีนักแสดงมากถึง 1,400 คนที่มาออดิชั่น แต่ไม่มีใครที่เหมาะสม
ในที่สุด Polanski ได้พบกับ Adrien Brody ซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างในขณะนั้น Brody ได้รับคำแนะนำจากผู้จัดการฝ่ายคัดเลือกนักแสดงที่เห็นเขาในบทเล็ก ๆ จากภาพยนตร์สงคราม The Thin Red Line และแนะนำให้ Polanski ลองพิจารณา
ความมุ่งมั่นของ Adrien Brody
Brody ได้รับบทและแสดงให้เห็นถึงความเป็นนักแสดงแบบ Method Acting ที่มีความสามารถและทุ่มเท ในวัยเพียง 28 ปี เขาตระหนักถึงลักษณะตัวละครที่ต้องรับบท ซึ่งเป็นชายที่สูญเสียทุกสิ่งแต่รอดพ้นจากความสยดสยองของเขตกักกันวอร์ซอ เพื่อให้เข้าถึงบทบาทนั้นอย่างลึกซึ้ง Brody ได้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเขาอย่างสิ้นเชิง
"ความสวยงามของสิ่งที่ผมทำคือมันทำให้ผมสามารถละทิ้งตัวตนและพยายามเข้าใจผู้อื่น เวลาอื่น ความยากลำบากอื่น ๆ และอารมณ์อื่น ๆ" - Adrien Brody กล่าวกับ BBC
การเปลี่ยนแปลงชีวิตเพื่อบทบาท
เพื่อให้ใกล้ชิดกับบทบาทของ Władysław Szpilman Brody ตัดสินใจละทิ้งความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน เขาย้ายออกจากอพาร์ตเมนต์ ขายรถยนต์ ยกเลิกโทรศัพท์ และออกเดินทางไปยุโรปพร้อมกระเป๋าเพียงสองใบและคีย์บอร์ด
นอกจากนี้ยังมีข่าวว่า Brody ยุติความสัมพันธ์ระยะยาวเพื่อเข้าถึงอารมณ์ที่แท้จริงของตัวละคร เขาฝึกเล่นเปียโนอย่างหนักทุกวันจนสามารถเล่นบทเพลงของ Chopin ได้เหมือนมืออาชีพ ทั้งหมดนี้เพื่อสื่อความรู้สึกและความลึกซึ้งของตัวละคร
การแสดงในฉากที่หนักหน่วงที่สุด
ฉากในช่วงท้ายของภาพยนตร์ที่ Szpilman เดินผ่านเขตกักกันวอร์ซอในสภาพอดอยาก เป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับ Brody เขาต้องลดน้ำหนักถึง 30 ปอนด์จนเหลือเพียง 130 ปอนด์ เพื่อให้ดูสมจริง
Brody เล่าว่าเขาแทบจะมีพลังงานเหลือเพียงพอสำหรับบทเรียนการออกเสียง การซ้อม และการเรียนเปียโน เขาต้องต่อสู้กับความหิวโหยและยังต้องจมอยู่ในอารมณ์ของบันทึกความทรงจำของ Szpilman ซึ่งเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและสยดสยองของเหตุการณ์ในยุคนั้น
การฟื้นฟูตัวเองหลังการถ่ายทำ
หลังจากการถ่ายทำจบลง Brody ต้องใช้เวลาถึงครึ่งปีในการฟื้นฟูสภาพจิตใจและกลับเข้าสู่ชีวิตปกติ การแสดงบทบาทที่เข้มข้นและลึกซึ้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เขาได้รับคำชื่นชมจากวงการภาพยนตร์ แต่ยังทำให้เขาได้รับรางวัลออสการ์ในฐานะนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในปี 2003 เป็นการพิสูจน์ถึงความสามารถและความทุ่มเทของเขาในฐานะนักแสดง