ชุดหยกห่อศพ พิธีกรรมตามความเชื่อของคนจีน ดูๆไปแล้วก็เหมือนกับมัมมี่ของอียิปต์เหมือนกันนะเนี่ยหนอ
ชุดหยกที่ทำด้วยมือจากราชวงศ์ฮั่นเป็นชุดพิธีที่มีความสำคัญในวัฒนธรรมจีน ชาวจีนเริ่มหลงใหลในหยกตั้งแต่ 6,000 ปีก่อนคริสตกาลในช่วงยุคหินใหม่ โดยผลิตเครื่องมือหรืออาวุธเกี่ยวกับพิธีกรรมและเครื่องประดับเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจทางการเมืองและอำนาจทางศาสนา หยกยังมีแหล่งที่มาในพื้นที่ของจังหวัดเหลียวหนิงในมองโกเลีย และในวัตถุต่าง ๆ มีความเกี่ยวข้องกับความคิดของจีนเกี่ยวกับจิตวิญญาณ คุณสมบัติในการปกป้อง และความอมตะใน ‘แก่นแท้’ ของหิน (yu zhi, shi zhi jing ye)
หยกยังมีความสำคัญในพิธีฝังศพ โดยชาวจีนมักจะนำหยกที่แกะสลักมาวางไว้ด้านหลังศพ ส่วนบนท้องศพจะวางหยกรูปสี่เหลี่ยมซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโลก เพื่อให้สวรรค์หนุนหลัง ซึ่งความเชื่อเกี่ยวกับหยกก็ยังคงมีความสำคัญในวัฒนธรรมจีนมาจนถึงในปัจจุบัน
ความเชื่อมโยงกับอายุขัยของหยกนั้นชัดเจนจากข้อความของนักประวัติศาสตร์ชาวจีนชื่อ Sima Qian (145 – 86 ปีก่อนคริสตกาล) เกี่ยวกับจักรพรรดิหวู่แห่งฮั่น (157 ปีก่อนคริสตกาล –87 ปีก่อนคริสตกาล) ซึ่งอธิบายว่ามีถ้วยหยกที่จารึกคำว่า “ชีวิตยืนยาว” และปรนเปรอตัวเองด้วยยาอายุวัฒนะของผงหยกผสมกับน้ำค้างหวาน
ผู้ปกครองของราชวงศ์ฮั่นในยุคแรกเชื่อว่าหยกจะรักษาร่างกายและวิญญาณที่ติดอยู่กับมันเมื่อถึงแก่ความตาย โดยพบการฝังศพต่างๆ ด้วยแผ่นหยกขนาดใหญ่และขนาดเล็กที่วางไว้รอบ ๆ ผู้ตาย
สิ่งนี้พัฒนาไปสู่การปฏิบัติในการฝังในชุดฝังศพหยก ห่อหุ้มผู้ตายด้วยหยกขัดเงาและเจียระไนจำนวนหลายพันชิ้นที่เย็บเข้าด้วยกันด้วยด้าย โดยเชื่อว่าชุดดังกล่าวทำให้มั่นใจได้ว่าร่างกายจะยังคงเป็นอมตะ คาดว่าต้องใช้ช่างฝีมือหลายร้อยคนมากกว่า 10 ปีในการขัดแผ่นหยกที่จำเป็นสำหรับชุดเดียว
ตามหนังสือ Hòu Hànshū (หนังสือแห่งราชวงศ์ฮั่นภายหลัง) ได้เล่าถึงการห่อศพประเภทนี้เอาไว้ว่า ประเภทของวัสดุที่ใช้ขึ้นอยู่กับสถานะ ชุดหยกของจักรพรรดิ์จะเย็บติดกันด้วยทองคำ ในขณะที่เชื้อพระวงศ์และขุนนางชั้นสูงจะเย็บด้วยเงิน บุตรและธิดาใช้ทองแดง และขุนนางชั้นต่ำสวมผ้าไหม
ซึ่งเป็นที่เชื่อกันว่าการปฏิบัติตามพิธีกรรมนี้ ต่อมานั้นได้ยุติลงในรัชสมัยของจักรพรรดิองค์แรกแห่งรัฐเว่ยในสมัยสามก๊ก (ค.ศ. 220-280) เพราะเกรงว่าโจรจะเผาชุดเพื่อเอาด้ายทองหรือเงินนั่นเอง
การกล่าวถึงการฝังชุดหยกในข้อความทางประวัติศาสตร์เป็นที่สงสัยว่าเป็นเพียงตำนาน จนกระทั่งมีการค้นพบชุดหยกที่สมบูรณ์สองชุดในสุสานของเจ้าชายหลิวเฉิงและเจ้าหญิง Dou Wan (ภริยา)ในหม่านเฉิง เหอเป่ย ในปี 1968 และในปัจจุบันก็ได้มีการนำชุดที่ขุดพบได้มาแสดงดังที่เราเห็นอยู่นี่แหล่ะเด้อครับเด้อ