หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ก่อนจะมาเป็นเกย์ เพราะพันธุกรรมในร่างกายของมารดาขณะตั้งครรภ์ หรือไม่?

โพสท์โดย nidnoy

มีผลการศึกษาใหม่ทางวิทยาศาสตร์หลายชิ้น ที่เป็นหลักฐานยืนยันว่าพฤติกรรมรักเพศเดียวกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเพศชายนั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยทางพันธุกรรมและสภาพทางชีวเคมีในร่างกายของมารดาขณะตั้งครรภ์

ซึ่งผลการค้นพบเหล่านี้ช่วยโต้แย้งความเห็นบางส่วนในสังคมที่มองกันว่า การเป็นเกย์คือพฤติกรรมเลียนแบบตามแฟชั่นหรือเป็นเพียงทางเลือกหนึ่งในการใช้ชีวิตเท่านั้น

 

ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยนอร์ทชอร์ (North Shore University )ในรัฐอิลลินอยส์ของสหรัฐฯ เผยว่าพบหน่วยพันธุกรรมหรือยีน 2 ตัวในกลุ่มชายรักชาย ที่มีความผันแปรไปจากลักษณะปกติที่พบในยีนตัวเดียวกันของกลุ่มชายรักเพศตรงข้าม โดยเชื่อว่าอิทธิพลของยีนทั้งสอง ซึ่งมีลำดับเบสในดีเอ็นเอผิดแปลกไปเพียงตัวเดียวนี้ ทำให้ผู้ชายหลายคนมีแนวโน้มที่จะเป็นเกย์มากกว่าคนอื่น

ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Scientific Reports ระบุว่าทีมวิจัยได้เปรียบเทียบแผนที่พันธุกรรมของชายที่เป็นเกย์ 1077 คน กับชายที่มีพฤติกรรมรักเพศตรงข้าม 1231 คน จนพบยีนที่มีความแตกต่างออกไป 2 ตัว ได้แก่ยีน SLITRK6 ซึ่งทำงานในสมองส่วนที่มีไฮโปทาลามัสอยู่ด้วย และยีน TSHR ซึ่งมีบทบาทควบคุมการทำงานของต่อมไทรอยด์ โดยถือเป็นครั้งแรกของวงการวิทยาศาสตร์ที่สามารถระบุตัวยีนซึ่งส่งผลต่อพฤติกรรมทางเพศโดยตรงได้

 

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ยีนทั้งคู่น่าจะมีผลต่อการรักเพศเดียวกันจริง เพราะมีผลวิจัยก่อนหน้านี้ที่พบว่า ขนาดของส่วนไฮโปทาลามัสในสมองของชายเกย์และชายทั่วไปนั้นมีขนาดไม่เท่ากัน ทั้งเกย์นั้นมักจะมีอาการต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป คล้ายอาการของโรคเกรฟส์ (Graves' disease ) จนทำให้มีรูปร่างผอมบางกว่าปกติ

 

อีกผลการวิจัยหนึ่งจากมหาวิทยาลัยบร็อก (Brock University) ในแคนาดา พบว่าชายที่มาจากครอบครัวซึ่งมีพี่ชายร่วมท้องมารดาเดียวกันหลายคน จะมีแนวโน้มรักเพศเดียวกันได้มากกว่า โดยเรื่องนี้ไม่ได้เป็นผลจากสภาพแวดล้อมหรือการเลี้ยงดู แต่เกิดจากผลกระทบทางชีวเคมีในครรภ์มารดา

โพสท์โดย: nidnoy
อ้างอิงจาก: ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยนอร์ทชอร์ (North Shore University )
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
nidnoy's profile


โพสท์โดย: nidnoy
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
10 VOTES (5/5 จาก 2 คน)
VOTED: sawtai, ลิลลี่ ไมโครนอส
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เเม่เลี้ยงเดี่ยว ป่วยมะเร็ง เจอเพื่อนบ้านเปิดเพลงดัง รุมด่า-ขู่ทำร้ายถึงหน้าบ้าน จบปรับ 500นางเอกดังสุดเศร้า กับการสูญเสียครั้งใหญ่ โพสต์อาลัยรักสุดหัวใจรวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ วันที่เป็นวันพฤหัส ที่กระแสน้องเสือ เอวา ที่สวนสัตว์เชียงใหม่กำลังมาแรงเด้อครับเด้อดาราจีนแชร์เทคนิค ผอมลง 15 โลใน 1 เดือน เพื่อรับบทบาทในละครหญิงป่วยโปลิโอเดิน 4 ขามาขอทุนหลวงพ่อ เพื่อเปิดร้านกาแฟหาเลี้ยงดูตัวเอง 😔เปิดตัวแฟชั่นทนายสายหยุด ที่มาพร้อมกับเครื่องประดับสุดหรู ราคาต่อชิ้นไม่ธรรมดาวิธีดูแลตัวเองให้สุขภาพดีของคนทำงานกะดึก เมื่อต้องทำงานแบบ night shiftกัดเล็บ ติดนิสัยชอบกัดเล็บ ส่งผลเสียอย่างไร เข้าข่ายอาการป่วยทางจิตไหม ทำอย่างไรให้เลิกนิสัยชอบกัดเล็บอะไรจะเกิดขึ้น หากปล่อยให้น้ำตาลในเลือดสูงสมุนไพร คลายเครียด ลดความวิตกกังวล ต้านซึมเศร้าดาราสาว แวร์ โซว เคลียร์ชัด ไม่ใช่อักษรย่อ ว. ในข่าวค้างจ่ายค่าทำผม“จี๋ สุทธิรักษ์” พระเอกสุดปัง โกอินเตอร์แสดงซีรีส์ญี่ปุ่น เตรียมออนแอร์ต้นปี 2025!
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เพียง 3 วินาที หญิงสาวสามารถขโมยนมผงในร้านสะดวกซื้อโดยไม่มีใครเห็นวิธีใช้ Postjung สร้างรายได้จากการเขียนกระทู้: เคล็ดลับที่คุณไม่ควรพลาด!"เเม่เลี้ยงเดี่ยว ป่วยมะเร็ง เจอเพื่อนบ้านเปิดเพลงดัง รุมด่า-ขู่ทำร้ายถึงหน้าบ้าน จบปรับ 500เปิดตัวแฟชั่นทนายสายหยุด ที่มาพร้อมกับเครื่องประดับสุดหรู ราคาต่อชิ้นไม่ธรรมดา
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ประสบการณ์ ชีวิตเกย์
เกิดมาเพื่อเป็นlกย์ขนาดน้องชายสำคัญแค่ไหนเกย์ รู้ได้ยังไงว่าอีกฝ่ายเป็นรุกหรือรับสิ้นสุดยุคซาวน่าlกย์
ตั้งกระทู้ใหม่