ลองสมมุติตัวเองเป็น “เทียนไข” สักเล่มหนึ่ง
เทียนไข
มอดไหม้แม้กระทั่งตัวมันเอง
แต่กระนั้นก็เถอะ
แสงสว่างของมัน
ก็ยังได้เป็น
แสงสว่างให้แก่ผู้คน
ก่อนที่
มันจะมอดไหม้ลง
ในมุมมองของผู้เขียน ชีวิตของคนเรา... ไม่ต่างอะไรกับ “เทียนไข” นะคะ เพื่อนๆ ลองหลับตานึกภาพตามค่ะว่า เทียนไขเล่มหนึ่ง ถูกจุดไส้เทียนเป็นเปลวไฟขึ้นมา เพื่อเป็นแสงสว่างให้กับใครบางคนในวันที่มืดมิด เมื่อมันถูกจุดขึ้นมาแล้ว เปลวไฟก็จะลามเลียไส้เทียนไปเรื่อยๆ ตลอดค่ำคืนนั้น จนไม่มีไส้เทียนให้หลอมละลายอีกต่อไป และดับลงในที่สุด....
ในช่วงชีวิตของเราแต่ละคน มีทั้งทกข์ สุข เศร้า เสียใจ ดีใจ ผิดหวัง สมหวัง แพ้ ชนะ ฯลฯ ล้วนเป็นความรู้สึกที่เราเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง เป็นศูนย์กลางของอารมณ์ ความรู้สึกเหล่านั้น ซึ่งก็คงเป็นเรื่องปกติ ธรรมดาของชีวิตทุกคนนะคะ
ผู้เขียนยังคงคิดถึง “เทียนไข” เล่มนั้น... ความคิดส่วนตัวยังคงวนเวียนอยู่ว่า เป็นไปได้มั้ยว่า เราจะดำเนินชีวิตที่เหลืออยู่อย่าง “เทียนไข” โดยมองออกไปยังผู้คนรอบข้าง ที่เขาอาจต้องการความสว่างจาก “เทียนไข” และเรานำความสว่างที่เราพอมีอยู่บ้าง เพื่อส่องแสงให้กับผู้คนเหล่านั้น
ชีวิตของเรา ยังไงซะก็คงหนีไม่พ้นที่จะ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป และสิ่งสำคัญที่สุดของชีวิตคือการ “ตั้งอยู่” ค่ะ เราจะ “ตั้งอยู่” ใช้ชีวิตอย่างไร? ให้ “ตั้งอยู่” อย่างมีความหมาย มีคุณค่าเฉกเช่น “เทียนไข” เล่มนั้น มีใครเคยคิดบ้างมั้ยคะ
ผู้เขียนอยากให้เพื่อนๆ ได้ลองทำสิ่งเหล่านี้แค่เพียง “สักครั้ง” ในช่วงชีวิตของเราค่ะ
***ให้เศษเงินในกระเป๋าสตางค์ของเราแก่ชายชราตาบอด คนพิการแขนหรือขาไม่มี ที่ร้องเพลง เล่นหีบเพลงหน้าตลาดนัดที่เราเดินซื้อของอยู่สัก 20 บาท
***เลี้ยงอาหารกลางวัน ซื้อขนมกรุบกรอบ ในวันเกิดปีนี้ของเราไปให้แก่เด็กๆ ตามวัด มูลนิธิ สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า เด็กพิการแต่กำเนิดสัก 1 มื้อ
***บริจาคเงินช่วยเหลือตามหมายเลขบัญชีในหน้าทีวีสัก 100 – 200 บาท ให้กับผู้ประสบภัยธรรมชาติ น้ำท่วม แผ่นดินไหว
***ซื้อข้าว ซื้อน้ำให้กับคนเร่ร่อนตามท้องถนนที่เราพบเห็น ให้เขาหรือเธอได้กินอิ่มสักมื้อ คงใช้เงินไม่เกิน 100 บาท
***ลองบริจาคเลือดให้กับสภากาชาดไทยดูสักครั้งนะคะ
***จูงมือคนแก่ คนตาบอดข้ามถนน เพราะเขาคงขึ้นสะพานลอยอย่างเราไม่ได้ค่ะ
***ชอบไว้ผมยาว สลวยสวยเก๋ วันดีคืนดี ลองเปลี่ยน look ตัดผมสั้นแล้วนำไปบริจาคเพื่อทำวิกผมให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็ง
***รับฟังปัญหาชีวิต ปัญหาการทำงาน ปัญหาครอบครัวของพนักงาน เพื่อนร่วมงาน ให้คำแนะ ช่วยเหลือตามสมควร
***เป็นอาสาสมัครเก็บขยะชายทะเล ปลูกต้นไม้
***แบ่งปันสิ่งของเหลือใช้ ซื้อมาแล้วไม่ถูกใจ ไม่ตรงปก ซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้ ของแถมจากสินค้าที่เราซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้ สิ่งของจำเป็นที่มีมากกว่าหนึ่ง แบ่งให้กับแม่บ้าน รปภ.ในที่ทำงาน
ฯลฯ
ลองเปิดใจตัวเองทำสิ่งเหล่านี้ดูสักครั้งหนึ่งในชีวิตนะคะ ผู้เขียนอยากบอกว่า เพื่อนๆ จะรู้สึก “ใจฟู” ขึ้นมาทีเดียวค่ะ เป็นการ “ให้” โดยเราไม่คำนึงถึงอารมณ์ความรู้สึกของเรา ไม่เอาตัวเราเองเป็นศูนย์กลาง ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน ลองทำตัวเองให้เป็นเหมือน “เทียนไข” สักเล่มหนึ่ง ที่ส่องแสงสว่างให้แก้ผู้คน ในเวลาของชีวิตที่ยังเหลืออยู่ ผู้เขียนเชื่อค่ะว่า เพื่อนๆ จะมองย้อนกลับไปในชีวิตที่ผ่านมา และถามตัวเองว่า ทำไมเราถึงไม่เป็น “เทียนไข” เล่มนั้น ในวัน... เวลา... ที่ผ่านมาแล้วนะ
ผู้เขียนเชื่อเหลือเกินค่ะว่า เพื่อนๆ ที่กำลังอ่านบทความของผู้เขียนอยู่ในขณะนี้ หลายคนอาจกำลังรู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตจัง บางคนอาจกำลังถามตัวเองว่าเรามีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไรกัน หลายคนอาจกำลังมองหาตัวเอง มองหาสิ่งที่ใช่ มองหาแนวทางในการดำเนินชีวิต ใช้ชีวิตให้มีคุณค่าสำหรับตัวเอง ในขณะเดียวกัน... เราก็สามารถ ใช้ชีวิต...อย่างไร? ให้ไปต่อได้.... โดยมีคุณค่าให้กับคนรอบข้างในสังคมที่เขามีโอกาสน้อย หรือไม่มีโอกาสที่จะไปต่อกับชีวิตในขณะนั้น ให้เขา.... เธอ... ได้มีแสงสว่างให้เขาได้ใช้ชีวิตไปต่อได้ แม้จะเป็นเพียงแสงสว่างที่ริบหรี่เพียงน้อยนิด....
เพื่อนๆ ที่ชื่นชอบ ใช้ชีวิต...อย่างไร? ให้ไปต่อได้.... หากเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ ฝากแชร์ให้กับผู้ที่ต้องการแรงบันดาลใจ กำลังใจด้วยนะคะ โดยติดตามและมีส่วนร่วมกับผู้เขียนตามลิ้งค์บอร์ดนี้ได้เลยค่ะ
https://board.postjung.com/board-4306