มีชายหัวใจหยุดเต้น เหตุดื่มน้ำอัดลมมากเกินไป..หมอพยายามช่วยยื้อชีวิต
มีชายหัวใจหยุดเต้น เหตุดื่มน้ำอัดลมมากเกินไป..หมอพยายามช่วยยื้อชีวิต ทั้งนี้ก็พบต้นตอสุดช็อก เมื่อเขาดื่มน้ำอัดลมมากถึง 8 ขวด รวมปริมาณ 2 ลิตร
ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 พ.ค.67 ที่ผ่านมา ทางสื่อเว็ปไซต์ Hk01 ของจีน ก็ออกมานำเสนอเรื่องราวของผู้ป่วยชายรายหนึ่ง ในเมืองฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน ของประเทศจีน ที่ได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คนเป็นจำนวนมาก หลังจากที่เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นจนแทบจะยื้อชีวิตกลับมาไม่ได้ จนต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล เพื่อเข้ารับการรักษาที่แผนกฉุกเฉินโดยด่วน ก่อนที่ทางแพทย์จะมาค้นพบสาเหตุที่น่าตกใจว่า ทั้งนี้เกิดจากการดื่มน้ำอัดลมมากเกินไป
โดยชายรายนี้ชื่อว่า "หวัง" (นามสมมติ) เขาเริ่มรู้สึกอ่อนแรงจนเดินไม่ได้ ทำเอาครอบครัวตกใจจึงต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที หลังแพทย์ตรวจร่างกายแล้วพบว่า ระดับความเข้มข้นของโพแทสเซียมในเลือดอยู่ที่เพียง 1.93 มิลลิอิควิวาเลนต์ต่อลิตร (mEq/L) จากปกติที่ 3.5-5.5 mEq/L ซึ่งก็ถือว่าต่ำมากเข้าขั้นวิกฤต จนอาจจะทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ และเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นได้ ดังนั้นทางทีมแพทย์จึงจำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจเพื่อช่วยกู้ชีพ ก่อนที่สัญญาณชีพของเขาจะกลับมา จากนั้นก็ได้รักษาด้วยการใช้ยาเพิ่มระดับโพแทสเซียมในเลือดแก่ผู้ป่วย จนในที่สุดเขาก็พ้นขีดอันตราย และภายหลังจากที่ร่างกายฟื้นตัวกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เขาก็ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้
อย่างไรก็ตาม ทางแพทย์ได้เผยข้อมูลว่า จากการซักประวัติกับทางผู้ป่วย พบว่าก่อนวันเกิดเหตุ เขาได้ดื่มน้ำอัดลมโคล่า ขวดละ 250 มิลลิลิตร ไปทั้งหมด 8 ขวด รวมๆ แล้วก็เป็นปริมาณ 2 ลิตร ซึ่งในน้ำอัดลมดังกล่าวนั้น ก็มีทั้งคาร์บอเนต น้ำตาล คาเฟอีน และส่วนผสมอื่น ๆ และเมื่อได้บริโภคเข้าไปในปริมาณมากจนเกินไป ก็จะทำให้ร่างกายสูญเสียแร่ธาตุที่จำเป็น และเสี่ยงที่จะเกิดภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำได้
ทั้งนี้ทางแพทย์ก็ได้เตือนด้วยว่า โพแทสเซียมเป็นธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายมนุษย์ และมีความสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาระบบการเผาผลาญของเซลล์ ทั้งยังควบคุมความดันออสโมติก (Osmotic Pressure) และความสมดุลของกรด-เบส โดยภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำไม่เพียงแต่จะทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ และกล้ามเนื้ออ่อนแรงได้ แต่ยังทำให้เกิดความผิดปกติที่ไต และการกักเก็บปัสสาวะ รวมถึงการทำงานของระบบทางเดินอาหารเป็นอัมพาต และในกรณีที่ร้ายแรงก็อาจจะถึงแก่ชีวิตได้