ภาพเก่าหาดูยาก : ครั่งหนี่ง มนุษย์เราเคยฝึกนกกระจอกเทศ ให้ทำการลากรถได้เหมือน ม้า และ ลาด้วยเน่อ
การเทียมนกกระจอกเทศกับรถ เคยเป็นวิธีการขนส่งที่ได้รับความนิยมในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 สาเหตุหลักๆ มาจาก 3 ประการดังนี้
1. ความเร็วและความทนทาน :
นกกระจอกเทศมีขาที่ยาวและแข็งแรง วิ่งได้เร็ว ทนทานต่อสภาพอากาศร้อน และสามารถวิ่งได้ระยะทางไกลโดยไม่ต้องพัก เหมาะสำหรับการขนส่งผู้โดยสารหรือสินค้าไปยังที่ต่างๆได้อย่างสบาย ( แต่ต้องเป็นนกกระจอกเทศ ที่ได้รับการฝึกฝนมานานพอสมควรด้วยเด้อ ไม่งั้นมีลงข้างทางได้ง่ายๆเลยล่ะขอบอก )
2. ความแปลกใหม่และน่าตื่นตาตื่นใจ :
การเทียมนกกระจอกเทศกับรถ เป็นสิ่งที่แปลกใหม่และน่าตื่นตาตื่นใจในสมัยนั้น ดึงดูดความสนใจจากผู้คน สร้างความประทับใจ และเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหรา และเป็นที่นิยมตามฟาร์ม หรือ สวนสัตว์ เพื่อเป็นจุดดึงดูดผู้คน ให้มาเยี่ยมเยียน ใช้บริการ หรือ ใช้งานในฟาร์ม
3. ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในสมัยนั้นยังมีราคาสูงมากในขณะนั้น :
ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เทคโนโลยีเครื่องยนต์เริ่มพัฒนา แต่รถยนต์ยังมีราคาแพงและใช้งานยากมากๆ กว่าจะติดเครื่องทีอย่างลำบาก ศูนย์บริการ หรือจุดเติมน้ำมันก็ยังน้อย ดังนั้ันการเทียมนกกระจอกเทศกับรถ หรือสัตว์อื่นๆเช่น ม้า หรือ ลา จึงเป็นทางเลือกที่ประหยัดและใช้งานง่ายกว่าในสถานที่ๆมีเป็นอาณาเขตในบ้าน หรือ ในสวน
ต่อมาการเทียมนกกระจอกเทศกับรถ จึงค่อยๆ เสื่อมความนิยมลง เมื่อรถยนต์มีราคาถูกลง ใช้งานง่ายขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น มนุษย์เราก็ไม่ต้องมานั่งฝึกนกกระจอกเทศให้เอามาใช้งานในด้านนี้อีกต่อไป
และในปัจจุบัน การเทียมนกกระจอกเทศกับรถ แทบจะไม่มีให้เห็นแล้ว คงเหลือไว้เพียงภาพถ่ายและเรื่องราวในอดีต เป็นการเตือนความทรงจำถึงยุคสมัยที่ผู้คนใช้สัตว์ในการขนส่ง ก่อนที่จะถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยอย่างที่เห็นในทุกวันนี้นี่เอง อย่าว่าแต่ นกกระจอกเทศเลย รถที่ใช้น้ำมัน ก็กำลังจะถูกทดแทนด้วยรถที่เป็นรถในระบบไฟฟ้าในอีกไม่นานปีหลังจากนี้แล้วเด้อ