พาไปไหว้ คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม
คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม
เทวดาเดินดิน ผู้บรรลุญาน ๔ อภิญญา ๖
เมื่อวันหยุดที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปกราบไหว้ "คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม" ที่วัดอาวุธวิกสิตาราม มาครับ เลยอยากนำประวัติของคุณแม่มาให้ได้อ่านกัน
คุณแม่บุญเรือนเกิดที่คลองสามวา อำเภอมีนบุรี ต่อมาบิดามารดาของท่านได้ย้ายมาอยู่บางประกอก อำเภอราษฎร์บูรณะ อยู่ในละแวกบ้านชาวสวนมีฐานะอาชีพเป็นชาวสวน คุณแม่บุญเรือนได้รับการอบรมให้มีความสามารถในการทำหน้าที่แม่บ้านและงานบ้าน จนมีความสามารถทำกับข้าวที่มีรสโอชาหลายอย่าง อาทิ น้ำพริก ท่านปรุงได้อร่อยมาก อาหารไทยพวกต้มและแกงหลายชนิด ท่านทำได้อย่างดี และมีความสามารถในการตัดเย็บเสื้อผ้า สามารถตัดผม และโกนผมของท่านเองโดยไม่ต้องให้คนอื่นช่วย เมื่อมีอายุพอสมควรคุณแม่บุญเรือนได้สมรสกับ ส.ต.ท.จ้อย โตงบุญเติม อยู่กินกันฉันสามีภรรยาตลอดมา โดยส.ต.ท.จ้อย เป็นตำรวจประจำสถานีตำรวจนครบาลสัมพันธวงศ์ แต่ไม่มีบุตรธิดาด้วยกันเลย
คุณแม่บุญเรือนท่านเป็นผู้มีอุปนิสัยเปี่ยมด้วยความเมตตากรุณาปรานีแก่บุคคลที่ได้รู้จักพบเห็น แต่ทว่าท่านก็เป็นคนที่ค่อนข้างดุอยู่บ้างพูดเสียงดังกังวาล เด็ดขาดและจริงจัง คือท่านพูดจริงทำจริงตลอดเวลา ที่สำคัญมีอุปนิสัยชอบการทำบุญ ถือศีลห้าเคร่งครัดภาวนาสวดมนต์ฟังธรรมตั้งแต่เด็ก เมื่อเติบโตท่านได้ศึกษาและปฏิบัติธรรม ทำวิปัสนากรรมฐานฝึกจิตให้เป็นสมาธิแน่วแน่เกิดปัญญาแจ่มแจ้งในธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จนในที่สุดท่านได้ลาสามีออกบวชขณะยังครองชีวิตร่วมกับสามี ด้วยความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ได้ไปพังพระสวดมนต์ฟังธรรมที่วัดสัมพันธวงศ์บ่อยๆ ฝึกสมาธิ วิปัสนากรรมฐาน จนความเริ่มใสมากขึ้นจึงลาสามีออกบวชที่วัดสัมพันธวงศ์ ได้พากเพียรฝึกหัดวิปัสสนากรรมฐานปฏิบัติอยู่ที่ศาลาวัด ด้วยความกล้าหาญ เข้าใจ ปลอดโปร่งในธรรม รักความสงบประกอบการกุศลช่วยกิจกรรมวัด
ระหว่างที่บวชอยู่นี่เอง ด้วยความตั้งใจจริงในการบำเพ็ญปฏิบัติ ว่ากันว่าคุณแม่บุญเรือนได้สำเร็จในจตุตถฌาน หรือฌาน 4 ถือได้ว่าเป็นความสำเร็จในงานบุญประการสำคัญ เป็นบันไดที่สำคัญในการก้าวเข้าไปสู่อภิญญาหกประการ การสำเร็จจตุตถฌานเป็นการฝึกจิตที่ทำได้ยาก แต่คุณแม่บุญเรือนก็ทำได้สำเร็จเรียบร้อย คุณแม่บุญเรือนบรรลุอภิญญาหกมาจากประสบการณ์ของคณะผู้ร่วมบุญกับท่าน และที่มาขอให้รักษาโรคภัยไข้เจ็บ รวมถึงการได้เห็นการกระทำที่เป็นอิทธิปาฏิหาริย์เกิดขึ้นอย่างมากมาย การอธิษฐานให้ต้นมะม่วงต้นเล็กให้ออกช่อภายในคืนเดียว การย่นย่อหนทางยาวให้สั้น ฯลฯ
ด้วยจิตที่มีกำลังเข้มแข็ง อธิษฐานธรรมของคุณแม่บุญเรือน ทำให้เกิดปรากฏการณ์ศักดิ์สิทธิ์หลายครั้ง อาทิ ท่านได้อธิษฐานธรรม ประจุพระพุทธรูป และพระเครื่องสำคัญ การสร้างพระพุทโธองค์ใหญ่ ซึ่งได้ทำพิธีหล่อสร้างที่วัดสัมพันธวงศ์ อัญเชิญไปถวายวัด สารนาถธรรมาราม อำเภอแกลง จังหวัดระยอง การสร้างพระพุทธองค์เล็ก พระเครื่องที่ลือเลื่องของวัดอาวุธวิกสิการาม บางพลัดนอก คุณแม่บุญเรือนได้ร่วมสร้างและทำพิธีอธิษฐานกันยายน 2494 จำนวน 1 แสนองค์ พระนี้ปรากฏว่าได้กลายเป็นพระศักดิ์สิทธิ์ในระยะต่อมาเป็นอันมากทั้งด้านเมตตามหานิยม ป้องกันภัย แคล้วคลาด เจริญโภคสมบัติ กำจัดโรคร้าย การอธิษฐานถุงเขียวเหนี่ยวทรัพย์แล้วไปทำพิธีที่วัดพระพุทธบาทสระบุรี และได้แจกถุงเหนี่ยวทรัพย์ให้ศิษย์ของท่าน
สิ่งที่คุณแม่บุญเรือนอธิษฐานแล้วกลายเป็นของหายากในตำนาน อย่าง ศิลาย้ำ ที่ได้ทำพิธีเก็บศิลาน้ำ เมื่อ 3 มิถุนายน 2499 อธิษฐานให้ศิลาน้ำศักดิ์สิทธิ์ เพื่อป้องกันอันตรายต่าง ๆ การแจกศิลาน้ำ มีคนไปร่วมพิธีราว 400 คน ศิลาน้ำเป็นศิลาศักดิ์สิทธิ์เป็นที่แสวงหาของผู้คนจำนวนมาก คุณแม่บุญเรือนยังได้ทำพิธีชักธงชัยชนะชัยมงคล เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2499 ทำพิธีนางกวัก เมื่อ 13 พฤศจิกายน 2499 คุณแม่ให้ซื้อทัพพีทองเหลืองมาทำเป็นนางกวัก ให้เขียนว่านางกวัก เวลาตักให้จับทัพพีแล้วพูดว่า นางบุญเรือนเข้านิโรธ ให้พวกเราประสบความสำเร็จ นางกวัก กวักเงินกวักทองได้ลาภ ของแจกของท่านได้สร้างตำนานความศักดิ์สิทธิ์อีกมากเช่น เทียนอธิษฐานให้ชีวิตรุ่งโรจน์ทำหนังสือใบโพธิ์อธิษฐานแจกในงาน 25 พุทธศตวรรษ 30,000 เล่ม และพระพุทโธกลาง พระพุทธรูปทองเหลือง หน้ากว้าง 6 นิ้ว
และแล้วก็ถึงกาลที่คุณแม่บุญเรือนจะวางสังขารลง ในปี 2507 คุณแม่บุญเรือนเริ่มมีอาการป่วยของโรคไต หัวใจอ่อน โลหิตจาง และความดันโลหิตสูง ติดต่อกันมาตามลำดับ มีแต่อาการทรงกับทรุด ไม่ยอมรับการรักษาของแพทย์ บรรดาศิษย์ทุกคนได้กราบอ้อนวอนท่านว่า คุณแม่บุญเรือนเคยอธิษฐานธรรมด้วยสัจจะวาจา รักษาโรคร้ายของลูกๆ และคนอื่นให้หายได้ ทำไมจึงไม่อธิษฐานเพื่อตนเองเสียบ้าง ท่านตอบว่าถ้าท่านอธิษฐานเพื่อตนเอง ก็เท่ากับยังอยากมีชีวิตอยู่ อยากมีความสุข อยากพบสิ่งใหม่ๆ บนพื้นพิภพ ล้วนเป็นกิเลส ท่านทำเช่นนั้นไม่ได้ บรรดาศิษย์เมื่อได้ยิน คำพูดของท่านแล้วเต็มไปด้วยความเศร้าสะท้านในหัวใจอย่างคาดคิดไม่ถึง มีข้อสังเกตอันสำคัญประการหนึ่งคุณแม่บุญเรือนได้สั่งให้หยุดนาฬิกาเรือนใหญ่ไว้ในเวลา 11.00 น. เศษทั้งสองเรือน ท่านบอกว่าหนวกหู ศิษย์ได้ทำตามที่ท่านขอโดย มิได้เฉลียวใจแต่อย่างใด และแล้วในเวลา 11.00 นาฬิกา ของวันที่ 9 กันยายน 2507 คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ได้วางสังขารทั้งร่างจากไปอย่างไม่มีวันกลับ คำสั่งสอนอันเป็นอมตะธรรม ความดี สิ่งศักดิ์สิทธิ์หลายอย่างที่คุณแม่บุญเรือนมอบให้ อาทิ พระพุทโธ ถุงเขียวเหนี่ยวทรัพย์ ข้าวตอกพระร่วง ศิลาน้ำ ของอธิษฐานยังคงศักดิ์สิทธิ์และมีอิทธิฤทธิ์ ประทับความรู้สึกและดวงใจ ของลูกหลานและศิษย์อยู่อย่างลึกซึ้งแนบแน่นนานเท่านาน