Call - out culture วัฒนธรรมการ ‘แบน’ ผู้เห็นต่าง
ความเคลื่อนไหวที่เรียกว่า วัฒนธรรมการ ‘แบน’ Cancel Culture หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Call - out culture คือการ "แบน" เลิกสนับสนุนคนที่โดยแบนโดยกลุ่มคนจำนวนมาก เนื่องจากมีการกระทำที่ไม่น่าพอใจสำหรับกลุ่มคนเห็นต่าง ไม่ว่าจะเป็นเชิงคำพูด พฤติกรรม ทัศนคติ หรือการแสดงความคิดเห็นต่างๆ ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย เนื่องจากผู้คนตระหนักถึงอำนาจของตัวเองมากขึ้น เป็นต้นว่าฉันชอบใครฉันก็สนับสนุนคนนั้น ฉันไม่ชอบใครฉันก็เลิกสนับสนุนคนนั้น
ถามว่า...กองทัพชาวโซเชียลปราบผู้เห็นต่าง ดีหรือไม่ดี...?
มุมมองของฝ่ายที่เลือกใช้วิธีคณะทัวร์นักล่าอาจจะมองว่า เป็นวิธีที่ทำให้บุคคลที่โดนแบน“รับผิดชอบต่อสังคม” ด้วยการขอโทษและปรับทัศนคติตนเอง แต่ว่าในทางกลับกันมุมมองของอีกฝั่งหนึ่งก็มองว่ากระแสนี้รุนแรงเกินไป หลักธรรมะมีคำสอนอยู่ว่าเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร มนุษย์ไม่ควรสร้างความแค้นด้วยการก่อหนี้แค้น
ขณะเดียวกันสังคมคนไทยก็ควรพิจารณา ย้อนถามตัวเองด้วยว่า ชีวิตทุกวันของเรา สมควรแล้วหรือที่จะมาแลกค่าเสียเวลาที่มาพร้อมกับความเกลียดชัง เข้าแลกความแค้นกับคนที่ไม่รู้จัก สร้างเวรและวาทกรรมต่อกันละกัน หรือ แตกหักความสัมพันธ์อันดีกับบุคคลที่เรารู้จักด้วยเพียงเพราะคิดเห็นไม่ตรงกันในเรื่องที่ไม่ได้สร้างประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต
อย่าลืมว่าโลกโซเชียลเป็นเพียงโลกเสมือนจริง ไม่ใช่โลกที่แท้จริง เราไม่รู้ว่าใครเป็นใคร หน้าตาแบบไหน มีภูมิหลังที่มาอย่างไร ข้อเท็จจริงประการใดบ้าง อย่าเชื่อแรงยั่วยุบนอินเทอร์เน็ต มีให้เห็นมานักต่อนัก ยอดไลค์ ยอดแชร์ ยอดตอบที่มากมายก็อยู่แค่ตรงห้องสนทนาของประเด็นนั้น ๆ ความดราม่า สนุกตื่นเต้น เรื่องที่แต่งแต้มเติมสีสัน มีเพียงชั่วครู่ขณะ แต่เพียงไม่นานเรื่องราวตรงห้องนั้นก็จะหมดความน่าสนใจ ผู้คนต่างพากันลืม ต่างคนต่างแยกย้าย แล้วหันไปสนใจประเด็นใหม่ ๆ ก็จะเหลือแต่คนหัวรุนแรงที่พลาดพลั้งกระทำความผิดไปแล้วต้องรับกรรมอยู่เพียงผู้เดียว ดังคำว่า “อบอุ่นบนโลกออนไลน์ เดียวดายอยู่หน้าคอม” คุ้มค่าแล้วหรือไม่ที่จะสร้างเวรกรรมกันต่อผ่านทางโซเชียล...?
ดังนั้น มนุษย์ทุกคนพึงต้องระวังและมีสติ รู้ทัน รู้จักคิดวิเคราะห์ (critical thinking) ป้องกันระวังการที่จะตกเป็นเหยื่อ และไม่หลงไปเป็นผู้กระทำผิดโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม
*ดารา กีฬา การเมือง โดนแบนซะเป็นเทรนด์ไปแล้ว แต่ไทยเรายังดีที่คนไทยไม่ใจร้ายจี้แล้วจี้อีก ต่างชาติเล่นซะจมดิน*
รูปภาพ : เครดิตบนภาพ
เจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์
มาตรการ ‘มหาเถรสมาคม’ - ‘คพช.’ กู้คืนศรัทธาวงการสงฆ์: บทเรียนจากปีแห่งการล้างบาง
เผยประวัตินักธุรกิจอายุน้อยร้อยล้าน ผู้ต้องสงสัยฆ่าหนุ่มขับอัลติสบนทางด่วน พบมีหมายจับพยายามฆ่าด้วย
เขมรเผย เราจะเป็นเพื่อนบ้านไทยอย่างถาวร
เจาะสเปก กริเพน ทําไมกองทัพไทยถึงเลือกใช้
ศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิต "จ้านฮ่าวหลี่" คดีฉ้อโกงพันล้านหยวน
พ่อแม่เปิดกล้องหัวใจแทบสลาย แม่บ้านแอบใส่ "เดทตอล" ในขวดนมให้ลูกน้อยกิน
เมื่อเกิดภาวะ รักเขาข้างเดียว
นายกรัฐมนตรีกัมพูชา “ฮุน มาเนต” เรียกร้องให้สื่อมวลชนรายงานข่าวชายแดนกัมพูชา–ไทยอย่างถูกต้องตามจริยธรรมวิชาชีพ
Avatar 3 ช่วยแบก MAJOR ไม่ไหว! กำไรดิ่งหนัก 30%
เกาหลีเหนือ..จับหญิงศัลย์ฯหน้าอก ลั่นไม่เป็นสังคมนิยม
"ภูมิรพี"เด็กไทยฟุตบอล U17 สู่ตัวหลักมือกาวมัธยมปลายในญี่ปุ่น
เจาะสเปก กริเพน ทําไมกองทัพไทยถึงเลือกใช้
Avatar 3 ช่วยแบก MAJOR ไม่ไหว! กำไรดิ่งหนัก 30%
แนะนำ! เว็บไซต์ ai สามารถวาดรูป [l8+](สร้างฟรี) ผู้ใหญ่เท่านั้น
เขมรเผย เราจะเป็นเพื่อนบ้านไทยอย่างถาวร
เผยประวัตินักธุรกิจอายุน้อยร้อยล้าน ผู้ต้องสงสัยฆ่าหนุ่มขับอัลติสบนทางด่วน พบมีหมายจับพยายามฆ่าด้วย
สัมมาทิฏฐิ: แสงสว่างเดียวในโลกที่ AI ก็ก๊อปไม่ได้นะจ๊ะ (สร้างกับ เอไอ)
กรีกโยเกิร์ต มหัศจรรย์สิ่งดีๆจากธรรมชาติ
ทึ่งทั่วโลก : "เดโกโทระ" รถสิบล้อแต่งศิลป์ งานศิลปะสไตล์ญี่ปุ่น อลังการงานสร้างเหมือนกันนะเนี่ย
พืชพรรณไม้น่าสนใจ : จินโจโรยักษ์ "ซากดึกดำบรรพ์ที่มีชีวิต" หนึ่งในพืชที่ดูแปลกตาและน่าทึ่งที่สุดในโลก


