หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

"เสือร้องไห้ : เมนูตำนานแห่งรสชาติ ที่ทำให้เจ้าป่ายังต้องน้ำตาไหลริน"

โพสท์โดย dukedick

        หากพูดถึงเมนูเนื้อย่างที่เป็นตำนานในวงการอาหารไทย ชื่อ "เสือร้องไห้" คงติดอันดับต้น ๆ ในใจคนรักเนื้อย่าง ด้วยความนุ่มหอมของเนื้อวัวที่ผ่านการหมักจนชุ่มฉ่ำและการย่างที่ส่งกลิ่นหอมเย้ายวน เสือร้องไห้ไม่ใช่แค่อาหาร แต่เป็นเมนูที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและความขบขันในแบบฉบับไทย

       
ที่มาของชื่อ "เสือร้องไห้" มีสองตำนานหลักที่เล่าขานกันมา

        เนื้อส่วนต้องห้ามของเสือ

        ตามตำนานเล่าว่า เนื้อส่วนนี้มาจากบริเวณอกของวัว ซึ่งถูกกระดูกซี่โครงปกป้องไว้ เสือที่มักใช้เขี้ยวและกรงเล็บฉีกซากเหยื่ออย่างคล่องแคล่วกลับหมดปัญญากับเนื้อส่วนนี้ เพราะหัวของมันใหญ่เกินไปที่จะมุดเข้าไปใต้กระดูกซี่โครง เสือทำได้เพียงเลียลิ้มลองรสหวานจากเนื้อนุ่มนี้ และต้องปล่อยไว้เป็นอาหารของสัตว์ตัวอื่น พรานล่าเสือจึงตั้งชื่อเนื้อส่วนนี้ว่า "เสือร้องไห้" เพราะเสือได้แต่น้ำลายสอแต่กินไม่ได้

        เศษเนื้อติดฟันเสือ

        อีกตำนานหนึ่งเล่ากันขำ ๆ ว่า เมื่อเสือกัดเนื้อส่วนนี้ ความเหนียวหนึบของมันทำให้เศษเนื้อติดซอกฟัน แม้เสือจะพยายามใช้ลิ้นหรือกรงเล็บแคะแกะเท่าไหร่ก็เอาไม่ออก สุดท้ายจึงต้องส่งเสียงคำรามอย่างขัดใจ เหมือนเสือกำลังร้องไห้เพราะความอร่อยที่มากับความลำบากนี้


        เสือร้องไห้ไม่ได้อร่อยแค่ชื่อ แต่ยังเป็นการผสมผสานศิลปะการปรุงอาหารที่ละเอียดอ่อ่น

        เนื้อวัวส่วนอก หรือที่เรียกว่า “Brisket” มีลักษณะเด่นคือนุ่มแต่เหนียวเล็กน้อย มีมันแทรกพอเหมาะ เนื้อส่วนนี้ต้องแล่เป็นชิ้นหนาตามยาว เพื่อให้เก็บความชุ่มฉ่ำไว้ระหว่างการย่าง

        หัวใจของการทำเมนู เสือร้องไห้ คือการหมักเนื้อ ส่วนใหญ่ใช้ซอสปรุงรส น้ำปลา น้ำมันหอย น้ำตาลทราย หรือบางครั้งอาจเพิ่มพริกไทยและสมุนไพรไทยเพื่อเพิ่มความหอม การหมักช่วยทำให้เนื้อชุ่มฉ่ำและซึมซับรสชาติอย่างล้ำลึก

        เนื้อหมักจะถูกย่างด้วยไฟอ่อน ๆ เพื่อให้สุกอย่างทั่วถึงและไม่สูญเสียความฉ่ำ เนื้อที่ได้จึงหอมกรุ่น และเมื่อหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ จะเผยให้เห็นความสุกที่ชุ่มฉ่ำและสีสวยจากการย่าง

        เมนูเสือร้องไห้ มักจะเสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มแจ่วรสแซ่บที่มีส่วนผสมของพริกป่น น้ำมะขามเปียก น้ำปลา และข้าวคั่ว กลิ่นหอมไหม้ของข้าวคั่วเข้ากันอย่างดีกับความนุ่มของเนื้อ และเพิ่มมิติของรสชาติให้น่าหลงใหลยิ่งขึ้น


        แม้ตำนานของ "เสือร้องไห้" จะเป็นเรื่องเล่าจากอดีตที่เต็มไปด้วยความขบขันและจินตนาการ แต่มันสะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์และอารมณ์ขันของคนไทยในการตั้งชื่ออาหาร รสชาติของเมนูนี้ไม่ได้เพียงแค่เติมเต็มความอร่อย แต่ยังเชื่อมโยงผู้คนกับเรื่องเล่าที่เต็มไปด้วยสีสันและวัฒนธรรม

        ครั้งหน้า หากคุณได้ลิ้มลอง "เสือร้องไห้" ลองจินตนาการถึงเสือที่กำลังน้ำตาคลอ ด้วยความอร่อยที่เกินต้าน และอย่าลืมเล่าเรื่องราวของเมนูนี้ให้คนรอบตัวฟัง คุณอาจได้เห็นรอยยิ้มในขณะเดียวกับที่ทุกคนอิ่มเอมไปกับรสชาติแสนพิเศษนี้!

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
dukedick's profile


โพสท์โดย: dukedick
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ประเด็นร้อน! นักร้องหญิงคนดังถูกโยงดราม่าแสตมป์ ล่าสุดค่ายเคลียร์ชัดเกิดเหตุชิงช้าสวรรค์ขัดข้องในชิลี ทำคนค้างเติ่งด้านบนข้ามคืน 35 คนนั่งยองๆ เสี่ยงโรคข้อเสื่อม และ พฤติกรรมที่ทำลายข้อเข่า... รู้แล้วรีบลด ละ เลิกค้นพบแก้วสมัยโรมัน งามจนตะลึง ช่างปัจจุบันยังงง คนพันกว่าปีก่อน ทำได้อย่างไงการโกหก ทำไมคนเราถึงต้องโกหก เหตุผลที่คนเราโกหกบอร์ดเกม (Board Game) กิจกรรมยอดฮิต มีประโยชน์มากกว่าแค่ความสนุก20 สายพันธุ์แมวที่แพงที่สุดในโลกนักวิทยาศาสตร์เยอรมนี สร้างเครื่องเร่งอนุภาคจิ๋วสุดล้ำ เล็กกว่าเหรียญบาทแต่ทรงพลังระดับโลกคุณควรทำการล้างพิษในร่างกายหรือไม่?wrinkle: ริ้วรอย ย่นการก้าวข้ามผ่านความเศร้าอย่างเข้าใจ เมื่อต้องสูญเสียคนรักโดยไม่ทันได้ตั้งตัวเลขมงคลวันตรุษจีน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
นักวิทยาศาสตร์เยอรมนี สร้างเครื่องเร่งอนุภาคจิ๋วสุดล้ำ เล็กกว่าเหรียญบาทแต่ทรงพลังระดับโลกประเด็นร้อน! นักร้องหญิงคนดังถูกโยงดราม่าแสตมป์ ล่าสุดค่ายเคลียร์ชัดการก้าวข้ามผ่านความเศร้าอย่างเข้าใจ เมื่อต้องสูญเสียคนรักโดยไม่ทันได้ตั้งตัวเลขมงคลวันตรุษจีน
กระทู้อื่นๆในบอร์ด อาหาร
วิธีการทำข้าวขาหมูภัยเงียบจากจานโปรด อาหารที่ทำร้ายฟันโดยไม่รู้ตัว12 อาหาร กินแล้วดีต่อใจ ห่างไกลซึมเศร้าเคล็ดลับชะลอวัยง่ายๆ ด้วยอาหารใกล้ตัว
ตั้งกระทู้ใหม่