คอดำ วิธีแก้คอดำด้วยวิธีธรรมชาติ
คอดำ เป็นอาการที่เกิดขึ้นเมื่อผิวหนังบริเวณคอมีสีเข้มกว่าผิวหนังบริเวณโดยรอบ รอยดำและความหนาของผิวหนังบริเวณคออาจจะปรากฏเป็นหย่อมสีเข้มและค่อย ๆ กระจายไปทั่วคอ ทำให้เห็นเด่นชัดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
สาเหตุที่ทำให้เกิด คอดำ
- การเสียดสีและการระคายเคือง เมื่อคอของเราถูกเสียดสีหรือถูกถูบริเวณคอบ่อย ๆ อาจทำให้คอดำได้ อาจเกิดจากเสื้อผ้า เครื่องประดับ หรือเหงื่อออกมากเกินไปอาจทำให้คอดำได้
- สุขอนามัยที่ไม่ดี การละเลยการทำความสะอาดผิวและการขัดผิวที่เหมาะสม เพราะเซลล์ผิวที่ตายแล้วไม่ได้ถูกขัดออก จึงทำให้เกิดการสะสมของเซลล์ผิว ส่งผลให้เกิดคอดำได้
- ปัจจัยด้านฮอร์โมน การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน อย่างภาวะการตั้งครรภ์
- สภาวะสภาพแวดล้อม อย่างเช่น แสงแดด
- โรคต่าง ๆ อย่างเช่น โรคเบาหวาน โรคไลเคน พลานัส (Lichen Planus Pigmentosus หรือ LPP) เป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบเรื้อรัง ส่งผลให้ผิวหนังผิดปกติ โรคผิวหนังอักเสบ โรคภูมิแพ้ โรคติดเชื้อราที่ผิวหนัง อย่างเช่นเกลื้อน โรคอ้วน เนื่องจากคนที่มีน้ำหนักตัวมาก จะมีเนื้อผิวบริเวณคอมากกว่าปกติ จึงทำให้เกิดการเสียดสีได้ง่ายและทำให้คอดำขึ้นได้
- ระดับอินซูลินในเลือดสูง
- การรับประทานยาหรืออาหารเสริมที่ไม่เหมาะกับร่างกาย
วิธีแก้คอดำ
1.อาบน้ำทำความสะอาดผิว ควรทำความสะอาดบริเวณคอเป็นประจำ โดยใช้สบู่ที่มีความอ่อนโยนในการล้างทำความสะอาดผิวบริเวณต้นคอและหลังคอให้ทั่วถึง เพื่อขจัดสิ่งสกปรก เหงื่อ คราบมัน และเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป
2.ขัดผิวเป็นประจำ การสครับขัดผิวที่คออย่างอ่อนโยน เป็นการช่วยทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึก และกำจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่ให้หลุดออกไป พร้อมผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออก กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่สุขภาพดีขึ้นมาทดแทน
3.ทาครีมเพิ่มความชุ่มชื้น ทามอยส์เจอไรเซอร์ที่ให้ความชุ่มชื้น เพื่อให้ผิวได้รับการบำรุงและป้องกันความแห้งกร้าน และลดการเสียดสีที่ต้นคอ
4 ทาครีมกันแดดเป็นประจำ ทาครีมกันแดดให้ทั่วลำคอ เพื่อปกป้องผิวบริเวณคอจากรังสี UV ที่เป็นอันตรายโดยทาครีมกันแดดในวงกว้างและมีค่า SPF 30 ขึ้นไป เพราะแสงแดดอาจทำให้ผิวคล้ำเสียและทำให้คอดำคล้ำได้
5.สครับผิวด้วยสูตรธรรมชาติ จะช่วยกำจัดคราบขี้ไคลที่คอออกได้ เพราะสครับที่ใช้จะทำหน้าที่กำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก
6.ทาน้ำมันมะพร้าว มีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นกับผิว ช่วยบำรุงผิวให้นุ่มขึ้น และยังช่วยลดการเสียดสีของผิวบริเวณลำคอที่เป็นต้นเหตุของคอดำ
7.การรับประทานอาหาร รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยผลไม้ ผัก และสารต้านอนุมูลอิสระ เพราะสารอาหาร อย่างเช่น วิตามินซีและอี สามารถส่งเสริมสุขภาพผิว ช่วยลดการสร้างเม็ดสีได้
8.การดื่มน้ำให้เพียงพอ จะช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้เซลล์ผิว ช่วยยับยั้งปัญหาผิวแห้งกร้าน ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส ช่วยลดการสะสมของเสียรวมถึงสารพิษในชั้นผิวหนัง
9.การลดน้ำหนัก หากคอดำเกี่ยวข้องกับโรคอ้วนหรือภาวะดื้อต่ออินซูลิน การรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติและการจัดการระดับน้ำตาลในเลือดสามารถช่วยให้ผิวสุภาพดีขึ้นด้วย
10.ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวางแผนการรักษาเฉพาะของแต่บุคคล ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำให้ใช้ครีมทาผิวตามใบสั่งแพทย์ การลอกผิวด้วยสารเคมี การบำบัดด้วยเลเซอร์ ตามความรุนแรงของอาการคอดำ
สูตรลดรอยดำคล้ำบริเวณคอด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติ
1.แอปเปิ้ลไซเดอร์ หรือน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล อาจช่วยปรับระดับความเป็นกรดด่างภายในผิวให้สมดุลขึ้น และช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วบริเวณคอ สูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ผิวหนังบริเวณลำคอดำคล้ำมาก
วิธีทำ
- ผสมน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ 2 ช้อนโต๊ะกับน้ำสะอาด 4 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน
- นำสำลีมาชุบน้ำผสมแอปเปิ้ลไซเดอร์แล้วมาส์กคอทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที
- ล้างออกด้วยน้ำสะอาด
2.มันฝรั่ง มีฤทธิ์ในการขจัดคราบ อาจช่วยให้ผิวดูขาวขึ้น และปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอกันได้ สามารถลดรอยดำที่คอด้วยวิธีนี้ได้วันละ 2 ครั้ง
วิธีทำ
- หั่นมันฝรั่งเป็นชิ้นเล็ก ๆ หรือคั้นให้ได้แต่ส่วนที่เป็นน้ำออกมา
- นำน้ำมันฝรั่งที่ได้ทาบริเวณรอบคอ หรือรอยดำ
- ทิ้งไว้ให้แห้งสนิท แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น
3.ขมิ้น อาจช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียและลดการเกิดเม็ดสีผิวได้ ควรทำอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์
วิธีทำ
- ผสมผงขมิ้นสำเร็จรูปประมาณ 2 ช้อนโต๊ะกับน้ำมะนาวครึ่งช้อนชา
- นำมานวดและขัดบริเวณรอยดำ ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที
- รอให้ขมิ้นแห้ง แล้วทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่น
4.โยเกิร์ต มีเอนไซม์ธรรมชาติ และช่วยในการบำรุงผิวให้มีความชุ่มชื้นและเรียบเนียนขึ้น
วิธีทำ
- ผสมโยเกิร์ตสูตรธรรมชาติ 2 ช้อนโต๊ะกับน้ำมะนาว 1 ช้อนชา
- พอกรอบคอทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที ก่อนล้างออกด้วยน้ำสะอาด