“สิ่งที่เสียไป” กับ “สิ่งที่ได้มา” สิ่งไหนสำคัญกว่ากัน?
ในชีวิตคนเรานั้น
การเสียไป
สำคัญกว่าการได้มา
เราจะต้องมีชีวิตอยู่
อย่างไม่เบื่อหน่าย
มองไปข้างหน้า
และ
นำสิ่งที่สะสมไว้ในชีวิตออกมาใช้
ซึ่งใช่แต่เพียงความจำเท่านั้น
ที่จะทำให้เราผ่านอะไรๆ ในชีวิตไปได้
แม้แต่การลืมก็ช่วยเราได้
คนเรามักจะโฟกัสที่ “สิ่งที่เสียไป” มากกว่า “สิ่งที่ได้มา” ใครเห็นด้วยกับผู้เขียนบ้างคะ?
จริงอยู่นะ เวลาเราได้อะไรมาใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นคนรัก สิ่งของ เสื้อผ้า บ้าน รถ หมา แมว ฯลฯ ตอนได้มาเราก็กระดี๊กระด๊า ทั้งอวด ทั้งอวย แบบว่า เห่อของใหม่ไปอยู่พักหนึ่ง บางคนพักเล็ก บางคนพักใหญ่
แต่ลองนึกย้อนไป หรือสังเกตตัวเองดูสิคะว่า เวลาที่เราต้องสูญเสียสิ่งเหล่านี้ไป ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม เรามักจะคร่ำครวญกับสิ่งที่เสียไปนี้อยู่เป็นเวลานานกว่าตอนดีใจที่เราได้มา
แล้วก็อยากให้ลองนึกย้อนกลับไปอีกค่ะว่า กว่าจะได้มานั้น เราต้องแลกกับอะไรมาบ้าง หนักหนาสาหัสแค่ไหน
***กว่าจะได้คนรัก ได้คนถูกใจ นี่ไงใช่แล้วมาเป็นคู่กัน ต้องฝ่าฟันหนุ่ม สาวที่มารุมตอม ต้องฝ่าด่านพ่อแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง กว่าคนเหล่านี้จะยอมรับ แต่พอฝ่าด่านอรหันต์มาได้ เรารู้สึกว่าชนะแล้ว ได้มาครอบครองแล้ว ก็ชิวๆ ไป ไม่ค่อยเอาอกเอาใจ เช้าถึง เย็นถึงเหมือนก่อน แต่พอถึงวันที่ต้องเลิกรากันไป เราก็คร่ำครวญ เสียดาย และโทษสารพัดเหตุผล ยกเว้นตัวเอง.....
***ได้เสื้อผ้าแบรนด์ดังที่อยากได้มานาน อุตส่าห์เก็บหอมรอมริบ ประหยัดแทบตาย อดออมเอา พอได้มาก็ภูมิใจ ได้โอ้อวด เพื่อให้คนอื่นรู้ว่า ฉันก็มี แล้วพอได้สิ่งที่ใหม่กว่า ก็แขวนเก็บไว้ในซอกในหลืบในสุดๆ จนหลงลืม เพราะมัวเห่อกับของใหม่ แต่พอวันใดวันหนึ่งพบว่ามัน “หายไป” ทีนี้ล่ะ หาให้ควั่ก ถามคนโน้นคนนี้ไปทั่ว
***ซื้อรถป้ายแดงมาได้ 1 คัน โห! เก็บเงินอยู่นานกว่าจะได้เงินดาวน์ บางคนก็เก็บนานกว่านั้น เพื่อซื้อเงินสดเพราะไม่อยากเป็นหนี้ ได้มาก็ดีใจ แทบจะอาบน้ำให้รถทุกวัน ใครอย่าได้มาเดินเฉียดรถฉันเชียว กลัวสีจะถลอก
ผู้เขียนอยากบอกค่ะว่า ไม่ว่าอะไรที่เราได้มาด้วยความยากลำบากแล้วนั้น พึงเก็บรักษา ทนุถนอมเอาไว้ให้ดี และใช้มันให้คุ้มค่ากับการรอคอยเพื่อที่จะได้มา
ทำไมต้องทนุถนอมและใช้ให้คุ้มค่า? เพราะทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ ฯลฯ ล้วนมีกาลเวลาของมันทั้งสิ้น ถ้าได้มาแล้ว มัวแต่ทนุถนอม แต่ไม่ใช้ให้คุ้มค่า เมื่อถึงเวลา สิ่งเหล่านั้นก็ต้องเสื่อมสลาย หากเราทนุถนอมและใช้มันให้คุ้มค่าด้วยแล้ว เราจะไม่เสียดายที่มันต้องจากเราไปในวันใด วันหนึ่งข้างหน้า ด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม
ส่วนตัวผู้เขียนชอบเสื้อมีฮู๊ดมากค่ะ สมัยวัยรุ่น มีเรื่องให้ต้องคิดเยอะ เลยไม่มีโอกาสมี ไม่มีโอกาสได้ในสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบเป็นการส่วนตัว พอตอนนี้ เห็นเป็นซื้อเลยค่ะ แล้วคนเราจะใส่เสื้อกันได้ครั้งละกี่ตัวกันคะ ก็ได้แค่ครั้งละตัวเดียว 5555 แล้วที่เห็นเป็นซื้อ บางตัวใส่แค่ 2-3 ครั้ง แล้วก็แขวนไว้ในสุดของตู้เสื้อผ้า เห็นที่ชอบก็ซื้อใหม่อีก ตัวนี้ก็ทะนุถนอมไว้ แต่ถือว่าใช้ได้ไม่คุ้มค่ากับความอยากได้มา เพราะมีของใหม่ๆ แบบใหม่ๆ ล่อตา ล่อใจเราตลอด พอนึกขึ้นได้อยากจะใส่ขึ้นมา หาเท่าไรก็ไม่เจอ โทษคนโน้น คนนี้ อันนี้เป็นวิถี... ที่ไม่ควรปฏิบัตินะคะ
ดังนั้น สิ่งที่เราได้มา หากเราทะนุถนอม และใช้อย่างคุ้มค่ากับสิ่งนั้นๆ แล้ว เมื่อสิ่งเหล่านั้นต้องจากเราไปตามกาลเวลา มันก็จะเป็นความทรงจำดีๆ ที่เราได้มา ได้มี ในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต
เพื่อนๆ ที่ชื่นชอบ ใช้ชีวิต...อย่างไร? ให้ไปต่อได้.... หากเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ ฝากแชร์ให้กับผู้ที่ต้องการแรงบันดาลใจ กำลังใจด้วยนะคะ โดยติดตามและมีส่วนร่วมกับผู้เขียนตามลิ้งค์บอร์ดนี้ได้เลยค่ะ
https://board.postjung.com/board-4306