หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ภาพเก่าหาดูยาก : ครั่งหนี่ง มนุษย์เราเคยฝึกนกกระจอกเทศ ให้ทำการลากรถได้เหมือน ม้า และ ลาด้วยเน่อ

โพสท์โดย dukedicknarak

การเทียมนกกระจอกเทศกับรถ เคยเป็นวิธีการขนส่งที่ได้รับความนิยมในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 สาเหตุหลักๆ มาจาก 3 ประการดังนี้

1. ความเร็วและความทนทาน :

        นกกระจอกเทศมีขาที่ยาวและแข็งแรง วิ่งได้เร็ว ทนทานต่อสภาพอากาศร้อน และสามารถวิ่งได้ระยะทางไกลโดยไม่ต้องพัก เหมาะสำหรับการขนส่งผู้โดยสารหรือสินค้าไปยังที่ต่างๆได้อย่างสบาย ( แต่ต้องเป็นนกกระจอกเทศ ที่ได้รับการฝึกฝนมานานพอสมควรด้วยเด้อ ไม่งั้นมีลงข้างทางได้ง่ายๆเลยล่ะขอบอก ) 

2. ความแปลกใหม่และน่าตื่นตาตื่นใจ :

        การเทียมนกกระจอกเทศกับรถ เป็นสิ่งที่แปลกใหม่และน่าตื่นตาตื่นใจในสมัยนั้น ดึงดูดความสนใจจากผู้คน สร้างความประทับใจ และเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหรา และเป็นที่นิยมตามฟาร์ม หรือ สวนสัตว์ เพื่อเป็นจุดดึงดูดผู้คน ให้มาเยี่ยมเยียน ใช้บริการ หรือ ใช้งานในฟาร์ม

3. ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในสมัยนั้นยังมีราคาสูงมากในขณะนั้น :

        ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เทคโนโลยีเครื่องยนต์เริ่มพัฒนา แต่รถยนต์ยังมีราคาแพงและใช้งานยากมากๆ กว่าจะติดเครื่องทีอย่างลำบาก ศูนย์บริการ หรือจุดเติมน้ำมันก็ยังน้อย ดังนั้ันการเทียมนกกระจอกเทศกับรถ หรือสัตว์อื่นๆเช่น ม้า หรือ ลา จึงเป็นทางเลือกที่ประหยัดและใช้งานง่ายกว่าในสถานที่ๆมีเป็นอาณาเขตในบ้าน หรือ ในสวน

         ต่อมาการเทียมนกกระจอกเทศกับรถ จึงค่อยๆ เสื่อมความนิยมลง เมื่อรถยนต์มีราคาถูกลง ใช้งานง่ายขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น มนุษย์เราก็ไม่ต้องมานั่งฝึกนกกระจอกเทศให้เอามาใช้งานในด้านนี้อีกต่อไป 

        และในปัจจุบัน การเทียมนกกระจอกเทศกับรถ แทบจะไม่มีให้เห็นแล้ว คงเหลือไว้เพียงภาพถ่ายและเรื่องราวในอดีต เป็นการเตือนความทรงจำถึงยุคสมัยที่ผู้คนใช้สัตว์ในการขนส่ง ก่อนที่จะถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยอย่างที่เห็นในทุกวันนี้นี่เอง อย่าว่าแต่ นกกระจอกเทศเลย รถที่ใช้น้ำมัน ก็กำลังจะถูกทดแทนด้วยรถที่เป็นรถในระบบไฟฟ้าในอีกไม่นานปีหลังจากนี้แล้วเด้อ

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
dukedicknarak's profile


โพสท์โดย: dukedicknarak
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชนทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำรู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่จรวดจีนฟัดจรวดจีน เปิดคลังอาวุธลับสมรภูมิสระแก้ว เมื่อไทย-เขมรต่างงัดไม้เด็ด "สายเลือดมังกร" มาดวลกันวิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569เขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?"จะว่าไปแล้ว "น้ำผึ้ง" นั้นคือ อุจจาระของผึ้งหรือไม่ ?เขมรเสี่ยงเอารถขนยุทโธปกรณ์มาเติมที่เขาพระวิหารสุดท้าย ถูกไทยยิงทำลายอย่างง่ายดายชาวเขมร" ให้อภัยชาวไทย กลับมารักกันเหมือนเดิม หลังเกิดการปะทะ กันตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาเพจดัง แชร์ข้อความเตือนกันจอมพลัง กรณีไม่ให้เกียรติ บุคคลที่เสียชีวิตในสงคราม สุดท้าย โดนกันจอมพลังบล็อกคลิปทหารกัมพูชาละทิ้งฐานในแนวหน้าที่แนวรบพระวิหาร พยายามหลบหนีอย่างทุลักทุเล
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เขมรเสี่ยงเอารถขนยุทโธปกรณ์มาเติมที่เขาพระวิหารสุดท้าย ถูกไทยยิงทำลายอย่างง่ายดายองค์กรช่วยเหลือระหว่างประเทศ เรียกร้องให้ไทยหยุดยิงทันที!!จะว่าไปแล้ว "น้ำผึ้ง" นั้นคือ อุจจาระของผึ้งหรือไม่ ?🦁🔥 ระอุจนถึงไพรม์! เสือโคร่ง vs สิงโต — ใครคือ “ราชาแห่งราชา” ในสังเวียนตัวต่อตัว?มาดู “อดีตไอดอล” ที่พิสูจน์ว่า 40 ยังแจ๋ว — เซรินะ อดีต SDN48 กับการคัมแบ็กสายกราเวียร์
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
ทึ่งทั่วโลก : "ทะเลสาบเพโท" ทะเลสาบสีฟ้าเทอร์ควอยซ์แสนสดใสที่มองจากมุมสูงแล้วมีรูปร่างเหมือน "หัวสุนัขจิ้งจอก" ด้วยน๊าจะว่าไปแล้ว "น้ำผึ้ง" นั้นคือ อุจจาระของผึ้งหรือไม่ ?ทึ่งทั่วไทย : "สะพานท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย" (Bali Hai Pier) ในยามค่ำคืนเตือนแล้วนะ! 3 ผลไม้ที่ "เซลล์มะเร็ง" โปรดปราน หมอยังไม่กล้าแตะ แต่หลายคนกินทุกวันโดยไม่รู้ตัว
ตั้งกระทู้ใหม่