รัฐประหารในลิเบอเรีย 1980
ในวันที่ 12 เมษายน 1980 เกิดรัฐประหารครั้งสำคัญเกิดขึ้นในประเทศลิเบอเรีย โดยมีมาสเตอร์เซอร์จานต์ซามูเอล โด (Samuel Doe) เป็นผู้นำ ซึ่งส่งผลให้ประธานาธิบดีวิลเลียม อาร์. ทอลเบิร์ต จูเนียร์ (William R. Tolbert, Jr.) ถูกสังหารในทำเนียบประธานาธิบดี เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางการเมืองของประเทศ แต่ยังนำไปสู่ความรุนแรงและการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงในช่วงเวลาต่อมา
รัฐประหารในครั้งนี้เกิดขึ้นจากความไม่พอใจที่สะสมมานานระหว่างกลุ่มชาวอเมริกัน-ลิเบอเรียและชาวพื้นเมืองลิเบอเรีย โดยเฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์คราห์น (Krahn) ที่รู้สึกถูกกดขี่จากรัฐบาลที่มีอำนาจของชาวอเมริกัน-ลิเบอเรีย ซึ่งมีอำนาจมานานกว่า 100 ปี ในช่วงเช้าของวันที่ 12 เมษายน กองกำลังของโดได้บุกทำเนียบประธานาธิบดีและสังหารทอลเบิร์ตพร้อมกับผู้สนับสนุนอีก 26 คน
หลังจากรัฐประหาร โดได้ดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อรวบรวมอำนาจ โดยมีการจัดตั้งสภากอบกู้ประชาชน (People's Redemption Council - PRC) และใช้มาตรการที่รุนแรงในการปราบปรามฝ่ายค้าน รัฐมนตรีทั้ง 13 คนที่ถูกจับกุมถูกนำไปพิจารณาคดีในศาลทหาร และถูกประหารชีวิตโดยการยิงเป้าในวันที่ 22 เมษายน โดยมีการประจานพวกเขาอย่างน่าอดสู โดยให้พวกเขาเดินเปลือยเปล่าก่อนที่จะถูกประหาร
แม้ว่าในช่วงแรกจะมีบางกลุ่มประชาชนที่ต้อนรับการขึ้นสู่อำนาจของโด แต่ไม่นานนัก รัฐบาลของเขาก็เริ่มถูกกล่าวหาว่าทุจริตและใช้อำนาจอย่างไม่เป็นธรรม ความไม่สงบและความไม่พอใจเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดทางสังคมและการเมืองอย่างต่อเนื่อง