โรคคิดไปเองว่าป่วย Hypochondriasis ไปหาหมอกี่ครั้งก็ไม่เชื่อคำวินิจฉัย จะไปตรวจหาโรคนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
โรคคิดไปเองว่าป่วย Hypochondriasis ผู้ป่วยจะมีความเชื่อว่าตนเองป่วยด้วยโรคใดโรคหนึ่ง รู้สึกกังวล ตื่นตัวต่อความผิดปกติด้านสุขภาพมากเกินไป แม้จะไปหาหมอได้รับคำวินิจฉัยกี่ครั้งว่าไม่ได้เป็นอะไร ก็จะไม่ยอมเชื่อง่าย ๆ ทำให้ต้องไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจโรคหลายครั้ง เพราะคนกลุ่มนี้จะเชื่อว่าตัวเองป่วยจริง
อาการของโรคคิดไปเองว่าป่วย Hypochondriasis
- กังวลมากกว่าปกติเกี่ยวกับอาการที่ยังไม่เกิดขึ้น หรือ เกิดขึ้นเพียงเล็กน้อย
- กังวลเป็นอย่างมากเกี่ยวกับอาการ ความเสี่ยง ของการเกิดโรคทางพันธุกรรมที่พบในครอบครัว เช่น ผู้ป่วยบางรายอาจมีคนในครอบครัวเป็นโรคหัวใจ เมื่อมีอาการแน่นหน้าอก ซึ่งเกิดจากความเครียดทั่วไป ก็จะกังวลว่าตนอาจเป็นโรคหัวใจเช่นกัน
- ตื่นตัวเกี่ยวกับสุขภาพร่างกายของตนเองมากเกินไป
- พูดคุยกับผู้อื่นเกี่ยวกับสุขภาพของตนเอง และ ความเจ็บป่วยที่อาจเกิดขึ้นกับตนเองเสมอ
- หาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับอาการ หรือ โรค ที่คิดว่าอาจเกิดขึ้นกับตนเองซ้ำแล้วซ้ำอีก
- ไม่วางใจในข้อมูล ผลตรวจ ที่ได้จากการพบแพทย์
- ความกังวลที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต ความสัมผัสต่อครอบครัวและคนรอบข้าง สามารถพบได้ในทุกช่วงอายุทั้งวัยเด็ก วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ แต่ที่พบมากจะอยู่ในกลุ่มอายุ 20-30 ปี
- ตรวจสุขภาพร่างกายบ่อยเกินความจำเป็น
- เมื่อไปตรวจโรคหลายครั้งเข้าอาจจะหลีกเลี่ยงการพบแพทย์เนื่องจากกลัวผลการตรวจว่า ตนเองไม่ได้ป่วย
- มีความกังวลเกิดขึ้นติดต่อกันอย่างน้อย 6 เดือน คนที่มีความกังวลมักจะมีพฤติกรรมที่สอดคล้องกับโรคนั้น ๆ เช่น กังวลถึงการติดเชื้อ HIV ซึ่งเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ คนที่มีพฤติกรรมนี้จะมีความกังวลต่อโรคนี้เป็นพิเศษ หรือ ถ้าเป็นผู้สูงอายุที่เห็นคนใกล้ตัวเสียชีวิตเพราะโรคหัวใจ อาจพบเห็นข่าวเกี่ยวกับการเสียชีวิตของผู้สูงอายุด้วยโรคหัวใจบ่อย ๆ ก็จะมีความกังวลต่อโรคนี้มากกว่าโรคอื่น ๆ
- หลีกเลี่ยงสถานที่หรือกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการเจ็บป่วย
อาการดังกล่าวล้วนเกิดขึ้นจาก “ความวิตกกังวล” ของคนนั้นเอง
เมื่อเกิดอาการทางกายบางอย่างหรือหลายอย่าง ทำให้เกิดความวิตกกังวลไปต่าง ๆ นานา ว่าจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือต่อชีวิต ยกตัวอย่างเช่น อาการปวดท้อง อาจเป็นอาการท้องอืด ท้องเฟ้อธรรมดา แต่ ในคนที่เป็นโรคคิดไปเองว่าป่วยจะมีความรู้สึกไวกว่าคนปกติ รู้สึกว่าปวดท้องหนักมาก ทำให้กังวลว่าจะเป็นโรคร้าย แต่พอไปพบแพทย์แล้วทำการวินิจฉัยว่า “ไม่ได้ป่วยก็จะไม่ยอมเชื่อ”
เพราะคนกลุ่มนี้ยังคงจะมีความรู้สึกว่าตัวเองป่วยจริง ๆ และ ไม่ได้แกล้งทำ ซึ่งเกิดจากจิตใต้สำนึกของบุคคลนั้น ขณะที่บางรายมีอาการทางกายบางอย่าง แต่ บางรายก็อาจไม่ได้มีอาการเลย เช่น การนั่งใกล้ผู้ติดเชื้อ HIV แล้วกังวลว่าตนเองจะได้รับเชื้อมาทางระบบทางเดินหายใจ เมื่อพบแพทย์ทำการวินิจฉัยโรคว่าไม่พบ ก็จะหายกังวลไปได้แค่ช่วงเวลาหนึ่งแล้วกลับมากังวลอีก และจะมาพบแพทย์ใหม่เพื่อทำการวินิจฉัยโรคต่อไปเรื่อย ๆ
วิธีการสังเกตตนเองว่าเป็นโรคนี้หรือไม่ ?
ให้สังเกตที่จำนวนครั้งในการพบแพทย์ คนทั่วไปหากสงสัยว่าป่วยเป็นโรคอะไร อาจมีการพบแพทย์ซ้ำเป็นครั้งที่สอง เมื่อตรวจไม่พบโรคอีกก็จะเลิกไปพบแพทย์ แต่ ถ้ามีการพบแพทย์ซ้ำมากกว่าสองครั้งขึ้นไป ก็เป็นไปได้ว่าอาจเป็นโรคคิดไปเองว่าป่วย
การดูแลตนเอง หากกังวลว่าเป็น โรคคิดไปเองว่าป่วย
- ให้ความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญในการพูดคุยถึงอาการและการรักษาอย่างตรงไปตรงมา
- หลีกเลี่ยงการปรึกษากับแพทย์หลายท่านและการเข้าห้องฉุกเฉิน
- ทำกิจกรรมที่ต้องมีการเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อลดความวิตกกังวล และ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของร่างกาย
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การใช้ยาเสพติดเพื่อการผ่อนคลาย
- หลีกเลี่ยงการหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตเนื่องจากอาจทำให้เกิดความสับสนและความวิตกกังวล
- จดบันทึกความถี่ในการหาข้อมูลด้านสุขภาพ การตรวจเช็คร่างกายหรือการสอบถามผู้เชี่ยวชาญ และ ลดความถี่ในการทำสิ่งต่าง ๆ
- หลีกเลี่ยงการหมกมุ่นกับความวิตกกังวลด้วยการทำกิจกรรมต่าง ๆ กับเพื่อนที่ทำงาน ในสังคม และ ครอบครัว เช่น เดินเล่น พูดคุยกับเพื่อน ออกกำลังเพื่อการผ่อนคลาย
การป้องกัน โรคคิดไปเองว่าป่วย Hypochondriasis
โรคคิดไปเองว่าป่วยเป็นโรคที่เกิดอย่างเรื้อรัง การเรียนรู้ในการสังเกตเมื่อเกิดความเครียดและหาวิธีบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับร่างกายอาจช่วยลดความเสี่ยงจากโรคลงได้ หากมีความกังวลถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นควรปรึกษาแพทย์เพื่อยับยั้งอาการไม่ให้ทรุดหนักจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
จีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์
กัมพูชา ยอมทุบเขื่อนที่หวังเปลี่ยนพื้นที่ หลัก กม.73
ข่าวลับสุดยอด ไทยเจอพิมพ์เขียว วางทุ่นระเบิดของเขมร ความลับของทางการกัมพูชา
วิมานบนดินที่ไร้เงาเจ้าของ เจาะปมคฤหาสน์ลอยฟ้า 658 ล้านที่กลายเป็นเพียงอนุสรณ์แห่งความล้มเหลว
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
จิตรกรฝรั่งเผย "โฉมหน้าจริง" ฮ่องเต้เฉียนหลง ทำชาวเน็ตอึ้ง ไม่เหมือนในหนังเลยสักนิด
ทึ่งทั่วโลก : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่" หมู่บ้านที่สร้างอยู่ริมหน้าผา สถานที่ท่องเที่ยวแสนน่าทึ่งของประเทศจีน
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
สูตรคำนวณงวด 2/1/69
ไวรัลจีน! ลูกชายวัย 8 ขวบ หั่น "สร้อยทอง" แม่เป็นชิ้นๆ แจกเพื่อนยกห้อง อ้างอยากกระชับมิตร
ด่วนวันนี้ ประชาชนในปอยเปต โดนสั่งให้อพยพด่วน หลัง ไข่จากสยามเมืองยิ้ม ลงรัวๆ มากกว่า 15 ลูกภายในวันเดียว
เทรนด์ใหม่ "ปิดไฟอาบน้ำ" ช่วยแก้ปัญหา "นอนไม่หลับ" แพทย์ชี้ช่วยรีเซ็ตร่างกายได้จริง
ข่าวลับสุดยอด ไทยเจอพิมพ์เขียว วางทุ่นระเบิดของเขมร ความลับของทางการกัมพูชา
กัมพูชา ยอมทุบเขื่อนที่หวังเปลี่ยนพื้นที่ หลัก กม.73
ช่องทางการรับรางวัลสลากกาชาดมหาดไทย 2568 ตรวจสอบสิทธิและติดต่อรับโชคได้ถึงต้นปีหน้า
แซลม่อน ซึมซับความเป็นญี่ปุ่น ที่หลายคนต้องการเน้นสดอร่อย
เทรนด์ใหม่ "ปิดไฟอาบน้ำ" ช่วยแก้ปัญหา "นอนไม่หลับ" แพทย์ชี้ช่วยรีเซ็ตร่างกายได้จริง
บอสชายถาม "เที่ยงคืนมาห้องผมไหม" สาวจบใหม่ตอบฉลาด คว้าตำแหน่งทันที
แพทย์ผิวหนังแนะนำว่าควรเปลี่ยนกางเกงชั้นในบ่อยๆ เพื่อสุขอนามัยที่ดี
วิจัยญี่ปุ่นเผยว่า ความหนาของ "แก้ว" สามารถเปลี่ยนรสชาติได้ โดยถ้าอยากกินหวานควรเลือกแก้วที่หนา.




