หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

"มัมมี่แห่งเวนโซเน"มัมมี่ออร์แกนิกแห่งอิตาลี!

โพสท์โดย xiaosixi

  เมื่อพูดถึงมัมมี่หลายคนอาจนึกถึงอียิปต์ที่มีวิธีการทำมัมมี่อันซับซ้อน แต่รู้หรือไม่ว่าในอิตาลีเองก็มีมัมมี่แถมยังเป็นมัมมี่ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติด้วย!

  มัมมี่แห่งเวนโซเนเป็นกลุ่มมัมมี่หลายร่างที่มีผู่ค้นพบในเมืองเวนโซเน ประเทศอิตาลี ในศตวรรษที่ 16 ที่ถูกทำให้กลายเป็นมัมมี่โดยกระบวนการทางธรรมชาติโดยมีสมมติฐานที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือองค์ประกอบทางธรรมชาติหลายประการที่ประจวบเหมาะรวมถึงอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสม แคลเซียมซัลเฟตที่มีอยู่มากในดิน และเชื้อราที่มีความสามารถในการอุ้มน้ำได้ดีเยี่ยมที่มีชื่อว่า Hypha bombycina

  มีการค้นพบซากมัมมี่ประมาณ 20 ร่างในปี 1647 ขณะที่มีการก่อสร้างส่วนต่อขยายของมหาวิหารเวนโซเน รวมถึงมัมมี่ที่ได้ชื่อว่า "เจ้าหนูหลังค่อมแห่งเวนโซเน" 

  มัมมี่เหล่านี้เป็นผลจากการนะบาดของกาฬโรคในเมืองเวนโซเนในศตวรรษที่ 14 จน ไม่มีสุสานเพียงพอที่จะฝังซากศพ ชาวบ้านจึงสามารถนำซากศพ 42 ร่างที่ไม่สามารถฝังในสุสานใส่ลงในโลงศพและเก็บไว้ในห้องใต้ดินของโบสถ์ San Michael

  300 ปีผ่านไปมีเหตุให้ต้องย้ายโลงศพในห้องใต้ดินเพราะจะสร้างโบสถ์ San Michael ขึ้นใหม่ในปี 1647 เมื่อเปิดโลงศพชาวบ้านก็พบว่าศพ 42 ศพกลายเป็นมัมมี่ไปแล้ว

  ชาวบ้านคิดว่าพระเจ้าทรงส่งบรรพบุรุษของพวกเขามาปกป้องหมู่บ้านเนื่องจากพวกเขาไม่รู้จักคำว่า "มัมมี่" ในเวลานั้น มัมมี่จึงได้รับการปฏิบัติอย่างดีเยี่ยมจากชาวบ้านในฐานะผู้อาวุโสของหมู่บ้าน และประเพณีนี้ยังคงดำเนินต่อไปจนถึงปี 1950 ที่ชาวเมืองต้องให้ความสำคัญกับมัมมี่ในฐานะบรรพบุรุษของตน

  ในช่วงทศวรรษ 1950 แจ็ค เบิร์นส์ ช่างภาพชาวอเมริกันเกิดหลงทางกลางเทือกเขาแอลป์และต้องการหาที่พักผ่อนในตอนกลางคืน เมื่อแจ็คเข้ามาในหมู่บ้านเวนโซเน เขาได้พบเห็นชายชราจิบชาพร้อมกับมัมมี่ ช่างภาพผู้นี้ได้ตีพิมพ์ภาพถ่ายของชีวิตประจำวันของชาวบ้านกับมัมมี่ในนิตยสาร Life ซึ่งเป็นส่วนเสริมของนิตยสาร Time จนภาพของมัมมี่จากหมู่บ้านเวนโซเนแพร่กระจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว

  มัมมี่แห่งเวนโซเนมีอายุตั้งแต่ปี 1348 ถึง 1881 ต่อมาถูกย้ายไปที่ Upper Chapel ในปี 1845 จากห้องใต้ดินของมหาวิหาร จนมีแผ่นดินไหวในปี 1976 ส่งผลให้มีมัมมี่เพียง 15 จาก 21 ร่างที่รอดพ้นจากซากปรักหักพัง 

  ปัจจุบันมีการจัดแสดงมัมมี่ 5 ร่างให้ผู้คนได้เยี่ยมชมในห้องใต้ดินของโบสถ์ St. Michael ซึ่งมัมมี่เหล่านี้ถือเป็นมรดกอันประเมินค่ามิได้

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
xiaosixi's profile


โพสท์โดย: xiaosixi
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: Thorsten
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
วัดดะมะยานจี้: สถาปัตยกรรมแห่งความยิ่งใหญ่และเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ในพุกามภรรยา "ฉีเส้าเฉียน" เสียชีวิตตามสามีอย่างน่าเศร้า ราวกับในนิยายจีนกำลังภายในพบเสือขณะตกปลา ชายสองคนตกใจจนต้องสวดมนต์โหนกระแสเดือด! "ครูเบญ" สอบติดครูแต่ชื่อหาย ผอ.แจงกลางรายการ คนดูงงหนัก!วุ่นสนามบิน! สาวนอนโพสต์ท่าบนสายพานสัมภาระ ทำชาวเน็ตวิจารณ์สนั่นรีวิวหนังดัง JOKER โจ๊กเกอร์สวยแต่มีพิษ แมงกระพรุน Carabela"มัสก์" เผยไม่สนว่าใครจะฆ่า "ทรัมป์" หรือ "แฮริส"ผักกะโดน โดนใจ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ผอ. อ้าง ‘ครูเบญ’ สอบไม่ผ่านแต่แรก จนท.ทำข้อมูลชื่อที่ 1 ผิดโหนกระแสเดือด! "ครูเบญ" สอบติดครูแต่ชื่อหาย ผอ.แจงกลางรายการ คนดูงงหนัก!โหนกระแสวันนี้ อย่างเดือด!!!! ครูเบญ มาเรียกร้องขอความเป็นธรรม จากที่มีชื่อว่าสอบได้ที่ 1 ผ่านไป 3 วันชื่อหาย กลายเป็นชื่อคนอื่นมาแทนวุ่นสนามบิน! สาวนอนโพสต์ท่าบนสายพานสัมภาระ ทำชาวเน็ตวิจารณ์สนั่นรีวิวหนังดัง JOKER โจ๊กเกอร์
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
'บาร์ตี้ เคร้าช์' กว่าจะสำนึกได้ก็สายเกินไปแล้ว!"สเนปกับเบลลาทริกซ์" โวลเดอมอร์เชื่อใจใครมากที่สุด?นอนตะแคงซ้ายหรือขวา? ผู้เชี่ยวชาญไขข้อข้องใจ ท่านอนไหนดีต่อสุขภาพมากกว่ากันสวยแต่มีพิษ แมงกระพรุน Carabela
ตั้งกระทู้ใหม่