เครื่องซักผ้านวัตกรรม ที่ช่วยประหยัดแรงซักของคุณ

เครื่องซักผ้าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ซักผ้า เครื่องซักผ้ามีสามประเภทหลัก ได้แก่ เครื่องซักผ้าฝาหน้า เครื่องซักผ้าฝาบน และเครื่องซักผ้าสองถัง รวมถึงมีเครื่องซักผ้าพร้อมอบแห้งซึ่งเป็นเครื่องซักผ้าอบผ้าในตัว แต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป โดยการเลือกซื้อเครื่องซักผ้าเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับทุกบ้าน และต้องเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน

การวางเครื่องซักผ้าควรวางไว้ตรงไหนดี

การเลือกตำแหน่งวางเครื่องซักผ้าเป็นสิ่งสำคัญ เพราะส่งผลต่อความสะดวกในการใช้งาน ประสิทธิภาพการซักผ้า และความปลอดภัย รวมถึงต้องคำนึงถึงขนาดเครื่องซักผ้า เช่น เครื่องซักผ้า 10 กิโล หรือเครื่องซักผ้าฝาหน้า 15 kg เป็นต้น โดยตำแหน่งยอดนิยมสำหรับวางเครื่องซักผ้า พร้อมทั้งข้อดีและข้อจำกัดของแต่ละตำแหน่ง ได้แก่

การวางเครื่องซักผ้าที่หน้าลานบ้าน/ระเบียงคอนโด

การวางเครื่องซักผ้าที่หน้าลานบ้านหรือระเบียงคอนโด เป็นการวางเครื่องซักผ้าอัตโนมัติที่ได้รับความนิยม เพราะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อจำกัดที่ต้องพิจารณาเช่นกัน

ข้อดี : 

• ประหยัดพื้นที่: เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่จำกัด หรือต้องการใช้พื้นที่ภายในบ้านสำหรับทำกิจกรรมอื่น ๆ
• สะดวกต่อการใช้งาน: อยู่ใกล้กับตากผ้า หยิบผ้าไปซักและตากได้สะดวก
• ระบายอากาศได้ดี: ช่วยให้เครื่องซักผ้าแห้งเร็ว ลดโอกาสเกิดเชื้อรา
• เสียงรบกวนไม่ดัง: เหมาะสำหรับคนที่อาศัยอยู่ในคอนโด เสียงรบกวนจากเครื่องซักผ้าไม่ไปรบกวนผู้อื่น

ข้อจำกัด : 

• เสี่ยงต่อแสงแดดและฝน: อาจทำให้เครื่องซักผ้าเสื่อมสภาพเร็ว สีซีด ชิ้นส่วนบางส่วนเสียหาย
• เสี่ยงต่อการถูกขโมย: ควรเลือกวางเครื่องซักผ้าในจุดที่มองเห็นได้ชัดเจน หรือติดตั้งระบบป้องกันขโมย
• ต้องเดินไกล: อาจไม่สะดวกสำหรับผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีปัญหาในการเคลื่อนไหว
• แมลงและสัตว์: อาจเข้ามาทำรังในเครื่องซักผ้า ควรทำความสะอาดเครื่องซักผ้าเป็นประจำ

การวางเครื่องซักผ้าที่ห้องซักล้าง

การวางเครื่องซักผ้าที่ห้องซักล้าง เป็นการวางเครื่องซักผ้าอบผ้าที่ได้รับความนิยม เพราะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อจำกัดที่ต้องพิจารณาเช่นกัน

ข้อดี : 

• สะดวกต่อการใช้งาน: อยู่ใกล้กับอ่างล้างจาน หยิบผ้าไปซัก เติมน้ำยาซักผ้า และตากผ้าได้สะดวก
• ใกล้แหล่งน้ำและท่อน้ำทิ้ง: ไม่ต้องเดินไกลเพื่อต่อท่อ หรือหาปลั๊กไฟ
• เก็บของใช้ซักล้างได้สะดวก: สามารถเก็บน้ำยาซักผ้า ผงซักผ้า ไม้แขวนเสื้อ และของใช้ซักล้างอื่น ๆ ไว้ในห้องเดียวกัน
• ป้องกันแสงแดดและฝน: เครื่องซักผ้าไม่เสื่อมสภาพเร็ว สีไม่ซีด ชิ้นส่วนไม่เสียหาย

ข้อจำกัด : 

• พื้นที่จำกัด: ห้องซักล้างมักมีขนาดเล็ก อาจทำให้วางเครื่องซักผ้าได้ลำบาก
• ความชื้นสูง: อาจทำให้เครื่องซักผ้าขึ้นสนิม ชิ้นส่วนบางส่วนเสียหาย
• เสียงรบกวน: เสียงรบกวนจากเครื่องซักผ้าอาจดังไปรบกวนผู้อื่น

การวางเครื่องซักผ้าที่ใต้เคาน์เตอร์

การวางเครื่องซักผ้าที่ใต้เคาน์เตอร์ เหมาะสำหรับเครื่องซักผ้าขนาดเล็ก เพราะเหมาะกับบริเวณที่มีพื้นที่จำกัด มีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อจำกัดที่ต้องพิจารณาเช่นกัน

ข้อดี : 

• ประหยัดพื้นที่: เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่จำกัด หรือต้องการใช้พื้นที่บริเวณอื่นทำกิจกรรมอื่น ๆ
• เป็นระเบียบเรียบร้อย: ช่วยให้ห้องครัวหรือห้องน้ำดูเป็นระเบียบ กลมกลืนไปกับเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ
• สะดวกต่อการใช้งาน: อยู่ใกล้กับอ่างล้างจาน หยิบผ้าไปซัก เติมน้ำยาซักผ้า และทำความสะอาดได้สะดวก

ข้อจำกัด : 

• อากาศถ่ายเทไม่สะดวก: อาจทำให้เครื่องซักผ้าขึ้นสนิม ชิ้นส่วนบางส่วนเสียหาย
• ก้มตัวหยิบของ: อาจทำให้ปวดหลัง หรือไม่สะดวกสำหรับผู้สูงอายุ
• พื้นที่จำกัด: อาจทำให้วางเครื่องซักผ้าได้ลำบาก และหยิบของเข้า-ออกยาก
• ราคาเคาน์เตอร์สูง: เคาน์เตอร์ที่ออกแบบมาสำหรับวางเครื่องซักผ้าใต้เคาน์เตอร์ มักจะมีราคาสูง

การดูแลเครื่องซักผ้า มีวิธีถนอมเครื่องอย่างไร

การใช้เครื่องซักผ้าต้องมีการดูแลรักษา เพื่อให้เครื่องซักอบผ้าสามารถใช้งานได้นานขึ้น ซักผ้าได้สะอาด   และไม่มีเสียงดัง  วิธีดูแลเครื่องซักผ้าให้ถูกวิธีเช่น

• ทำความสะอาดเครื่องซักผ้าเป็นประจำ ได้แก่

1. ล้างถังซักผ้าอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งล้างถังซักของเครื่องซักผ้า โดยผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำเปล่า เทลงในถังซัก แช่ทิ้งไว้ 30 นาที แล้วกดซักตามปกติ เพื่อขจัดคราบสกปรก แบคทีเรีย และกลิ่นอับ
2. ทำความสะอาดช่องใส่ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่ม โดยถอดช่องใส่ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มออกมาล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่า หรือน้ำยาล้างจาน อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้อุดตัน
3. เช็ดตัวเครื่องซักผ้า โดยใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดตัวเครื่องซักผ้าหลังใช้งาน เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นเกาะ และเช็ดคราบน้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม หรือคราบสกปรกอื่น ๆ

• เลือกใช้ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มที่เหมาะสม ได้แก่

1. เลือกใช้ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรที่เหมาะกับประเภทของผ้า หลีกเลี่ยงการใช้ผงซักฟอกชนิดเข้มข้น หรือน้ำยาปรับผ้านุ่มมากเกินไป เพราะอาจทำให้เครื่องซักผ้าอุดตัน หรือชิ้นส่วนภายในเครื่องซักผ้าเสื่อมสภาพ
2. เทผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มลงในช่องที่กำหนด ไม่ควรเทลงในถังซักโดยตรง

• ซักผ้าในปริมาณที่เหมาะสม ได้แก่

1. ไม่ควรซักผ้าแน่นจนเกินไป เพราะอาจทำให้เครื่องซักผ้าทำงานหนัก ผ้าไม่สะอาด และเสียงดัง ควรใส่ผ้าประมาณ 70-80% ของความจุถังซัก
2. เลือกวิธีซักผ้าที่เหมาะสมกับประเภทของผ้า และปริมาณผ้า

• ตรวจสอบเครื่องซักผ้าอยู่เสมอ ได้แก่

1. ตรวจสอบสายไฟ ปลั๊กไฟ และท่อน้ำว่าไม่มีรอยรั่ว หรือชำรุด
2. ตรวจสอบเสียงของเครื่องซักผ้าว่ามีเสียงดังผิดปกติหรือไม่
3. ตรวจสอบการทำงานของเครื่องซักผ้าว่าทำงานปกติหรือไม่

• เรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจเช็กเครื่องซักผ้าเป็นประจำ โดยควรเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจเช็กเครื่องซักผ้าอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อตรวจสอบสภาพเครื่องซักผ้า ทำความสะอาดชิ้นส่วนภายใน และเปลี่ยนอะไหล่ที่ชำรุด

สรุปเกี่ยวกับเครื่องซักผ้า 

การใช้เครื่องซักผ้าต้องหาตำแหน่งในการวางให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น เครื่องซักผ้าเล็กก็จะใช้พื้นที่น้อย โดยต้องคำนึงถึงความสะดวกสบายและส่งผลกระทบต่อตัวเครื่องซักผ้าน้อยที่สุด รวมถึงต้องหาวิธีถนอมเครื่องซักผ้าให้สามารถใช้งานได้ยาวนานที่สุด