สอนลูกแบบ ชาคีล โอนีล ตำนานนักบาสผู้ไม่เลี้ยงลูกแบบ "ริชคิดส์"
ชาคีล โอนีล หรือที่แฟนกีฬารู้จักกันในชื่อ "แช็ค" คือตำนานเซ็นเตอร์แห่งวงการบาสเกตบอล NBA เจ้าของความสูง 216 เซนติเมตร และน้ำหนักกว่า 140 กิโลกรัม แต่สามารถเคลื่อนที่ได้รวดเร็วเกินคาด จนกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่น่าเกรงขามที่สุดใต้แป้นในประวัติศาสตร์
แช็คประสบความสำเร็จในฐานะนักกีฬาอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการคว้าแชมป์ NBA 4 สมัย ติดทีมออลสตาร์ 15 ครั้ง และถูกดราฟต์เป็นอันดับ 1 Overall เมื่อปี 1992
หลังจากอำลาสนาม เขาใช้ชื่อเสียงและรายได้ที่สะสมมาหลายปี ต่อยอดสู่การทำธุรกิจมากมาย ทั้งการเปิดตัวรองเท้า Shaq Attaq ร่วมกับแบรนด์ Reebok, เป็นคอมเมนเตเตอร์ให้ช่อง TNT, ปรากฏตัวในวิดีโอเกมอย่าง NBA 2K รวมถึงเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้าอย่างเป๊ปซี่ และยังลงทุนซื้อแฟรนไชส์ร้านอาหารชื่อดัง เช่น Five Guys, Krispy Kreme และ Auntie Anne's
ด้วยทรัพย์สินประมาณ 500 ล้านดอลลาร์ (ราว 16,700 ล้านบาท) ทำให้แช็คกลายเป็นหนึ่งในนักบาสเกตบอลที่ร่ำรวยที่สุดอันดับ 4 ของโลก เป็นรองเพียง ไมเคิล จอร์แดน, เมจิก จอห์นสัน และ เลอบรอน เจมส์ เท่านั้น
บ้านเราไม่ได้รวย พ่อต่างหากที่รวย
แม้จะมีความมั่งคั่งมหาศาล แต่แช็คมีแนวทางการเลี้ยงลูกที่น่าสนใจมาก เขาไม่ต้องการให้ลูกๆ กลายเป็น "ริช คิดส์" ที่หลงระเริงกับความสะดวกสบายโดยไม่เข้าใจคุณค่าของเงิน จึงตั้งกฎเหล็กในบ้านว่า
"We ain't rich, I'm rich"
หรือแปลว่า "บ้านเราไม่ได้รวย พ่อต่างหากที่รวย"
แช็คย้ำชัดว่า ทรัพย์สินทั้งหมดเป็นผลจากการทำงานหนักของเขาเอง และลูกๆ จะไม่มีสิทธิ์ใช้จ่ายเงินของพ่อโดยไม่จำเป็น
เขาวางเงื่อนไขสำคัญไว้สองข้อ:
-
การศึกษาเป็นสิ่งแรก: ลูกๆ ต้องตั้งใจเรียนและจบการศึกษาก่อน จะไม่มีการเลี้ยงแบบให้เงินใช้อย่างฟุ่มเฟือยหรือผลาญเงินโดยไม่เรียนหนังสือ
-
ต้องมีแผนการ: หากลูกอยากเริ่มธุรกิจหรือลงทุน ต้องทำแผนธุรกิจมาเสนออย่างเป็นทางการ ไม่มีการแจกเงินเปล่าๆ
แช็คกล่าวว่า "ถ้าลูกๆ อยากได้เงินลงทุนจากผม ต้องทำแผนมาให้พิจารณาก่อน ผมอยากเห็นความจริงจัง ไม่ใช่แค่อยากทำเพราะตามใจตัวเอง"
การศึกษา สำคัญที่สุด
สิ่งเดียวที่แช็คพร้อมจะทุ่มเทสนับสนุนอย่างเต็มที่ คือ การศึกษา เขาเปิดโอกาสให้ลูกเรียนที่ไหนก็ได้ ตามความฝันและความถนัด โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเล่าเรียนแม้แต่น้อย
เขาต้องการให้ลูกๆ รู้ว่าหลายคนในโลกนี้ไม่มีโอกาสแม้แต่จะเข้าเรียนมหาวิทยาลัย แต่ลูกๆ ของเขาโชคดีที่มีสิทธิ์เลือกอนาคตด้วยตัวเอง
สำหรับแช็ค ไม่จำเป็นว่าลูกต้องเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลเหมือนพ่อ เขาเคยบอกว่า
"บ้านเราไม่ต้องการนักบาส NBA อีกคน แต่เราต้องการคุณหมอ, ทนายความ, หรืออะไรก็ได้ที่ลูกๆ ตั้งใจจริง"
สิ่งที่เขาคาดหวังจากลูก คือความซื่อสัตย์, ความพากเพียร และความรับผิดชอบในเส้นทางที่ตนเลือก
ผลลัพธ์ของการเลี้ยงลูกแบบ "ตั้งใจ"
ปัจจุบัน แช็คมีลูกทั้งหมด 6 คน ซึ่งแต่ละคนต่างเลือกเส้นทางของตัวเอง โดยไม่ถูกบังคับตามรอยพ่อ
-
ทาฮิร่า (29 ปี) - ทำงานเป็นนักวิเคราะห์การตลาดที่บริษัทเป๊ปซี่โค
-
ไมลส์ (28 ปี) - เป็นดีเจมืออาชีพ มีผลงานเพลงเป็นของตัวเอง และสามารถซื้อรถยนต์ Tesla ด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเอง
-
ชารีฟ (25 ปี) - เคยตามฝันเป็นนักบาสอาชีพ แต่ต้องหยุดเนื่องจากปัญหาโรคหัวใจ
-
อามิราห์ (22 ปี) - นักศึกษามหาวิทยาลัยเท็กซัส เซาเทิร์น และเป็นนักบาสหญิงที่มีแววรุ่ง
-
ชาเคียร์ (21 ปี) - นักบาสมหาวิทยาลัย แม้ยังไม่ติดอันดับนักกีฬาระดับประเทศ แต่ก็มีความมุ่งมั่น
-
เมียร่า (18 ปี) - นักบาสที่ได้ข้อเสนอเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังด้านกีฬาอย่างมหาวิทยาลัยฟลอริดา
แม้ว่าลูกๆ หลายคนจะเลือกเดินในเส้นทางบาสเกตบอล แต่แช็คไม่เคยกดดันและเปิดกว้างให้พวกเขาเลือกทางเดินชีวิตเองอย่างแท้จริง
บทเรียนสำหรับพ่อแม่ทุกคน
การเลี้ยงลูกของแช็ค เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจมากว่า "การมีเงิน" ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะตามใจลูกจนเสียคน
การให้ลูกเรียนรู้คุณค่าของเงิน การทำงานหนัก และการตั้งเป้าหมายชีวิต คือของขวัญล้ำค่ากว่าทรัพย์สินใดๆ
ในโลกที่เด็กหลายคนเติบโตมาพร้อมความสบายเกินไป จนขาดวินัยและความพยายาม การมีพ่อแม่ที่รู้จัก "ให้" อย่างมีขอบเขต เช่นเดียวกับแช็ค อาจเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างอนาคตที่สดใสให้ลูกๆ
ในฐานะพ่อแม่ การอยากให้ลูกมีชีวิตที่ดี เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่การสอนให้พวกเขารู้จักคุณค่าของความสำเร็จที่ต้องแลกมาด้วยความพยายาม นั่นต่างหาก คือสิ่งที่ยั่งยืนที่สุด
แช็คพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ความสำเร็จที่แท้จริง ไม่ใช่แค่การสร้างตำนานในสนามกีฬา แต่คือการเลี้ยงลูกให้เป็นคนดี มีคุณภาพ และรู้จักเดินบนเส้นทางชีวิตด้วยสองเท้าของตัวเอง















